- ยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า?
ลำพังโควิด-๑๙ อาละวาด ก็ป่วนหนักพอแล้ว
ยังมีนักการเมืองพ่นน้ำลาย แบบไร้สำนึกกันรายวัน
“พิชัย นริพทะพันธุ์” โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า “ผู้นำตายเราจะรอดกันหมด #ผนตรจรกม.”
ถามจริง? คนเป็นถึงอดีตรัฐมนตรีคิดได้แค่นี้หรือ
อ้างว่าแชร์มาจากเพจอื่น…
แต่ขอโทษเถอะครับ ก่อนแชร์….ท่านมีสมองไว้คิดหรือเปล่า?
ถ้า “บิ๊กตู่” ตายวันนี้ โควิด-๑๙ จะหมดไปจากประเทศในทันทีซินะ
ตรรกะนรก!
ปัญหาใหญ่ในวันนี้คือ นักการเมืองอยากพูดอยากแสดงความเห็นอะไร ก็เอานิ้วเขี่ยคีย์บอร์ดทันที โดยที่สมองยังไม่ทันคิด
มันถึงได้วุ่นวาย!
ถ้ามีคนบอกว่า “พิชัย นริพทะพันธุ์” ตายไปซะเถอะ แผ่นดินประเทศไทยจะสูงขึ้น….จะว่าไง
หากมีจิตใจที่เป็นมนุษย์กันสักหน่อย คงไม่เที่ยวไปแช่งให้คนโน้นคนนี้ตาย เพื่อสะใจตัวเอง
กรณีนักการเมืองแช่งให้คู่แข่งทางการเมืองตาย ยังมีประเด็นทางการเมืองพ่วงมาอีก
คือแช่งให้อีกฝ่ายตายเพื่อตัวเองมีโอกาสเข้าสู่อำนาจ
เป็นพฤติกรรมที่น่าอัปยศอดสู
ฉะนั้น “พิชัย นริพทะพันธุ์” และทุกคนจำไว้ หากคุณมีจริยธรรมมากพอ จะไม่แช่งให้คนอื่นตาย
ในสนามรบ หากศัตรูยอมแพ้ ยอมยกธงขาว คุณไม่มีสิทธิ์ไปพิพากษาให้เขาตาย
แค่จับเป็นเชลย
ไม่ว่า บิ๊กตู่ ทักษิณ ธนาธร ฯลฯ ไม่ควรมีใครถูกแช่งให้ไปตาย เพียงเพราะความเห็นทางการเมืองไม่ตรงกัน
คนระดับอดีตรัฐมนตรี กลับแยกแยะเรื่องศีลธรรมง่ายๆ แบบนี้ไม่ได้ ก็น่าเป็นห่วงว่าระดับมวลชนจะมีความคิดที่รุนแรงกว่าหลายเท่า
พูดถึง “พิชัย นริพทะพันธุ์” ยังมีอีกเรื่อง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม น่าจะเข้าไปดู เฟซบุ๊ก Pichai Naripthaphan บ้าง เพราะดูแล้วเหมือนจะเก่งทุกเรื่อง ไม่เว้นเรื่องที่ตัวเองไม่รู้
แทนที่จะใช้ช่องทางโซเชียลเสนอแนะวิธีการแก้ปัญหา กลับใช้เป็นเวทีด่าฝ่ายตรงข้ามเสียส่วนใหญ่ แชร์เฟกนิวส์ก็หลายหนแล้ว
นี่คือหนึ่งในตัวอย่าง นักการเมืองมือไม่พายเอาเท้าราน้ำในยามที่ชาติมีวิกฤติ
วานนี้ (๑๖ มีนาคม) การสื่อสารระหว่างรัฐบาลกับประชาชนเริ่มจะเป็นรูปธรรมและชัดเจนขึ้น มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ประชาชนต้องติดตามความคืบหน้าในทุกวัน เพื่อให้รู้ว่าต้องปฏิบัติตนอย่างไรในช่วงเวลาเช่นนี้
อย่าเอาการเมืองมาตัดสินว่าเชื่อหรือไม่เชื่อในคำแนะนำของแพทย์ เพราะการกระทำดังกล่าวมันไร้สาระ และจะเป็นภาระต่อสังคมในภายหลัง
มีดาราคนหนึ่งไปโพสต์ข้อความในโซเชียลว่า “เมื่อไหร่จะปิดประเทศเสียที ประชาชนจะอดตายกันหมดแล้ว”
นี่คือตัวอย่างของความไม่รู้ แล้วอวดรู้
และนี่คือสิ่งที่น่ากลัวกว่าโควิด-๑๙.
