2 ขุนคลัง พปชร. ประสานเสียงมาตรการแก้หนี้รัฐบาลไม่ตรงปก แนะถึงเวลาเร่งปฏิรูประบบสถาบันการเงิน

26 พฤศจิกายน 2567 เวลา 15.00 น. ที่พรรคพลังประชารัฐ – สองขุนคลัง พปชร. นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล และ ดร.อุตตม สาวนายน ออกมาประสานเสียงชี้มาตรการแก้หนี้รัฐบาล (ล่าสุด) ไม่ตรงปก แนะถึงเวลาเร่งปฏิรูป ระบบสถาบันการเงิน เพื่อสร้างความเป็นธรรมและขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่อคนไทยทุกคน

มาตรการแก้หนี้ตีกรอบแคบ ไม่ครอบคลุม ไม่ทั่วถึง ไม่เบ็ดเสร็จ
ดร.อุตตม กล่าวว่าเป็นเรื่องดีที่รัฐบาลประกาศมาตรการด้านเศรษฐกิจซึ่งให้ความสำคัญกับการเร่งแก้ไขปัญหาหนี้ เพราะเป็นปัญหาที่ฉุดรั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่รวดเร็วและยั่งยืน อย่างไรก็ตาม มาตรการที่ประกาศยัง “ไม่ครอบคลุม” และ “ไม่ทั่วถึง” โดยระบุว่าหนี้ครัวเรือนไทยกำลังเป็นระเบิดเวลาทางเศรษฐกิจ แต่มาตรการ แก้หนี้ของรัฐบาลกลับไม่ครอบคลุมถึงหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อบัตรเครดิต ที่เป็น NPL ไปแล้วไม่ต่ำกว่า 3 แสนล้านบาท หรือแม้กระทั่ง สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ซึ่งเหล่านี้เป็นหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูง และยังไม่ครอบคลุมถึงหนี้นอกระบบที่อาจมีมูลค่าแตะ 3.97 ล้านล้านบาท (อ้างอิงข้อมูลจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย) ขณะเดียวกัน ยังตีกรอบแคบช่วยเหลือเฉพาะลูกหนี้ที่มีปัญหาไม่เกิน 1 ปี ทิ้ง SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากโควิดที่มียอดเสียกว่า 5 ล้านบัญชี มูลหนี้รวม3.8 แสนล้านบาท ทั้งที่ SMEs ถือเป็นกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจสร้างมูลค่ากว่า 6.1 ล้านล้านบาท (35.2% ของ GDP) และมีจ้างงานถึง 28 ล้านคน (70% ของการจ้างงาน) การละเลย SMEs เท่ากับทำลายฐานเศรษฐกิจของประเทศ

การปรับโครงสร้างหนี้ต้องทำอย่างครบวงจร พร้อมปฏิรูประบบสถาบันการเงิน
ดร.อุตตม ยังได้เสนอแนะแนวทางการปรับโครงสร้างหนี้ต้องทำครบวงจร นำหนี้ของลูกหนี้ทุกประเภท ทั้งหนี้ธุรกิจ หนี้ครัวเรือน หนี้การเกษตร/สหกรณ์ และหนี้นอกระบบ มารวมกันแล้วกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ ดึงทุกหน่วยงานเข้าร่วมแก้ปัญหาแบบบูรณาการ ปรับโครงสร้างอย่างมีประสิทธิภาพ กำหนดอัตราดอกเบี้ยและการชำระหนี้ให้ยืดหยุ่นและสอดคล้องศักยภาพรายได้ พร้อมเติมทุนใหม่ พัฒนาทักษะอาชีพ เพื่อให้เกิดความยั่งยืน
“การปฏิรูประบบสถาบันการเงินควรเดินคู่กับการปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อให้ประชาชนฐานรากและ SMEs เข้าถึงแหล่งทุนได้ง่าย ต้นทุนกู้เงินต่ำลง” ดร. อุตตม กล่าวทิ้งท้าย

