เปลว สีเงิน
เห็นหน้าในจอโทรทศน์บ่ายวาน ขอทักทายผ่านตรงนี้
คิดถึงนะ “ไอ้สัส…ชำนาญ”!
ก็ “ชำนาญ จันทร์เรือง” นักวิชาการด้านกฎหมาย “รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่” ที่ถูกยุบพรรคและตัดสิทธิการเมืองไป ๑๐ ปี พร้อมธนาธรนั่นแหละ
เมื่อวานออกรายการ ช่อง ๒๒ พูดซะเท่
“เสียดายโอกาสประเทศ ที่ก้าวไกลไม่ได้เป็นรัฐบาล”
ผมก็เสียดาย ที่ประเทศมีนักวิชาการ “ไอ้สัส” อย่างพวกคุณ!
เพราะคุณไม่เพียงเก่งถึงระดับมหาบัณฑิตรัฐศาสตร์เท่านั้น ยังเก่งด้านภาษาศาสตร์ถึงระดับ “ราดบัณฑิต” ที่ผมต้องยกนิ้วให้เลยทีเดียว
คำว่า “ไอ้สัส” ก็นายชำนาญคนนี้แหละเป็นผู้บัญญัติขึ้นใช้ ในการพูดถึงคสช.
แยกศัพท์ให้เห็นที่มา-ที่ไปของคำว่า “ไอ้สัส” พร้อมความหมายไว้เสร็จสรรพ
ผมฟังแล้วศรัทธาในฉกาจภาษาของเขา นานแล้วไม่เห็นหน้า เห็นเมื่อวาน ก็ต้องทักผ่านหน้าจอ ว่า “ไอ้สัส”
นี่ไง…ที่ “ไอ้สัสชำนาญ” เขาโพสต์ถึงที่มา-ที่ไปของคำนี้
……………………………..
การเมืองไทย ในกะลา
ไอ้สัส ไม่ใช่คำหยาบ เพราะคำว่า “ไอ้สัส” คำนี้ มันเป็นคำที่แปลงมาจากภาษาอังกฤษ
ถ้าแยกแต่ละตัวแล้ว จะเป็นดังนี้
“ไอ้” มาจาก You = คุณ
“สัส” มาจาก suspicious = น่าระแวงหรือน่าสงสัย
รวมกัน ไอ้สัส = You are a suspicious person (คุณเป็นคนที่น่าระแวงหรือน่าสงสัย)
ถ้าขยายความแล้ว ก็คือว่า 6 ปีแล้ว สงสัยว่าพวกคุณทำอะไรกันอยู่ ไม่ปฏิรูป ไม่รักษาสัญญาแล้วเหรอ ไม่ตรวจสอบคนโกงแล้วเหรอ ฯลฯ “ไอ้สัส” น่ะครับ
อ.ชำนาญ จันทร์เรือง
สมาชิกคณะก้าวหน้า
24 พฤษภาคม 2563
…………………………….
ฉะนั้น ที่ผมเรียก “ไอ้สัสชำนาญ” ไม่ต้องสะดุ้ง ว่าผมกร้านภาษาในที่สาธารณะ เพราะไอ้สัส คือคำพัฒนาทางภาษา ไม่ใช่คำหยาบ
“ไอ้สัสชำนาญ” ก็หมายถึง
“คุณชำนาญผู้น่าระแวง” หรือ “น่าสงสัย” ในการกระทำและความคิด ทางทัศนะผมเท่านั้นเอง!
“ปดิพัทธ์ สันติภาดา” หมอสัตว์-รองประธานสภา “พรรคก้าวไกล” นั่นเหมือนกัน
เมื่อก้าวไกลจากแกนตั้งรัฐบาล ด้วยซื่อบื้อ ต้องไปเป็นแกนฝ่ายค้าน เพราะต้องการรักษาเก้ารองประธานสภาฯไว้
ก้าวไกลจึงใช้วิธีขับ “หมอสัตว์” ออกจากพรรคไปฝากตัวอ่อนอยู่ในมดลูกพรรคเป็นธรรม
เมื่อวาน ก็ต้องเรียก “รองฯ อ๋อง-หมอสัตว์” คนนี้ว่า “ไอ้สัสปดิพัทธ์” จากกรณี ที่เขาโพสต์ข้อความในแพลตฟอร์ม X ว่า
“ผมได้สั่งการให้มีการตรวจสอบ IP address และความผิดปกติต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับเว็บไซต์ รับฟังความคิดเห็นต่อร่างกฏหมายแล้ว จะแจ้งให้ทุกท่านทราบข้อเท็จจริงโดยเร็วครับ”
#พรบนิรโทษกรรม
ก็ “นายปดิพัทธ์” ที่น่าระแวงหรือน่าสงสัย “ตรงตัว” ตามวจนานุกรม ฉบับ “ไอ้สัสชำนาญบัญญัติ” ทีเดียวเลยแหละ!
