ดูนักการเมือง-ข้าราชการและประชาชนบางกลุ่ม-บางพวกขณะนี้แล้ว “น่าหนักใจ”
เพราะความ “ตระหนักรู้” ใน “สถานการณ์รวม” ในเรื่องภัยจาก “โควิด-๑๙” ยังมีน้อยกว่าการ “ยึดประโยชนตัวเอง” เป็นที่ตั้ง
เข้าทำนอง “ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา” ประมาณนั้น!
อาจเป็นเพราะเห็นชาวเมือง-ชาวโลก ป่วยกันโครมๆ ตายกันโครมๆ
แต่ของไทยไม่เห็นเป็นไร ……….
ปีใหม่-สงกรานต์ วันเดียวตายเป็นร้อย สิวๆ
นี่ โควิด ตั้งเดือน-สองเดือน ตายคนเดียว ติดเชื้อแค่ ๕๐-๖๐ คน
ทำเป็นตื่นเต้นกันไปได้!?
ก็เลยประมาท ใช้ชีวิตกันแบบลั้ลลา มองเห็นความดำทะมึนแห่ง “หายนะโลก” ที่กำลังแผ่คลุมมนุษยชาติ เป็นเรื่องเล็กน้อย
ซ้ำไม่ใช่เรื่อง -ไม่ใช่หน้าที่ ที่คนใด-คนหนึ่งต้องใส่ใจ
เป็นเรื่อง-เป็นหน้าที่ของรัฐบาลและมดหมอเขาจะว่ากันไป
ทำดี กูก็เฉยๆ
แต่ถ้าไม่ดี กูจะโพสต์จิก โพสต์ด่า เพราะว่า “ประชาชนเป็นใหญ่” (โว้ย)!
ส่วนเรา เหล่าเทวาประชาไทย
ที่กลัว ก็กลัวกันไป ที่ลั้นลา ก็ลั้นลากันไป ที่จ้องจิก ก็จิกกันไป
และจิกกันได้ทุกเรื่อง!
ส่วนหมู่เทวฤทธิ์การเมือง
พวกตรงข้ามรัฐบาล รัฐบาลไปซ้าย ก็ด่ารัฐบาลเฮงซวย รัฐบาลไปขวา ก็ด่านายกฯ ไม่มีฝีมือ รัฐบาลไปตรงกลาง ก็ด่ารัฐบาลทำงานไม่เป็น
ต้องออกไป!
ส่วนพวกแพลงตอนชายตลิ่งพรรครัฐบาล สถานการณ์บ้านเมืองและรัฐบาลจะเป็นยังไง กูไม่สน
สนแต่กัดกันเองในพรรคบ้าง กัดนอกพรรคบ้าง จ้องเบ่งบารมี จ้องขอเก้าอี้-แย่งเก้าอี้บ้าง
บางพรรคร่วม ไม่ต่างลิงลพบุรี อยู่ศาลเดียวกัน ไม่รู้จะกัดกะใคร ก็แบ่งข้างออกมากัดกันเองกลางถนนโชว์
ข้างหนึ่ง ให้ออก อีกข้าง ให้อยู่ ถามว่า แล้วตกลงจะเอายังไง?
ไม่เอายังไง เพราะพรรคกูเป็นพรรคเทวดา จะออก-จะเข้า ต้องเป็นมติ “กล้วย” พระอินทร์
!?!?!?
ส่วนข้าราชการ หันใบตามลมบ้าง ทวนลมบ้าง บ้างก็หุบใบรอลมใหม่บ้าง
บ้างก็สร้างมิติใหม่ ข้าราชการต่อข้าราชการ “ตัวเลขใคร-ตัวเลขมัน” เอ้า…เฮ
เรื่องต้องถึงโรงพัก!
