“สถานการณ์” ที่พิสูจน์ “ผู้นำ”

อืมมมมม…..

“นายกฯ ประยุทธ์” นี่ ไม่เสียที ที่เป็นผู้บัญชาการทัพมาก่อน ยามสังคมตกอยู่ในภาวะสับสน-วุ่นวาย
สามารถใช้ความนิ่ง “ด้วยสติ” ควบคุมสถานการณ์ให้ผู้คนคลายว้าวุ่น และสงบจนมีความมั่นใจในทิศทางนำได้

นี่แหละที่เขาเรียก “ภาวะผู้นำ”!
ตรงนี้สำคัญมาก……

เพราะข้าศึกที่โจมตีโลกและประเทศไทยเราตอนนี้ ไม่เพียงโควิด-๑๙ ที่บุกจากภายนอกเข้ามาเท่านั้น

ยังมี “โคแดง-โคส้ม” จ้องซ้ำผสมเป็น “ไส้ศึก” อยู่ภายในด้วย!

ฉะนั้น ถ้าผู้นำไม่แท้-มือไม่ถึง เมื่อเจอศึกกระหนาบ
จะสติแตก……..

ดีไม่ดี สบัดนวม ถลกตูดหนีออกช่องทางธรรมชาติแน่บไปเลย!

สถานการณ์ ๓-๔ วันที่ผ่านมา
โควิด-๑๙ จากที่ทำได้เพียงเกาะคนภายนอกเข้ามา แต่ถูกทีม “แพทย์-พยาบาล-บุคลากรแพทย์” ยันให้มันอยู่แค่นั้นมาร่วม ๒ เดือน

พวกเราเลยลั้นล้า ใช้ชีวิตกันสบายเหมือนเดิม แม้รัฐบาลและสาธารณสุขออกมาตรการ, ขอความร่วมมือและมีคำเตือนอย่างไร
ฟัง แต่ไม่สน!

ผลคือ โควิดทะลุแนวต้านเข้ามา “ระบาดกลุ่ม” พรวดเดียว ไทยเราติดเชื้อรวมทะลุร้อย

ตื่นกันละทีนี้…….
สิ่งตามมากับความตื่น คือข่าวลือ, ข่าวลวง, ข่าวปล่อย ที่เรียกกันว่า “เฟกนิวส์”

แนวรบด้านรัฐบาลและสาธารณสุขแตกแล้ว

รัฐบาลเตรียมประกาศ “โควิดระยะ ๓” ระบาดกันเองภายในแล้ว!

หมายความว่าแพทย์-พยาบาล-บุคลากรทางการแพทย์ของเรา “เอาไม่อยู่” แล้ว เข้าสู่ภาวะตัวใคร-ตัวมัน
ก็ฮือ…แตกตื่นกันเข้าห้าง
ตะลุยซื้อข้าวของเครื่องใช้ อาหารแห้ง อาหารเปียก เรียกว่า “ตุนแหลก” เพราะข่าวลือว่อนโซเชียล
จะ “ปิดประเทศ”!

นี่…สถานการณ์มาถึงจุดนี้ ผู้คนก็ว้าวุ่น-สับสนในทิศทางพวกโคแดง-โคส้ม ฉวยโอกาสผสมโรงโควิด ถล่มรัฐบาลแหลกตลอดเสาร์-อาทิตย์

แต่ตลอดช่วงเวลานั้น รัฐบาล โดยนายกฯได้ “ตั้งศูนย์โควิด” เชิญระดับมันสมองและมือปฏิบัติการทางการแพทย์ ทั้งอดีตและปัจจุบัน มาเบรนสตอร์ม
ให้เหล่ารบเจนสนามร่วม “ออกแผน”
นายกฯ ประมวลแผนเป็นฝ่าย “เคาะ”

ที่พูดนี่ เพราะผมเห็นจากภาพภายใน ที่ใครไม่รู้นำมาเผยแพร่ เท่าที่เห็นและจำได้ นอกจากนายกฯ ก็มี
ศ.นพ.อุดม คชินทร, ศ.นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร, ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ เป็นต้น

ส่วนท่านอื่นๆ อีกหลายท่าน เห็นแต่ด้านหลัง จึงไม่ทราบว่าเป็นท่านใดบ้าง

แต่นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นอยู่ตรงว่า เมื่อถึงหัวเลี้ยว-หัวต่อ การเลือกคนให้ถูกกับงาน เป็นวิสัยทัศน์ผู้นำโชนฉาน

“การเมือง” เป็นทัพหลัง
มือปฏิบัติการและผู้เชี่ยวชาญแต่ละสาขา เป็นทัพหน้า!