“เว็บไซต์รัฐสภา” ที่เขากำกับดูแล “เปิดรับฟังความคิดเห็น” ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๗๗ ของ “ร่างพรบ.นิรโทษกรรมประชาชน”
ฉบับ “นส.พูนสุข พูนสุขเจริญ” ทนายความจาก “ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน”
กับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ๓๖,๗๒๓ คน ร่วมกันเสนอ ตั้งแต่ ๑๓ พค.ที่ผ่านมา
๑๒ มิย.คือเมื่อวานซืน เป็นวันสุดท้ายของการเปิดรับฟังความคิดเห็น
เมื่อวาน (๑๓ มิย.) ก็ปิดการรับฟังความเห็น มีผู้ร่วมแสดงความคิดเห็นทั้งสิ้น ๙๐,๕๐๓ คน
ผลที่ได้ออกมา คือ….
“ไม่เห็นด้วย” กับร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับ “ทนายสามนิ้ว” ๖๔.๖๖%
“เห็นด้วย”เพียง ๓๕.๓๔%!
นายปดิพัทธ์ ใช้อำนาจสั่งตรวจสอบ IP address ทันที
ทำนองว่า คนไม่เห็นด้วย “มากกว่า” คนเห็นด้วย แบบนี้แสดงว่า “มีความผิดปกติ” เกิดขึ้น!
ตรวจสอบ IP address ก็คือตรวจสอบ “ที่มา” และ “ตัวตน” คนแสดงความคิดเห็น ว่ามาจากขบวนการ IO เหมือนที่ขบวนการสามนิ้วเคยทำกระทืบลุงตู่รายวัน ทำนองนั้นหรือเปล่า?
ฉะนั้น คำว่า “ไอ้สัส” จึงเหมาะกับพฤติกรรม “จิตซ่อนเร้น” ของนายปดิพัทธ์
เพราะตกมาตรฐานทาง “ความเป็นกลาง”!
รองอ๋องคง “แอบจิต” มั่นใจว่า เป็นทางของ “ส้มสามนิ้ว” อยู่แล้ว ต้องเฮโลเข้ามา “เห็นด้วย” กันเว็บไซต์แตกแน่
เพราะร่างพรบ.นิรโทษฉบับนี้……
ศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชน “คนกันเอง” ร่างและล่าชื่อ “คนกันเอง” มาร่วมกันเสนอ
และ “เว็บไซต์รัฐสภา” ที่เปิดรับฟังความคิดเห็น ก็รองประธานสภาฯ “คนกันเอง” เป็นผู้คุมเกมรายการ
ฉะนั้น ไม่น่าพลาด
การเข้าชื่อ การแสดงความคิดเห็นแบบนี่ มันงานถนัดคนขบวนการ “สามนิ้วนิยมล่มชาติ” อยู่แล้ว ต้องพาเหรดออกมา “เห็นด้วย” กับ “พรบ.นิรโทษ” ฉบับสามนิ้วนี้ ชัวร์
แต่เอาเข้าจริง ปรากฏว่า…
“อนุรักษ์นิยมเชิดชูชาติ” โดยมินัดหมาย แต่ใจตรงกันออกมากรอกแบบสอบถามและตอบ “ไม่เห็นด้วย” กับพรบ.นิรโทษ ฉบับสามนิ้ว มิดด้ามไปเลย!
อ๋องถึงกับ “เมาเบียร์หมัก” ออกอาหาร “พาลเพราะแพ้” เป็น “ไอ้สัสปดิพัทธ์” เพราะน่าระแวงในพฤติกรรม?
มันมีเหตุผลอะไร นอกเหนือจากแพ้ …….
