สันต์ สะตอแมน
“ที่ผ่านมา..
รัฐธรรมนูญหลายฉบับไปตัดทอนอำนาจและวางระบบให้นักการเมืองทำงานไม่ได้ ถ้านักการเมืองทำงานไม่ได้ก็จะสนองต่อประชาชนไม่ได้
ฉะนั้น ส่วนใหญ่ปัญหาอยู่ที่ตัวของกฎหมายไปทำให้นักการเมืองอ่อนแอ ประชาชนจะพึ่งใครก็ไม่ได้”
เนี่ย..บิ๊กทิน เอ๊ยไม่ใช่สิ คุณสุทิน คลังแสง มองอย่างนี้ ในท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์กับการ (เร่ง) แก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลและฝ่ายค้าน
ซึ่งก็แน่ล่ะ อาชีพนักการเมือง อะไรที่เป็นอุปสรรค โดยเฉพาะกฎหมายที่ไม่สามารถทำให้พวกตัวเองทำในสิ่งที่ต้องการได้ตามอำเภอใจแล้ว ก็ต้องหาทางแก้-รื้อมาโดยตลอด
แต่ที่คุณสุทินบอก.. “การมองรัฐธรรมนูญต้องมองเป็นหลายชั้น คือ อาจจะมองว่าเป็นประโยชน์กับนักการเมือง แต่ถ้านักการเมืองเข้มแข็งหรือมีอำนาจยึดโยงกับประชาชน
และสามารถใช้อำนาจนั้นทำงานสนองต่อเจตนารมณ์ของประชาชนได้ และนั่นคือประโยชน์ของประชาชน
ซึ่งก่อนที่ประชาชนจะได้ประโยชน์ นักการเมืองต้องมีพลังพอเพื่อทำให้พี่น้อง” นั้น
อย่าว่าหยาบคายเลย..ถุย! เมื่อไรก็ตามที่นักการเมืองมีพลังพอ เมื่อนั้น การโกงกิน-คอร์รัปชันก็จะเบ่งบาน แล้วก็นำไปสู่การ “ยึดอำนาจ” โดยทหาร..วนลูปอยู่อย่างนี้เรื่อยมา!
ไม่เคยเลย-อย่าแหลที่บอกประชาชนจะได้ประโยชน์ และการเขียนรัฐธรรมนูญ คณะผู้จัดทำเขาไม่ได้มีเจตนาที่จะตัดทอนอำนาจนักการเมือง หรือทำให้นักการเมืองอ่อนแอ
เขามุ่งหวัง-ต้องการแค่ไม่อยากให้นักการเมืองใช้พลัง-อำนาจโกงชาติ-ปล้นแผ่นดินได้ง่ายดายเหมือน 10-20 ที่ผ่านมาเป็นสาระสำคัญ!
และขนาดคิด-ทำรัฐธรรมนูญที่เข้มแข็งรัดกุมดุจสายสิญจน์ เพื่อป้องกันไม่ให้คนไม่ดีได้ปกครองประเทศ แต่นักการเมืองชั่วก็ยังหาช่อง-หารูมุดเข้ามาบริหารประเทศจนได้
ได้แล้ว..ยังหนำใจไม่พอ ต้องรีบลงมือรื้อ-แก้รัฐธรรมนูญเพื่อให้ตัวเองมีพลัง-อำนาจพอที่จะบันดาลทุกสิ่งตามที่นักการเมืองต้องการได้โดยไม่มีกฎหมายมาเป็นอุปสรรคขัดขวาง..
กระทั่งประเด็น “จริยธรรม” ก็ยังหน้าด้านที่จะรวมหัวกันรื้อ-แก้!!
แต่..อย่าลำพองไป เพราะนอกจากคุณพิชิต ไชยมงคล คณะ คปท.จะส่งเสียงดักคอ.. “แก้รัฐธรรมเพื่อทักษิณ เท่ากับรัฐบาลออกบัตรเชิญคนลงถนน” แล้ว
เมื่อวาน-23 กันยา. คุณศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ก็ไปยื่นร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้ดำเนินการไต่สวนและมีความเห็นเกี่ยวกับกรณีที่เขาได้เปิดเผยว่า..
“ตามที่มีนักการเมือง/พรรคการเมืองหลายพรรคได้ยื่นขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ “จริยธรรม” นั้น
โดยที่นักการเมือง/พรรคการเมืองเหล่านั้นต่างมีบาดแผลจากการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญกันทั้งสิ้น
ทำให้อดีตนักการเมืองหลายคนต้องพ้นจากตำแหน่ง หลุดจากวงโคจรของการเป็นนักการเมืองไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็ล้วนมีผลมาจากการฝ่าฝืนจริยธรรมแทบทั้งสิ้น
ดังนั้น การที่พรรคการเมือง/นักการเมืองขอแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราในเรื่องที่เกี่ยวกับจริยธรรม
จึงอาจเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 185 ว่าด้วยการขัดกันแห่งผลประโยชน์โดยตรง”