สภาพปัญหาและความจำเป็นในการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน
ขณะที่ นายธีระชัย ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน โดยชี้ให้เห็นถึงปัญหาเชิงโครงสร้างการเงินที่ลักลั่น ส่งผลให้ประชาชนฐานรากและ SMEs เข้าถึงสินเชื่อยาก ปัจจุบัน อัตราอนุมัติสินเชื่อวงเงินเล็กหดตัว-4.6% (2567/Q3) และ SMEs กว่า 50% ขาดโอกาสเข้าถึงสินเชื่อในระบบ ขณะที่ ดอกเบี้ยเงินกู้รายย่อยสูงสุดถึง 7% เช่นเดียวกับส่วนต่างดอกเบี้ยรายย่อยเงินฝาก-เงินกู้ของธนาคารไทยสูงถึง 7% ส่วนหนึ่งส่งผลให้กำไรปี 2566 ของธนาคารพาณิชย์ 9 แห่ง ทะลุ 226,571 ล้านบาท คาดปี 2567 ก็ไม่ต่างกัน ถึงเวลาที่ต้องปฏิรูปธนาคารเพื่อประชาชน
“ปัญหาเหล่านี้สะท้อนถึงความล้มเหลวของรัฐบาลในการบริหารจัดการระบบการเงิน ซึ่งยังไม่มีมาตรการที่ชัดเจนในการปรับโครงสร้างเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องเหล่านี้” นายธีรชัย กล่าวเสริม

มาตรการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน
นายธีระชัย อธิบายถึงมาตรการปฏิรูประบบสถาบันการเงินต้องมี 3 มาตรการสำคัญด้วยกัน

1) เพิ่มการแข่งขันในตลาดสถาบันการเงิน ด้วยการพิจารณาอนุมัติจัดตั้งธนาคารท้องถิ่น (Regional Bank) เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงสินเชื่อในพื้นที่ชนบท เพราะจะเข้าใจข้อมูลเฉพาะตัวของลูกหนี้ในท้องถิ่นได้ดีกว่า และพิจารณาอนุญาตให้ธนาคารต่างชาติ เข้ามาจัดตั้งสาขาในประเทศไทย เพื่อลดการผูกขาดของธนาคารพาณิชย์ในประเทศ

2) เปิดประตูกว้าง สร้างการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสำหรับประชาชนฐานรากและ SMEs ด้วยการกระตุ้นให้ธนาคารพาณิชย์ลดมาตรฐานเครดิตสกอร์ พร้อมนำข้อมูลประวัติการชำระค่าสาธารณูปโภคต่างๆ มาประกอบการอนุมัติสินเชื่อ เพื่อให้ประชาชนฐานรากสามารถกู้ยืมได้ง่ายขึ้น และรัฐบาลให้ บสย. ค้ำประกันหนี้กรณีพิเศษให้แก่ คนตัวเล็ก และ SMEs ในสัดส่วน 80% วงเงินไม่เกิน 3 ล้านบาท แต่ต้องกู้หนี้เพื่อลงทุนใหม่ พร้อมจัดตั้งกองทุน Startup Fund เพื่อส่งเสริมการเริ่มต้นธุรกิจใหม่

3) ลดส่วนต่างดอกเบี้ยเพื่อความเป็นธรรม ด้วยการจัดเก็บภาษีลาภลอยชั่วคราว (Windfall Tax) กับธนาคารที่มีส่วนต่างดอกเบี้ยสูงเกินกำหนด โดยนำรายได้จากภาษีนี้ไปสนับสนุนโครงการช่วยเหลือประชาชนฐานราก

สุดท้าย พรรคพลังประชารัฐขอเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงความจริงจัง จริงใจและเร่งดำเนินการปฏิรูประบบสถาบันการเงินเพื่อความเป็นธรรมและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนของคนไทยทุกคน

“ปฏิรูประบบสถาบันการเงินไทย เพื่อคนไทยทุกคน”

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
Written By
More from pp
Lumpinee World Championship presented by Meta Park
เมตา พาร์ค ร่วมกับ ศูนย์พัฒนากองทัพบก (สนามมวยลุมพินี) ปรับภาพลักษณ์ครั้งใหญ่ สู่สายตานานาชาติด้วยโลกดิจิทัลเสมือนจริง ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Lumpinee World Championship presented...
Read More
0 replies on “2 ขุนคลัง พปชร. ประสานเสียงมาตรการแก้หนี้รัฐบาลไม่ตรงปก แนะถึงเวลาเร่งปฏิรูประบบสถาบันการเงิน”