ผักกาดหอม
สันขวาน!
ยังงมกันอยู่เลยครับ นโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทย กระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital Wallet)
ผ่านมา ๑ ปี กับ ๔ เดือนแล้ว ที่นโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ถูกนำมาหาเสียง และกำหนดเป็นนโยบายรัฐบาลตามลำดับ
คืบก็เหมือนไม่คืบ
กลายเป็นตลกบริโภค ที่นายกรัฐมนตรี ต้องแถลงถึงความคืบหน้าของนโยบาย โดยเปลี่ยนหลักการ และรายละเอียดไปเรื่อย
ล่าสุดเห็นว่า ๒๔ กรกฎาคมนี้จะแถลงอีกรอบ เป็นการสรุปโครงการ รวมถึงขั้นตอนการลงทะเบียนและยืนยันตัวตน ก่อนจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ ๓๐ กรกฎาคม
ทำไมไม่คุยใน ครม.ให้จบก่อนแล้วค่อยแถลงทีเดียว ประชาชนจะได้ไม่สับสนเหมือนที่ผ่านมา
นายกฯ เศรษฐาเปิดนโยบาย แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ครั้งแรกในเวที “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน” เมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๖๖ ณ ยิมเนเซียม ๔ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
วันนั้นนายกฯ เศรษฐาบอกว่า…
“…นโยบายของพรรค จะทำให้เงินถูกอัดเข้าระบบหมุนหลายรอบ เอาธุรกิจที่ไม่เสียภาษี ซึ่งคาดว่ามีมากกว่า ๑ ล้านๆ บาทเข้าระบบ จะทำให้สามารถจัดเก็บภาษีได้ ๓ แสนล้านบาท จะไม่มีมาเฟียในธุรกิจเหล่านี้อีก ไม่มีตำรวจนอกแถวเรียกรับส่วยอีกต่อไป จะนำเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามา รวมทั้งสร้างกระเป๋าเงินดิจิทัล คนไทยอายุ ๑๖ ปีขึ้นไปจะได้รับเงินดิจิทัลเข้ากระเป๋า แต่ตัวเลขขออุบไว้ก่อน
โดยเหรียญดังกล่าวจะสามารถใช้ได้ในร้านค้าที่มีรัศมี ๔ กิโลเมตรจากบ้านพัก เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน โดยเหรียญดังกล่าวจะมีอายุใช้งาน ๖ เดือน สำหรับร้านค้าสามารถนำเหรียญเป็นเงินได้กับธนาคารรัฐใกล้บ้าน เป็นการสร้างงานสร้างรายได้ สร้างโอกาสให้ประชาชน ตามนโยบายของพรรคเพื่อไทย…”
วันนั้นชัดเจน ใช้คำว่า “เหรียญ”
ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน
กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน
เพราะพูดก่อนคิดนโยบาย แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตถึงได้เปลี่ยนรายละเอียดไปเรื่อยๆ
วันนี้ไม่มีการพูดเรื่อง “เหรียญ” แล้ว แต่บล็อกเชนยังกล่าวถึงกันอยู่
ที่สำคัญเปลี่ยนจากกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน เป็นกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ไฟกะพริบ จะกอบกู้จีดีพีประเทศให้โตพรวดๆ ให้ได้
นี่คือนโยบายที่ต้องผลาญงบประมาณแผ่นดินสูงกว่า ๕ แสนล้านบาท
เป็นนโยบายที่มีความเสี่ยงเพราะ “ปาก” ตั้่งแต่เริ่มแรก
เสี่ยงตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
เงินกว่า ๕ แสนล้านบาทจะหายวับไปกับตา โดยไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้เลย แม้จะเป็นการกระตุ้นระยะสั้นๆ ก็ตาม