หน่วยรัฐวิสาหกิจเหมือนกัน อย่างการท่าอากาศยาน อย่างบริษัทการบิน
ยามบ้านเมืองไม่มีปัญหา ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ในสนามบิน-ในการบิน มีเงินไหลนอง มีทองไหลมา
ยิ่งใหญ่ และใหญ่โตกันเหลือเกิน
เงินรัฐ-เงินหลวง-เงินภาษีประชาชนลงทุนแท้ๆ แต่พอมีกำไร
เอาไปแบ่งโบนัสกันคน ๗ เดือน ๘ เดือน
แต่พอโควิดมา คนไม่มา “เงินหาย” เหลือแต่ปัญหาที่ผู้บริหารต้องแก้
แทนที่จะอยู่แก้ปัญหา
กูไม่…..
ยื่นใบลา ถลกตูดหนี เอาตัวรอด!
อย่างนี้ เขาไม่เรียกนักบริหารมืออาชีพ เขาเรียก “ไอ้ห่วยแตก” หรือนักฉกฉวยมืออาชีพ
จะบอก “คนรุ่นใหม่” ที่ดัดจริต คิดแปลงชาติ-แปลงประเทศกันนัก ดูเป็นตัวอย่างไว้
เพราะพวกคุณเหล่าเทวดาน้อยในรั้วการศึกษาวันนี้ ในอีก ๑๐-๒๐ ปีข้างหน้า
ทั้งหมดนี่แหละ คือมรดกของพวกคุณทุกคน!
ดังนั้น ตอนนี้ มีหน้าที่ศึกษา เรื่อง “นอกรั้ว” เอาพอหอมปาก-หอมคอ พอสนองตุ่มนมแตกพานก็พอ
ยังไม่ต้องกระซ่านตามโซ่ “เปลี่ยนชาติ-เปลี่ยนประเทศ” กันหรอก
เพราะ “ประเทศไทย” ผืนนี้ ยังไงๆ ก็อยู่ที่นี่แหละ ในอีก ๑๐-๒๐ ปี เมื่อจบการศึกษากันออกไปแล้ว
ถึงตอนนั้น มันเป็นเวลา เป็นภาระ เป็นหน้าที่ของพวกคุณ แทนรุ่นผม ที่อยู่ ที่เย้วๆ กันขณะนี้
ก็เอาเลย โลกอยู่ในมือพวกคุณแล้ว…..
มันเป็นหมากตาพวกคุณต้องใช้สติปัญญาเดินแล้ว โลกจะเปลี่ยนคุณ หรือคุณจะเปลี่ยนโลก
ได้รู้-ได้เห็นแน่!
นี่้จะเรียกว่า มรดกชาติส่งต่อ หรือเวรกรรมเวียนต่อ ที่แต่ละคน ในแต่ละรุ่น ต้องรับ ก็สุดจะเรียก
แต่กันรับไปแล้ว ก็ทำกันได้-เป็นกันได้แค่นี้ อย่างวันนี้แหละ
เว้นแต่ว่า…..
แต่ละคน-แต่ละรุ่น จะถอดประสบการณ์แห่ง สำเร็จ-ล้มเหลว, ปรีดา-เจ็บปวด, ผิดพลาด-แก้ไข มาหลอมเป็น “บทศึกษา” หรือไม่เท่านั้น?
เพื่อ “สู่ทางใหม่” ที่จะไม่ซ้ำซากใน “หล่มเดิม”!
จากภาพรวมทั่วๆ ไปตอนนี้ สะท้อนถึง คนในบ้านเมืองเรา ต่างคนต่างอยู่ ด้วยไม่มีปัญหาอะไรให้ต้องเผชิญ ที่ต้องแบกรับร่วมกันมานาน
ความเห็นแก่ตัว สัญชาติญานเอาตัวรอด จึงเป็น “สำนึกตน” เป็นพื้นฐาน
หยิ่ง อหังหาร ตัวข้าเป็นที่ตั้ง
พอมีอะไรที่ต้องแบกรับ ต้องเผชิญ ต้องร่วมแรง-ร่วมใจกันแก้ ต้องต่อสู้ ต้องฝ่าฟันร่วมกัน จึงหา “สำนึกร่วม” จากแต่ละคนได้ค่อนข้างน้อย
ก็จะเอาตัวรอด หรือไม่ก็ ก็จะกัดกัน-ฟัดกัน และตายทุเรศ-ทุรังในหายนะภัย ชนิดโง่เง่า เป็นปิศาจงมงายไปด้วยกันในที่สุด
มองภาพรวม “ภายใน” แล้วหันไปมอง “สถานการณ์รวม” ภายนอก
ถ้าเรายังเป็นกันอย่างนี้ต่อไป บอกได้ว่า “น่าห่วง” มากๆ
โควิด-๑๙ แค่ “หนังตัวอย่าง”!
