22 เมษายน 2567 เวลา 14.40 น. ณ บริเวณทางเชื่อมตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีพลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีให้ออกจากราชการ และการแต่งตั้งพลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่า
ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะเคยมีการร้องไปแล้วและมีการร้องเรียนซ้ำอีก ตนเองมั่นใจสามารถชี้แจงได้ว่าได้แต่งตั้งด้วยความเป็นธรรม และกระบวนการแต่งตั้ง ก็มีขั้นตอนในการรับฟังความคิดเห็นของทุกคนอย่างเห็นธรรม และมีการพูดคุยอย่างรอบด้าน จึงมีข้อสรุปออกมา และคะแนนในวันนั้นก็ออกมา 9 ต่อ 1 ถือเป็นสิ่งที่บ่งบอกชัดเจนแล้วว่ามีคนไม่ออกเสียง 1 คะแนน และให้พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
พร้อมกับย้ำว่า การโยกย้ายพลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ เป็นไปตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอมา ซึ่งหากตนเองไม่ปฏิบัติตามก็จะโดนฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 และมั่นใจตนเองทำตามกฎหมายทุกอย่างโดยไม่ได้เข้าข้างใคร และไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้บุคคลใดบุคคลหนึ่ง พร้อมตั้งข้อสงสัยว่าเรื่องเกิดมานานแล้วทำไมถึงเพิ่งมาร้องเรียนในช่วงนี้ แต่ส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้ไม่เป็นไร เพราะเชื่อว่าตนเองทำถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่างโดยไม่ได้กลั่นแกล้งใคร และไม่ได้ลำเลียงต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่เอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง
ส่วนการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มีนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ในฐานะประธานกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายกรณีปรากฎเป็นข่าวต่อสาธารณะเกี่ยวกับความขัดแย้งในเรื่องคดีของบุคลากรภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่มีการรายงานขึ้นมา ซึ่งต้องแยกกับเรื่องที่ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ให้ออกจากราชการ เป็นคนละเรื่องกัน จากการพูดคุยกับนายฉัตรชัย เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ยังดำเนินการสอบสวนต่อไป และให้ความเป็นธรรม โดยไม่ได้เร่งเรื่องคนใดคนหนึ่ง หรือมีธงว่าใครคนใดคนหนึ่งต้องผิด และทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมทั้งหมด
ส่วนการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลช่วงเที่ยงวันนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มีการพูดคุยเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. โดยพูดคุยกันในหลายประเด็น ทั้งเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ได้มีการสรุปกัน และเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต เตรียมนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ ยืนยันว่า ตนเองไม่เคยบอกว่าการปรับคณะรัฐมนตรีจะต้องดำเนินการภายในเดือนนี้ ซึ่งหลายคนพูดกันไปเอง
ส่วนกระแสข่าวว่าจะต้องปรับ ครม.ต้องส่งชื่อในวันพรุ่งนี้ และจบภายในวันที่ 24 เมษายนนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ทราบ ต้องไปถามคนที่พูด ส่วนจะปรับในเดือนนี้หรือเดือนหน้า ขอย้ำว่าได้ตอบเรื่องนี้ไปแล้วหลายครั้ง เมื่อเกิดขึ้นก็รู้เอง และการปรับ ครม. ต้องผ่านกระบวนการแต่งตั้งที่ถูกต้อง ดังนั้น คงไม่ปรับเงียบ ๆ ทั้งนี้ การปรับ ครม.ต้องมีการพูดคุยกันอยู่แล้วเมื่อถึงเวลา
