สันต์ สะตอแมน
อ้าว..แล้วกัน!
วานนี้ ผมฝากคุณกัน จอมพลัง ช่วยไปหยุดพวก (ปากหมา) ที่พูดให้ร้ายมูลนิธิองค์กรทำดี ที่คุณบุ๋ม ปนัดดาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงอยู่ให้ที
ก็พอดี วานนี้เช่นกัน คุณกัน จอมพลัง ได้โพสต์ภาพและข้อความ.. “Fc ทักมาขอให้ผมช่วยพี่รถขุด ที่เดินทางไปช่วยขุดดินที่เชียงราย
ระหว่างเดินทางกลับถูกด่านชั่งน้ำหนักจังหวัดพะเยา ของกรมทางหลวงจับกุม ฐานรถน้ำหนักเกิน พร้อมส่งดำเนินคดีและถ้าจะประกันตัวและรถต้องใช้หลักทรัพย์กว่า 320,000
หลังจากประกันต้องไปศาลต่อเพื่อจ่ายค่าปรับและมีคดีติดตัว เคสนี้ผมรับปากช่วย ผมจะจ่ายค่าปรับให้เอง
ส่วนรถขุดคันอื่นๆที่มาช่วยขุดดินออกจากเชียงรายแล้ว ขากลับโดนจับน้ำหนักเกิน ผมจะช่วยจ่ายค่าปรับให้ทั้งหมด
สิ่งที่ผมห่วงต่อไป ใครจะกล้ามาช่วยเชียงราย ช่วยแล้วต้องมีคดีติดตัวแล้วขากลับรถขุดจะกลับกันยังไง
(เคสนี้ไม่ใช่ตำรวจที่เป็นต้นจับนะครับ กรมทางหลวงของกระทรวง คมนาคม เป็นคนจับมาส่งครับ แล้วข้างรถก็แขวนป้ายช่วยน้ำท่วมอยู่ก็ยังโดน)
ผมอยู่หน้างานทุกวัน ผมโคตรสงสารคนทำงานเลย ทุกคนเต็มที่ทุ่มเทจริงๆ แต่นี่หรอคือสิ่งตอบแทนที่คนมาช่วยได้รับ สงสารคนช่วย สงสารชาวบ้าน”
เฮ้ออ..ก็อยากจะปรบมือ-ชื่นชมให้กับความขยันขันแข็งในการทำหน้าที่ตรงไปตรงมานี้เหลือเกิน ถ้าไม่บังเอิญว่าคนกรมทางหลวง “เถรตรง” เสียจนไม่รู้หวัน-รู้แดด!
และที่คุณกันนำมาโพสต์ก็ไม่ได้จะตำหนิหรือโทษใคร คงเพียงต้องการบอกเล่า เผื่อจะถึงหู-เข้าตาผู้หลัก-ผู้ใหญ่ หรือผู้บังคับบัญชาจะพอหาทาง “อนุโลม”อย่างไรได้
ซึ่งก็จะทำให้คนที่เขาไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่กำลังตกอยู่ในสภาพย่ำแย่ทั้งสภาพร่างกาย-จิตใจอยู่ในขณะนี้ ได้มีขวัญ-กำลังใจ ..
ไม่ท้อแท้ อ่อนเปลี้ยเพลียแรงกับการทำคุณแต่ตัวเองต้องเดือดร้อนอย่างนี้!
โดยเฉพาะคุณกันที่อยู่หน้างานทุกวัน นอกจากเหนื่อยกาย ยังจะต้องมาคอยควักกระเป๋าจ่ายค่าปรับรถน้ำหนักเกินอีก ไม่แค่สงสารคนช่วย สงสารชาวบ้าน..
ผมนั้น เห็นจะให้สงสารคุณกัน จอมพลังไปด้วยคน!
ส่วนนั่น..ดีใจ ไชโย โห่ร้องกันไปเถอะ แต่ให้รู้ว่า 10,000 บาทที่ได้ไปนั้น ไม่ใช่เงินของตระกูลชินนะ หากเป็นเงินจากภาษีของคนไทยเราทุกคนนี้แหละ
รัฐบาล-แพทองธารน่ะแจกเงินได้หน้า ส่วนประชาชนทั่วหน้า แบกภาระหนี้หลังแอ่นไปจนตาย!
เช่นนี้..จึงให้เห็นด้วยที่คุณเทพไท เสนพงศ์ ตั้งข้อสงสัย..
2.เงิน 10,000 บาท เป็นเงินที่มาจากไหน
ถ้ารัฐบาลก่อหนี้นำเงินมาแจกประชาชนบางกลุ่ม แต่คนรับภาระหนี้สินตกอยู่กับคนไทยทั้งประเทศ
3.จากนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตคนละ 10,000 บาท เปลี่ยนมาเป็นแจกเงินสด 10,000 บาท ผิดเงื่อนไขนโยบายหาเสียงที่ให้กับกกต.หรือไม่
4.การกำหนดแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตให้กับคนไทยทุกคน ที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป เปลี่ยนมาเป็นแจกเฉพาะบางกลุ่ม แจกไม่ครบ 56 ล้านคน เป็นนโยบายตรงปกหรือไม่
5.การนำเงินมาแจก เป็นการจัดสรรงบประมาณแผ่นดิน ไม่ได้เงินกู้มาแจกจริงหรือไม่
6.กกต.จะเอาผิดกับพรรคเพื่อไทย ที่ใช้นโยบายหลอกลวง เพื่อหวังคะแนนเสียง เปรียบเหมือนการซื้อเสียงล่วงหน้าได้หรือไม่
7.การเลือกตั้งครั้งหน้า ถ้ามีพรรคการเมืองใด ใช้นโยบายหาเสียงแจกเงิน คนละ 20,000 หรือ 30,000 บาท หรือมากกว่านี้ สามารถทำได้หรือไม่”
ครับ..หน่วยงานที่จะให้ความกระจ่างได้ คงมีแต่เพียง..
กกต…ที่ไม่ได้ย่อมาจาก กูกวนตีน!
