คุณูปการ “ท่านโรม” – เปลว สีเงิน

"สัจจัง เว อมตา วาจา" ความจริงเป็นสิ่งไม่ตายครับ แต่ถ้าท่านโรมพิสูจน์ไม่ได้ว่า สว.อุปกิตมีการกระทำจริงอย่างที่อภิปรายพาดพิงในสภาคืนนั้น สิ่งที่ตาย... อาจเป็น "ท่านโรม" ก็ได้นะ!

คลิกฟังบทความ…?

เปลว สีเงิน

อ้าว….แล้วกัน ท่านโรม!
รับ “ช่อดอกไม้” แป๊บๆ ปลื้มอก-ปลื้มใจ ว่าอภิปรายลากไส้แก๊ง “จีนเทา” ได้สะเทือนทรางถึง “เพื่อไทย-ฝ่ายค้าน” ด้วยกัน มันซะจริงๆ อยู่วัน-สองวัน

เมื่อวาน (๑๗ กพ.๖๖) ต้องรับ “หมายศาล” จาก สว. “อุปกิต ปาจรียางกูร” ซะแล้ว
ที่อภิปรายพาดพิงถึงเขาที่ว่า “สว.ทรงเอ” นั่นน่ะ

ผมเพิ่งอ่านข่าวจากเว็บไซต์ไทยโพสต์มาเปียกๆ รีบมาบอกเอาหน้า ข่าวเขาว่างี้
๑๗ กพ.๖๖ ที่ศาลอาญา-รัชดา “นายเรืองศักดิ์ สุขเสียงศรี” ทนายความ ได้รับมอบหมายจาก “นายอุปกิต ปาจรียางกูร” สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)

ยื่นฟ้อง “นายรังสิมันต์ โรม” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ข้อหาหมิ่นประมาท

เนื่องจากในการอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี ช่วงดึก วันที่ ๑๕ ก.พ.๖๖
นายรังสิมันต์ ได้อภิปรายในหัวข้อ….

“เช็กบิลไทยดำ-จีนเทา” โดยมีเนื้อหาเข้าข่ายหมิ่นประมาทนายอุปกิต

นายเรืองศักดิ์ กล่าวว่า นายอุปกิต ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจำนวน ๑๐๐ ล้านบาท และศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ ๑ พ.ค.๖๖ เวลา ๙.๐๐ น.

ในข่าวเดียวกัน ยังรายงานเพิ่มเติมว่า….

เมื่อวันที่ ๓๑ ม.ค.ที่ผ่านมา “นายอุปกิต” ยังได้ยื่นฟ้อง “นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา

และเรียกค่าเสียหายจำนวน ๕๐ ล้านบาท ต่อศาลอาญา หลังจากนายอัจฉริยะกล่าวหานายอุปกิตเกี่ยวข้องขบวนการค้ายาเสพติด

ก็เป็นกำลังใจให้นะ…ท่านโรม!

เป็นนักรบสภา เมื่อไปฟาดฟันถึงคนนอกสภา เรามีสิทธิพูด เขาก็มีสิทธิฟ้อง สิทธิเขา-สิทธิเรา คือ “เสรีภาพ-เสมอภาคภราดรภาพ” ตามที่ท่านโรมได้รับการประสิทธิ-ประศาสน์วิชามาจากอาจารย์ปิยบุตรนั่นแหละ

ก็ไปสู้ “ความจริง” กันในศาล ถ้ามีหลักฐานไปพิสูจน์ให้ศาลท่านเห็นว่า “สว.อุปกิต” เป็นอย่างนั้นจริงตามกล่าวหา ก็ไม่ต้องกลัว

“สัจจัง เว อมตา วาจา” ความจริงเป็นสิ่งไม่ตายครับ

แต่ถ้าท่านโรมพิสูจน์ไม่ได้ว่า สว.อุปกิตมีการกระทำจริงอย่างที่อภิปรายพาดพิงในสภาคืนนั้น
สิ่งที่ตาย… อาจเป็น “ท่านโรม” ก็ได้นะ!

ในเมื่อรับข้อมูลจากคุณชูวิทย์มา จะอ้างคุณชูวิทย์เป็นพยานจำเลย ก็รีบไปบอกเขา
หรือถามเขาว่า “มีข้อมูลเชิงลึก-ข้อมูลเชิงประจักษ์” นอกเหนือจาก “ข้อมูลน้ำเชื้อ” ให้ไปยันในศาลบ้างมั้ย?

ไหนๆ เป็นนักรบสภาเพื่อประชาชนแล้ว ท่านโรมต้องสู้ให้ถึงที่สุด
“คุกคือมงกุฎ” นักรบสภา สง่างามสมเกียรติ!