แผนปฏิบัติการต้านโควิด-๑๙ จากวอร์รูม ก็อย่างที่ “ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล” แถลงชัดเจนจากทำเนียบฯเมื่อบ่ายวาน(๑๖ มีค.)

ทีมแถลงก็มี……
รองนายกฯ วิษณุ เครืองาม, นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมต.สำนักนายกฯ, นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.สำนักโรคติดต่อทั่วไป, นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข

ส่วนอีกท่าน สุภาพสตรีตัวแทนจากกระทรวงพาณิชย์ ฟังแล้วก็ลืมชื่อ ขออภัยด้วย

ถ้าไม่ใช่โคแดง-โคส้ม เป็นเพียงโคถึกทั่วไป ฟังทีมแถลงและที่ “ปวีณา ฟักทอง” จากกรมประชาฯ เป็นพิธีกรประมวลคำถามให้แจงแจกแล้ว
น่าจะดับความว้าวุ่น-สับสนจากตื่นในโควิดได้ เพราะแต่ละท่านทีมแถลง ตอบชัดในแนวที่รัฐบาลจะปฏิบัติต่อจากนี้

เข้าใจว่าแต่ละท่านคงพอทราบแล้ว
เสียดายอยู่นิด แถลงสด ……….
แต่ปรากฏว่า มีเพียงโทรทัศน์ช่อง ๒ กรมประชาฯ ช่อง ๓ ไทยพีบีเอส และช่อง ๑๐ รัฐสภา เท่านั้น ที่ถ่ายทอดสด

ก็นี่แหละนะ จึงไม่แปลกใจ ว่าทำไม “เฟกนิวส์” จึงครอบงำประเทศและประชาชนได้กว้างขวาง!

สรุป “ประเด็นหลัก” เท่าที่จำได้ตามแถลงมาบอกเล่า ก็ประมาณว่า
-ณ ขณะนี้ สถานการณ์โควิด-๑๙ ไทยยังอยู่ “ระยะ ๒”
-ไม่มีงานสงกรานต์ เลื่อน “วันหยุดสงกรานต์” ๑๓-๑๕ เมย.ออกไปก่อน ชดเชยให้หยุดเมื่อโควิดคลี่คลายกว่านี้
-ปิดโรงเรียนรัฐ-เอกชน, นานาชาติ, สถานกวดวิชา, มหาวิทยาลัยรัฐ-เอกชน
-ให้ “แต่ละกระทรวง” ไปศึกษาวิธีการ “เหลื่อมเวลาทำงาน -เวลาพักกลางวัน” รวมถึงการให้ “ทำงานที่บ้าน”
-ปิดสนามมวย, สนามตีไก่, สถานบันเทิง, โรงภาพยนตร์ และสถานที่มีผู้เข้าใช้บริการมากกว่า ๕๐ คน
-ให้นำหน้ากากอนามัยของกลางนับล้านชิ้นออกมาแจกจ่าย ไม่ต้องรอคดีถึงที่สุด
-ให้เพิ่มค่าตอบแทนฝ่ายสาธารณสุขอันเป็น “นักรบแนวหน้า”

เนี่ย…อีกมากมายหลายมาตรการ
แต่ทั้งหมด จะต้องนำเสนอครม.เพื่อพิจารณาอนุมัติในวันนี้ก่อน (อังคาร ๑๗ มีค.)

