สันต์ สะตอแมน
อืมม..ครม.ใหม่หน้าตาเป็นอย่างไรไม่รู้?
แต่วานซืน คุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ รัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เปิดเผย..
“ภายหลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ เตรียมแถลงนโยบายต่อสภาผู้แทนราษฎรนั้น กระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอโครงการให้ที่ประชุม ครม. ชุดใหม่ พิจารณาเห็นชอบ
ทั้งโครงการที่เคยเสนอไปแล้ว และโครงการใหม่ที่อยู่ในกระบวนการสอบถามความเห็นจากหน่วยงานอื่น ซึ่งมีความพร้อมแล้ว
รวมจำนวน 13 โครงการ วงเงินรวม 797,378 ล้านบาท”
ครับ..เจ็บคอ ไม่ขอพูดดีกว่า บอกให้รับทราบกันไว้เท่านี้แหละ ส่วนที่คุณนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ โพสต์.. *ได้กลิ่นน้ำเน่าโชยมา
-การไปฉกส.ส.เขามาบางกลุ่ม ทิ้งบางกลุ่ม ในทางการเมืองเขาไม่ทำกัน เพราะทำให้พรรคการเมืองของเขาอ่อนแอ และอาจถึงขั้นแตกสลาย
ถือเป็นการถอยหลังทางการเมืองของไทยอีกครั้งหนึ่ง
– ระบอบประชาธิปไตยที่ดี ควรส่งเสริมให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง ใครมีส่วนร่วมหรือใครร่วมมือและสยบยอมกับวิธีการอย่างนี้ ต่างน่ารังเกียจและน่าประนามทั้งสิ้น
-รัฐบาลที่ดีต้องมีฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง รัฐบาลที่ดำรงอยู่ในที่ขณะฝ่ายค้านอ่อนแอ ไม่อาจเชื่อได้ว่าจะเป็นรัฐบาลที่ดี
-การแยกสลายพรรคการเมือง ไม่น่าจะเป็นความคิดของนายกรัฐมนตรีที่เป็นคนรุ่นใหม่ แต่นายกรัฐมนตรีน่าจะตกอยู่ภายใต้การครอบงำของนักการเมืองน้ำเน่าบางคน/”
แม้จะเจ็บคอ แต่พยายามฝืนพูดสักนิดนึงเพื่อจะบอกกับคุณนิพิฏฐ์ อย่าว่าแต่ไปฉกสส.เขามาบางกลุ่มทิ้งบางกลุ่มเลย ฉกยกพรรค เขาก็ทำมาแล้ว
ฉะนั้น.. “ในทางการเมืองเขาไม่ทำกัน” จึงเป็นเพียงทฤษฎีลมปาก ซึ่งทางปฏิบัติ นักการเมืองเขาทำได้ทุกอย่างที่ต้องการ..
โดยไม่สน-ไม่แคร์ น่ารังเกียจและน่าประนามแต่ไรมา!
อีกอย่าง ยุคนี้อย่าหวังพึ่งจะมี “ฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง” ต่อให้ “ผู้ครอบครองนายกฯ” ไม่ฉกสส.มาบางกลุ่ม ก็เห็นอยู่ทนโท่ว่า ฝ่ายค้านอ่อนแอปวกเปียกจนคนนินทา..
เพราะจ้องแต่จะเสียบร่วมรัฐบาลท่าเดียว!
ส่วนไอ้ที่ปากแข็ง..ไม่ร่วมกับรัฐบาลที่ตระบัดสัตย์ ก็พูดไปให้ดูเท่ๆ-เท้งๆไปอย่างนั้น เพราะเอาเข้าจริง ซีกรัฐบาลเขาก็ไม่เอาพวกมันอยู่แล้ว
แต่ถึงกระนั้น ก็ยังค้านแบบถ้อยที-ถ้อยอาศัย จะด้วย “ดีลฮ่องกง” หรือหวังไกลในอนาคตข้างหน้า ก็มีแต่ทอนกับสินเท่านั้นที่รู้!
อ้อ..รัฐบาลที่ดีน่ะ ไม่จำเป็นว่าฝ่ายค้านจะเข้มแข็งหรืออ่อนแอ ไม่มีฝ่ายค้านเลยสักคนก็ดีได้ ถ้ามุ่งมั่นตั้งใจทำงานเพื่อประเทศชาติ ประชาชน ไม่คิดโกง-ปล้นแผ่นดิน!
และที่คุณสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าว.. “ในอดีตอุดมการณ์ทางการเมืองของเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ไม่เหมือนกันเลย
แต่วันนี้คนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารพรรค หัวหน้าทั้ง 2 พรรค รวมถึงเลขาฯ และสมาชิกพรรคทุกคนมุ่งหน้าไปในทิศทางเดียวกันว่า
ปัญหาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนต้องได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้นเพราะประเทศชาติถอยหลังไปมาก
ดังนั้นจึงถึงเวลาแล้วที่จะต้องเดินหน้าร่วมกัน อะไรไม่เข้าใจกันหรือความขัดแย้งต้องทิ้งไว้ข้างหลัง”
อยากให้เก็บเป็นบันทึกความจำกันเอาไว้ โดยเฉพาะคนเสื้อแดงและคนที่สนับสนุนประชาธิปัตย์ จากนี้ก็อย่าได้โกรธแค้น-ขัดแย้งอะไรกันอีกเลย
เพราะ “อุดมการณ์ทางการเมือง” ที่ต่างกันในอดีต ตอนนี้เขาเหมือนกันแล้ว..แล้วเราชาวบ้าน-ประชาชน..
จะยัง “บ้า” (ถือหาง) กันอยู่ทำไม?