และจ่ายเป็นจ่าย แค่ ๑๐๐ ล้านเอง พิธา-หัวหน้าพรรคไม่กระจอกถึงขั้นปล่อยให้ลูกพรรคนักรบต้องแปะเบอร์บัญชีแน่

จะว่าไป คุณชูวิทย์เป็นนักบัญชี ไม่ใช่นักกฎหมาย แต่แพรวพราว-เก๋าเกมจริงๆ
แฉ ๑๐ ทิศ ไม่มีใครฟ้องได้!

แต่ท่านโรมนี่ “ศิษย์ก้นสำนัก” รองศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายนามว่า “ปิยบุตร” แท้ๆ
ทั้งที่ “การแฉ” มีสภาเป็นรัศมีคุ้มกัน แต่ก็โดนจนได้

อย่างว่า คนเรายิ่งพูดน้ำลายยิ่งแตกฟอง เป็นรถ เขาเรียก “เบรกแตก” เป็นคนเรียก “เมาธ์แตก”

อย่าว่าแต่ท่านโรมเลย
ก็ขนาด “หนอนกฎหมาย” ทนายเอง ยังถูกฟ้องได้ อย่างนายอัจฉริยะที่ถูก “สว.อุปกิต” ฟ้องก่อนหน้า ด้วยมูลเหตุของเรื่องทำนองเดียวกับท่านโรมนั่นไง

สรุปแล้ว “วิชาเทพ-วิชามาร” เรียนกันได้
แต่ถ้าเข้าไม่ถึง “เคล็ดลับ” ในการนำวิชานั้นๆ ไปใช้ ไม่ตายก็บาดเจ็บ เป็นสิ่งต้องยอมรับ

การแฉนี่ ต้องดูชูวิทย์ “ต้นตำรับนักแฉ” เป็นตัวอย่าง
เพราะเจนจบในเคล็ดลับ “วิชาแฉ” จึงไม่มีใครฟ้องได้ ทั้งไม่ถูกอุ้มรอบ ๒

อย่างเรื่อง “ไทยดำ-จีนเทา” อะไรนี่ ชูวิทย์ทำเอาตำรวจเข้าส้วมแล้วอึไม่ออกไปทั้งสตช.
และมีความน่าจะเป็นสูง (ถ้าไม่มวยล้มต้มคนดู) จะเป็นครั้งประวัติศาสตร์ ที่มีตำรวจเป็นร้อยนาย
จากผู้พิทักษ์กฎหมาย กลายเป็น “หมาต๋า” ใกล้คุก!

แต่อย่างไรก็ตาม………
การแฉของคุณชูวิทย์และสส.รังสิมันต์ โรม ต้องให้เครดิตทั้งสองท่านว่า

มีคุณูปการต่อการ “ทำความสะอาดสังคม” ที่สกปรกให้ได้รับการปัดกวาดเป็นความดี-ความชอบ ถึงผิดพลาดบ้างก็ควรได้รับการ “ยกประโยชน์” ให้มากอยู่

อย่างที่สส.โรม นำข้อมูลจากชูวิทย์ แฉเรื่อง “นายหยู ซิน ฉี” ว่าพัวพันจัดตั้งสมาคมที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
รวมถึง “แอบอ้างสถาบันเบื้องสูง” และบุคคลสำคัญระดับประเทศ เพื่อการแสวงหาผลประโยชน์ นั้น

ผบ.ตร. “พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์” ทราบปุ๊บ จัดการปั๊บ จะเอาข่าว “เพิ่งปรุงสุก” ควันยังฉุย มาให้อ่าน

อภิปราย ๑๕ กพ.เมื่อวาน ๑๗ กพ. “ผบ.ตร.สั่ง….”
“พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์” ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.)

นำตัว “นายหยู ซิน ฉี” ประธานมณฑลส่านซีสมาคมแห่งประเทศไทย มาสอบสวนทันที

ผู้บัญชาการสตม.บอก เป็นการควบคุมตัวตามพ.ร.บ.คนเข้าเมือง ดำเนินการเพิกถอนวีซ่าหรือใบอนุญาตพำนักในราชอาณาจักร

สำหรับนายหยูถือวีซ่าประเภทผู้เกษียณพำนักในราชอาณาจักรได้ ๒ ปีแล้ว
และขออยู่ต่อตามหลักเกณฑ์ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดยไปขออยู่ต่อที่ จ.ชลบุรี อีก ๑ ปี

ขั้นตอนนี้ ยังไม่มีการตั้งข้อหา ไม่มีการออกหมายจับ
ตำรวจ ตม.จะกักกันตัวตามกฎหมายคนเข้าเมืองไว้ที่ ตม.สวนพลูก่อน