เมื่อผ่านครม.แล้ว มาตรการเหล่านั้น จะมีผลปฏิบัติทันที่ ตั้งแต่พุธ ๑๘ มีค.เป็นต้นไป

ฟังเป็นทางการจากมติครม.วันนี้ ว่ามีอะไรต่ออะไรบ้างและรายละเอียดเป็นอย่างไร ผมเล่าคร่าวๆเท่าที่จำได้-หาได้
เท่านั้น

ในความเห็นผมนะ ในสถานการณ์อย่างนี้ คนที่จะมาทำหน้าที่ “โฆษกเฉพาะกิจ” ที่สามารถเคลียร์ทุกข้อสงสัย พูดเรื่องยากให้เข้าใจได้ง่ายที่สุด

ท่านใด-ท่านหนึ่ง ใน ๒ ท่านนี้ คือ
-ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ นายกสมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย
-นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข

ในสารพัดสงสัยชาวบ้าน ทั้ง ๒ ท่านนี้ จะตัดก่อนตาย เตือนก่อนแตกตื่น ประหยัด “นายกฯ” ไปได้เยอะ!
พูดถึงนายกฯ ปรับลุคได้เฉียบ

ตอนค่ำ ออกทีวีพูล “หักมุม” สร้างเซอรไพรส์ ใครๆนึกว่า ต้องนั่งฟังอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง

ที่ไหนได้ ๕ นาทีถึงหรือเปล่าไม่รู้ แวบเดียวจบ ตบท้ายรายการ “พบประชาชน” เปรี้ยง
“ประเทศไทยต้องชนะ” ครับ!

ครับ……
ประเทศไทย “ต้องชนะ” เราทุกคน “ต้องชนะ” ไปด้วยกันในปฏิบัติการต้านโควิด

ชนะแล้วต้องฉลองใหญ่ ไม่ได้ฉลองให้นายกฯ
แต่ประชาชนคนไทย จะฉลองด้วยเชิดชูวีรกรรม “แพทย์-พยาบาล-บุคลากรทางการแพทย์” ในความเป็นทีม “สาธารณสุขไทย”

เหล่าท่าน เป็นทั้งหน้าพระและหลังพระ ที่คนไทยจะปิดทอง
ประเทศ-ประชาชน “รอด” ครั้งนี้ เพราะท่านในความเป็นทีมสาธารณสุขที่ “สังคมโลก” ยังต้องยกนิ้วให้ โดยแท้

เห็นนายกฯตัวเป็นๆ ทางทีวีพูลแล้ว บอกตรงๆ “สงสาร”!

ก็เข้าใจนะ……
รบแลกเป็น-แลกตายในสงครามกระสุน ยังไม่ตรอมกายและเหนื่อยใจเท่ารบในสงครามไวรัสโควิดที่มีไวรัลทางการเมืองผสม

ท่านซูบผอม ถึงขั้นโทรม ชัดว่าตลอดคืน ข่มตาหลับไม่ลงแล้ว ตลอดวัน ยังต้องข่มใจต่อปัญหาอัดอกรอบด้าน

แต่เอาเถอะ ธงสุดท้ายของคนเพื่อชาติ คือหลุม
แล้วก็จบและลืมกันไป……..
คงแต่วิญญานซื่อและสัจจะ อันตัวเราได้รู้ เมื่ออยู่ ได้เนรคุณหรือได้ตอบแทนบุญคุณ ชาติ, ประชาชน และ แผ่นดิน กายขันธ์ได้ชำระสิ้น สมชาติ-สมแผ่นดินเกิดแล้ว

เอาหละ แถมท้ายนิด…..
ไม่ต้องไปซื้ออาหารมากักตุนหรอก จะบอกให้ ถ้าไทยขาดแคลนอาหาร หมายถึงว่า
คนทั้งโลก “อดตาย”!

Written By
More from plew
สังคมป่วยกับรัฐบาลแจก – เปลว สีเงิน
คลิกฟังบทความ..⬇️ เปลว สีเงิน การที่ “เด็กอายุ ๑๔” พกปืนเข้าไปในห้าง แล้วกราดยิงจนมีคนตายและเจ็บหลายคน เมื่อวาน (๓ ตค.๖๖) ที่ย่านพารากอน...
Read More
0 replies on ““สถานการณ์” ที่พิสูจน์ “ผู้นำ””