แต่แค่หนังตัวอย่าง ยัง “ดับอหังการ” ทั้งโลก ไม่ว่า สหรัฐ, รัสเซีย, จีน, อินเดีย, ยุโรป
จากราชสีห์ พยัคฆ์ หมี อินทรี นาทีนี้ ไม่ต่างอีแร้งและลูกแมวเชื่องๆ!
เงิน กำลังกลายเป็นกระดาษ น้ำมัน กำลังกลายเป็นน้ำล้างเท้า ปริญญากำลังกลายเป็นใบรับรองไอ้งั่ง
สัญญานที่ธรรมชาติสั่นเตือนบอก
มนุษยชาติขณะนี้ ว่ามี ๓ อย่างเท่านั้น ………
ที่จะทำให้มนุษย์เหลือรอดในภาวะ “หายนะเปลี่ยนโลก” สู่ศตวรรษที่ ๒๑
-สติ
-อาหาร
-การไม่เห็นแก่ตัว!
ทองคำ ใครแบกได้ กินได้ ก็เชิญแบกไป ตัวอย่างหลัดๆ ก็เคยเห็นแล้วตอนญี่ปุ่นบุกไทย
กล้วยน้ำว้า ๑ หวี มีค่ามากกว่าทองคำ ๑ แท่ง!
ไทยเรายังมีเวลาเป็นโอกาสขณะนี้…….
หยุดร้องเศรษฐกิจไม่ดี เงินไม่มี นักท่องเที่ยวไม่มา การค้าฝืด และโทษคนโน้น-ด่าคนนี้ (ยกเว้นตัวเอง) เสียที
ยอมรับความเป็นจริงของประเทศและของโลกขณะนี้กันเสียทีเถอะ
เราทุกคน ถอยกลับไป “ตั้งมั่น” กันก่อน
เศรษฐกิจพอเพียง, เกษตรพอเพียง, อุตสาหกรรมที่มีอยู่เดิมรักษาไว้ให้รอด
ยังไม่ต้องบุกไป ๔.๐ ตอนนี้ เพราะไม่มีประเทศไหนเข้ามาลงทุนช่วงนี้หรอก
เพราะเขาก็ตาย ต้องถอยไปตั้งต้นใหม่เหมือนกันทั้งนั้น
ขอบอกว่า……
ทั้งโควิด ทั้งคลื่นกระแทกจากโควิด และทั้งมนุษย์ที่มีทุนพอพาตัวเองหนีตายจากยุโรป-สหรัฐฯ กระทั่งจากเอเชียบางประเทศ
ถนนทุกสาย จะมุ่งหน้ามาที่ไทย
รัฐบาล ไม่ต้องไปสนใจเสียงหมาเห่า รีบปรับแผน-ปรับแนวรับ-แนวต้านของประเทศ
และส่งสัญญานให้ประชาชนตื่นรู้ในปัญหาชาติร่วมกันแต่เดี๋ยวนี้
ทำอะไรก็ต้องทำ อย่าทำแบบหาเช้า-กินค่ำ
ถึงขั้นประกาศ “สถานการณ์ฉุกเฉิน” ก็ต้องทำ
ใครด่า ให้มันด่าไป เพราะการเป็นนายกฯ วันนี้ ไม่ได้อยู่เพื่อเสียงด่าหรือเสียงชม
แต่อยู่เพื่อ “นำ” ประเทศให้รอด
“ทำ” ประชาชนให้ปลอดภัย และมีอยู่-มีกิน
“พ่อหลวงบนฟ้า” รับสั่งไว้ ต้องทำให้สำเร็จ!