นโยบายกลับไปกลับมาจนน่าเวียนหัวนี้ มีความน่าเชื่อถือต่ำลงไปทุกที
มาสรุปเบื้องต้นกันก่อน เงินดิจิทัลวอลเล็ต คนที่จะได้คือ
ประชาชนที่มีที่อยู่ในทะเบียนบ้าน
มีสัญชาติไทย
อายุเกิน ๑๖ ปี ณ เดือนที่มีการลงทะเบียน
ไม่เป็นผู้มีเงินได้พึงประเมินเกิน ๘๔๐,๐๐๐ บาทต่อปีภาษี
มีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินรวมไม่เกิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท
อะไรที่เอาเงินดิจิทัลวอลเล็ต ไปซื้อไม่ได้
สลากกินแบ่งรัฐบาล
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ยาสูบ
กัญชา
กระท่อม
พืชกระท่อม
ผลิตภัณฑ์กัญชาและกระท่อม
บัตรกำนัล
บัตรเงินสด
ทองคำ
เพชร
พลอย
อัญมณี
น้ำมันเชื้อเพลิง
ก๊าซธรรมชาติ
นี่คือสินค้าบริการเบื้องต้นที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด
เอาไปซื้อโทรศัพท์มือถือได้หรือไม่
๑๗ พฤษภาคม ที่ผ่านมา “เผ่าภูมิ โรจนสกุล” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยันว่าสามารถใช้เงินดิจิทัลซื้อได้ เพราะไม่ได้อยู่ในกลุ่มสินค้าต้องห้าม
มาวานนี้ (๘ กรกฎาคม) “เผ่าภูมิ โรจนสกุล” บอกว่า มือถือและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ มีความเป็นไปได้สูงที่จะถูกตัดออก
“…ตอนนี้อยู่ในการพิจารณาของกระทรวงพาณิชย์ เพื่อดูว่าสินค้าอะไรทำให้เงินออกไปนอกประเทศ โดยจะสรุปในที่ประชุมคณะอนุกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตวันที่ ๑๐ กรกฎาคม…”
ที่จะตัดออกคงเพราะเกรงว่า เงินไหลออก เพราะโทรศัพท์มือถือเป็นสินค้านำเข้า ๑๐๐%
ย้ำอีกที นโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ของรัฐบาลเพื่อไทย เป็นนโยบายเร่งด่วน เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
ผ่านมา ๑ ปี กับ ๔ เดือนแล้ว รายละเอียดซื้ออะไรได้ไม่ได้ยังไม่จบ
กว่าจะได้แจกก็ครบ ๒ ปีพอดี
เร่งด่วนกับผีอะไร!
ประเด็นสำคัญคือเม็ดเงิน ที่ชัดเจนที่สุดมีเพียงเม็ดเงินจากงบประมาณปี ๒๕๖๘ จำนวน ๑๕๒,๗๐๐ ล้านบาท
อีก ๒ แหล่งคือ บีบคอให้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รับผิดชอบจำนวน ๑๗๒,๓๐๐ ล้านบาท กับไปล้วงจากงบประมาณปี ๒๕๖๗ จำนวน ๑๗๕,๐๐๐ ล้านบาท ยังลูกผีลูกคน
ถ้าพลาดจาก ๒ แหล่งนี้ “งบกลาง” โดนควักแน่!
ต่ำๆ ก็ ๓ แสนล้าน
เตรียมตัวรับความฉิบหายวายป่วงกันได้เลย
ไม่ใช่ทอดเดียวครับ หลายทอด
ระวังเงินเฟ้อหนักกว่าเดิม
เข้าข่ายกู้มาแจก
อย่าลืมว่าปีนี้ “ลานีญา” แผลงฤทธิ์ ปลายปีไม่รอด! น้ำท่วมแน่ รัฐบาลจะเหลือเงินมาเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบหรือไม่
หรือรอเงินบริจาค เพราะคนไทยใจบุญ
ความเสียหายที่ได้รับจากโครงการที่ต้องใช้เงินกว่า ๕ แสนล้านบาทนี้ มันจะไม่สำแดงในทันที รัฐบาลถัดไปอาจเป็นผู้ที่ต้องมาเช็ดขี้เช็ดเยี่ยว เหมือนที่รัฐบาลลุงตู่ต้องมาตั้งงบประมาณใช้หนี้ความฉิบหายจากโครงการรับจำนำข้าวนานหลายปี
ก็ไม่มีอะไรซับซ้อนครับ แค่อยากให้เห็นภาพว่า นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตสามารถสร้างความฉิบหายได้แค่ไหน
