“เอกนัฏ” ส่งสัญญาณใหญ่เอาจริงเอาจังกับการ “แก้ไขปัญหากากสารพิษ” ทันที

หลังจากเดินทางเข้ากระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อพบ และหารือกับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อทำความเข้าใจเบื้องต้นแล้ว นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้เดินทางไปติดตามการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากโรงงานเก็บกากสารเคมีอุตสาหกรรมของบริษัท วิน โพรเสส จำกัด บ้านหนองพะวา ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เมื่อ ในวันที่ 11 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา

การลงพื้นที่ครั้งนี้ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ได้ตรวจพื้นที่โรงงาน และอาคารเก็บสารเคมีที่ถูกไฟไหม้ ตรวจดูจุดน้ำไหลผ่าน และบ่อดักน้ำเสียของโรงงาน ก่อนจะตรวจสอบความคืบหน้าของการผันน้ำ เพื่อป้องกันน้ำสารเคมีจากโรงงานไหลเข้าพื้นที่ชาวบ้าน และพื้นที่เกษตรกรรม พร้อมทั้งรับฟังปัญหาจากชาวบ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่องค์การบริหารส่วนตำบลบางบุตร อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง

นายเอกนัฏเปิดเผยว่า ตนตั้งใจจะต่อสู้กับขยะพิษอย่างจริงจัง ตั้งแต่ก่อนเข้ากระทรวงอุตสาหกรรม และได้เขียนคติประจำใจในการทำงานเพื่อเตือนสติตัวเองในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นจะปล่อยไปแบบนี้ไม่ได้ เนื่องจากส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน

การลงพื้นที่ในครั้งนี้เป็นการส่งสัญญาณอย่างชัดเจนว่า ตนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง และยินดีร่วมมือกับทุกฝ่ายเพื่อแก้ไขปัญหาขยะพิษ

นายเอกนัฏ ยังกล่าวต่ออีกว่า สำหรับสิ่งที่จะต้องเร่งดำเนินการเพื่อจัดการกับปัญหากากสารพิษในภาพรวมเพื่อไม่ให้ปัญหาเช่นนี้เกิดขึ้นอีก ประกอบด้วย 3 ประการ ได้แก่

1.ปรับแก้พระราชบัญญัติโรงงาน เพื่อเพิ่มโทษโรงงานขยะพิษที่กระทำผิด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับแก้ โดยที่ผ่านมาโรงงานอาศัยช่องโหว่ของกฎหมาย ยอมเสียค่าปรับหลักแสน แลกกับผลประโยชน์หลักพันล้านบาท

2.ตั้งกองทุนเป็นหลักประกัน โดยรวบรวมเงินจากผู้ประกอบการที่ประกอบกิจการในลักษณะแบบนี้ เพื่อมาเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากภาคอุตสาหกรรม และเป็นทุนบริหารจัดการหากเกิดกรณีดังกล่าวขึ้น โดยไม่ต้องเป็นภาระงบประมาณของรัฐบาล

3.การรวมศูนย์การกำจัดขยะรีไซเคิล หรือตั้งนิคมอุตสาหกรรมรับกำจัดขยะพิษโดยเฉพาะขึ้นมา เพื่อให้ง่ายต่อการกำกับดูแล

สำหรับการแก้ไขปัญหาโรงงานวินโพรเสสนั้น นายเอกนัฏเปิดเผยว่า เบื้องต้นได้จากการหารือกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม จะเร่งขนอะลูมิเนียมดรอสที่อยู่ในถุงบิ๊กแบ็กในโกดังของโรงงานออกไปให้หมดโดยเร็ว

ลำหรับโกดังได้รับผลกระทบจากไฟไหม้ส่งผลให้เกิดความเสียหาย เช่น การรั่วซึม จะต้องมีการป้องกันไม่ให้น้ำไหลผ่านกองอะลูมิเนียมดรอส เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำจากโรงงานที่มีการปนเปื้อนไหลออกไปกระทบกับพื้นที่ประชาชน รวมถึงป้องกันไม่ให้เกิดกลิ่นเหม็นกระทบกับชาวบ้าน โดยตนจะลงพื้นที่มาติดตามการแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิดต่อไป