ผู้บัญชาการสตม.บอก วันนี้ (๑๘ กพ.) จะขอศาลออกหมายค้นบ้านและสมาคมของนายหยูเพิ่มเติม

เบื้องต้นพบว่าเข้ามาเปิดสมาคมอยู่ในประเทศไทยและมีป้ายภาษาจีน แปลตามชื่อสมาคมตามที่ปรากฏเป็นข่าว โดยที่ตั้งสมาคม “อยู่คนละจุด” กับบ้านพัก ที่ตำรวจไปพบตัว

“ส่วนจะเกี่ยวข้องกับเรื่องยาเสพติด, ฟอกเงิน, ความเชื่อมโยงเกี่ยวกับการกระทำความผิดกฎหมายเพิ่มเติม
การเป็นตัวกลางนำคนจีนเข้ามาในประเทศไทยและตัวบุคคลผู้ร่วมขบวนการรายอื่นๆจะสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมต่อไป

แต่เชื่อว่าตามที่ปรากฏเป็นข่าวพฤติกรรมของนายหยูอาจก่อเกิดความเสียหายกับบุคคลอื่น”

นี่…. “พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์” ท่านว่าอย่างนี้

“ไทยขาว-ไทยดำ” รวมถึงพรรค-นักการเมืองใด ที่เคยมีสัมพันธ์ อยากเยี่ยม เชิญได้ที่ “ตม.สวนพลู”

นายหยู ยังไม่ได้เป็นผู้ต้องหา
เป็นเพียงถูก “กักกันตัว” ตามพรบ.คนเข้าเมือง นายหยูบอกนักข่าวว่า
“It’s ok,no worry” “ผมพูดไทยได้นิดหน่อย”

ยังดีนะที่พูดไทยได้นิดหน่อย ถ้าพูดไทยปนอังกฤษ เช่นว่า…. I didn’t talk to them at all you know พรรคร่วม, The ส.ว. said that, We can not set the รัฐบาล anyway, My dad will โกง. ละก็

จาก “นายกสมาคมเถื่อน” ผมจะอัพเกรดให้เป็น “ว่าที่นายกรัฐมนตรี” ไปเลย!

แต่นี่เป็นเรื่องขบวนการ “จีนเทา” ที่ยังต้องสาวกันยาวเป็นรามเกียรติ+สามก๊ก จะจบแบบไหน ต้องจับตา “ต้นน้ำ-กลางน้่ำ” กันให้ดี
เพราะภาษิตไทยมีว่า “ราตรียิ่งยาวนาน ยิ่งฝันร้าย”!

คดีในมือตำรวจก็เหมือนกัน “ยิ่งทอดยาวนาน ลำไม้ไผ่ ยิ่งกลายเป็นบ้องกัญชา”!

สำหรับพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ “ผบ.ตร.” ท่านนี้ ใครจะกระแนะ-กระแหนท่านอย่างไรก็ช่าง
แต่ผมเห็นใจและเป็นกำลังใจให้ท่านนะ

ตำแหน่งผบ.ตร.ดูจะเป็น “ทุกขลาภ” สำหรับท่านแท้ๆ คนอื่นเขาเป็น จะเสวยสุขจนหน้านวล
แต่ตั้งแต่ท่านมาเป็น ต้องทำหน้าที่ “คนล้างชาม” ที่รุ่นก่อนๆ เขากินทิ้งไว้บ้าง กินกันต่อจนถึงปัจจุบัน จนพุงแตกบ้าง ก็ไม่เคยได้เสวยสุขเลย

อยู่ ๑ ปี กู้ศักดิ์ศรีสถาบันตำรวจให้ฟื้นขึ้นมาบ้าง คุ้มเกินค่าครับ ดีกว่าคนอยู่หลายๆ ปี มีแต่ “กินกับขี้” ทิ้งไว้เต็ม!

เอาให้จบขั้น “ต้นน้ำ” ส่งต่อ “กลางน้ำ” ในยุคท่านนะครับ

ชื่อ “พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์” จะได้เป็นตำนานกล่าวขานว่าท่านคือ….
ผบ.ตร.มือปราบ “โจรในเครื่องแบบ”!

เปลว สีเงิน
๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖

 

Written By
More from plew
ไทยกับ “สงคราม” เงียบ – เปลว สีเงิน
"อันวาร์ อิบราฮิม" ผมเอ่ยชื่อนี้ ทุกคนร้องอ๋อ...นักต่อสู้ทางการเมืองตามวิถีประชาธิปไตยจนได้ขึ้นเป็น "นายกรัฐมนตรี" มาเลเซีย คนล่าสุดนั่นเอง!
Read More
0 replies on “คุณูปการ “ท่านโรม” – เปลว สีเงิน”