27 มิถุนายน 2567 นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความผู้รับมอบอำนาจ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมายื่นฟ้อง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และดูหมิ่นด้วยการโฆษณา รวม 2 ข้อหา
นายวิญญัติ กล่าวว่า งได้รับมอบหมายจากนายทักษิณให้มายื่นฟ้องคดีหมอวรงค์ เนื่องจากการรวบรวมพยานหลักฐานและวิเคราะห์จากสิ่งที่หมอวรงค์ได้โพสต์ทางเฟซบุ๊ก และTiktok รวมถึงการปราศรัยที่เวทีชุมนุมสะพานชมัยมารุเชษฐ์ มีคำพูดที่เข้าข่ายความผิดตามฟ้อง รวม 5 กรรมต่างวาระ ซึ่งเป็นความผิดที่ค่อนข้างชัดเจนสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกันมีการกล่าวพาดพิงสื่อให้ประชาชนเข้าใจว่าบุคคลที่พูดคือนายทักษิณ และพาดพิงถึงบุคคลในกระบวนการยุติธรรม และมีเจตนาให้บุคคลเข้าใจว่านายทักษิณวิ่งเต้นคดีด้วยถุงขนม 2,000 ล้านบาท จึงฟ้องร้องใน 2 ข้อหา และเรียกค่าเสียหายกรรมละ 20 ล้านบาท 5 กรรม รวม 100 ล้านบาท โดยศาลรับคำฟ้องหมายเลขดำที่ อ. 1961/2567 พร้อมนัดใต่ส่วนมูลฟ้องวันที่ 30 กันยายน 2567 เวลา 9:00 น.
นายวิญญัติ ยังกล่าวด้วยว่าแม้ข้อความที่หมอวรงค์โพสต์หรือปราศรัยนั้นจะไม่มีการเอ่ยชื่อของนายทักษิณโดยตรง แต่ประชาชนทั่วไปรวมถึงสื่อมวลชนเมื่อได้ฟังและอ่านแล้ว เข้าใจได้ว่าคือนายทักษิณ เพราะมีการระบุวันที่ว่าวันที่ 18 มิถุนายน 2567 ซึ่งเป็นวันที่นายทักษิณจะต้องเดินทางมาศาล และติดแฮชแท็กเอ่ยชื่อทักษิณ เพื่อเป็นการเน้นย้ำและดึงดูดให้คนสืบค้นได้ง่าย
นายวิญญัติยังบอกได้ว่าการฟ้องครั้งนี้ไม่ใช่การฟ้องปิดปาก แต่เป็นการแสวงหาความจริง และหาความยุติธรรมให้กับนายทักษิณ ส่วนกรณีที่หมอวรงค์บอกว่าไม่กลัว อยากให้นำเอาพยานหลักฐาน ที่มีมาสู้ในชั้นศาล และหากมีแหล่งข่าวคนใดก็สามารถนำมาเป็นพยานได้
ในส่วนประเด็นที่มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้เพียงเเต่เขาเเค่เดินทางเฉยๆ เเต่ไปเอาข้อมูลเกี่ยวกับที่นั่งเครื่องบินเเละรถรับส่งมาเผยเเพร่พร้เมข้อความที่ไม่จริง อย่าลืมปัจจุบันมีกฎหมาย PDPA ที่หากมีการนำข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาตมาเผยเเพร่นั้นมีความผิดตามกฎหมาย หากสืบได้ว่ามีนายตำรวจคนใดสั่งการให้ลูกน้อง ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นตำรวจตรวจคนเข้าเมืองหรือไม่ ตนเองไม่ยืนยันนำข้อมูลไม่ว่าจะเป็นกล้องวงจรปิดโดยไม่มีหมายศาลก็รอดูเลยว่าผู้ถูกกระทำเขาจะใช้สิทธิอย่างไร ก็เเยกดำเนินออกเป็นอีกคดีได้ คดีนี้ที่ฟ้องก็อยากให้หมอวรงค์ใช้สิทธิให้เต็มที่ในการเรียกหลักฐานมา ซึ่งหากพบว่าข้อมูลหลุดมาจากเจ้าหน้าที่รัฐก็เข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ซึ่งต้องเตรียมรอรับผลเลย
ข่าว www.thaipost.net