แล้วสั่งตรวจสอบ IP address อ้างมีความผิดปกติ?
จิตไอ้สัสนั่นแหละ “ผิดปกติ”
เปิดรับฟังความคิดเห็นมา ๑ เดือนเต็ม ถ้ามีอะไรผิดปกติ ระบบอยู่กับมือต้องรู้แล้ว แต่พอผลสำรวจออกมาไม่ตรงสเปกเท่านั้นแหละ “ผิดปกติ” ขึ้นมาทันที!
“You are a suspicious person.” คือ “ไอ้สัส” จริงๆ!
ไหน…ดูซิ เนื้อหาร่างพรบ.นิรโทษกรรมฉบับ “ศูนย์ทนายความสิทธิมนุษยชน” หรือ “ทนายสามนิ้ว” ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์รัฐสภา ให้คนแสดงความคิดเห็น มีว่าไงบ้าง?
คน “รักชาติ-รักสถาบัน” เขาถึง “ไม่เอา-ไม่เห็นด้วย” ตั้งกว่า ๖๐%
เนื้อหาบางส่วน ก็ประมาณนี้………
ร่างพ.ร.บ.นี้ กำหนดให้นิรโทษกรรมแก่การกระทำความผิดที่เกิดขึ้นตั้งแต่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ จนถึงวันที่พ.ร.บ.ฉบับนี้ มีผลใช้บังคับ
โดยมี “คณะกรรมการนิรโทษกรรมประชาชน” เป็นผู้วินิจฉัยการกระทำของบุคคลที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมือง
หรือการแสดงออกทางการเมือง ที่สมควรได้รับการนิรโทษกรรม
เว้นแต่คดีตามร่างมาตรา ๕ ซึ่งได้รับการนิรโทษกรรมโดยคณะกรรมการไม่ต้องพิจารณาวินิจฉัย ดังนี้
๑.คดีความผิดตามประกาศและคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
๒.คดีพลเรือนที่ถูกดำเนินคดีในศาลทหารตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๓๗/๒๕๕๗ และฉบับที่ ๓๘/๒๕๕๗
๓.คดีตามฐานความผิดในมาตรา ๑๑๒ แห่งประมวลกฎหมายอาญา
๔.คดีตามฐานความผิดในพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘
๕.คดีตามฐานความผิดในพระราชบัญญัติออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๕๙
๖.คดีตามฐานความผิดที่เกี่ยวโยงกับคดีข้างต้น
ทั้งนี้ การกระทำของบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐ ที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ชุมนุมประท้วง หรือการสลายการชุมนุม ที่เกินสมควรกว่าเหตุ
หรือเป็นความผิดตามมาตรา ๑๑๓ แห่งประมวลกฎหมายอาญา ไม่ได้รับนิรโทษกรรม
และหากการกระทำของบุคคลที่ได้รับนิรโทษกรรมตามพระราชบัญญัตินี้ สร้างความเสียหายแก่บุคคลซึ่งไม่ใช่องค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ
ผู้เสียหายนั้น ยังคงมีสิทธิในการเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งจากผู้กระทำ
คนไทย “รักชาติ-รักสถาบัน” ตื่นแล้ว ตาสว่าง เอาธุระต่อบ้านเมืองแล้ว น่าปลื้มใจจริงๆ!
นี่ผมกะแวะคุยนิดเดียว แล้วจะไปคุยเรื่องทักษิณกำลัง “โยนกระเบื้องเบี่ยงทาง”
แต่มึน “เบียร์หมัก” รองอ๋องไปหน่อย เลยหางกระเบนแข็ง เลยจอดไม่ต้องแจว
ส่วนพรุ่งนี้ ไม่แน่…
เพราะญาติโยมเขานิมนต์ผมไปรับพร “สมณทูต” ที่เดินทางมาจากวาติกัน จึงขอออกตัวไว้ก่อน
กลับมาก็คงมืดค่ำ ถ้าขยันอาจได้คุยกันทางเว็บไทยโพสต์แทนทางหน้ากระดาษ
บ้านเมืองไทย เป็นของเรา ต้องช่วยกันดูแลเอาไว้ อย่าปล่อยให้หมาคาบไปกินได้เชียวนะ!
เปลว สีเงิน
๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๗
