‘หนีล้มเจ้า’ ปะ ‘โกงคุก’ – ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

น่าจะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกกันเยอะพอควร

ไม่ชอบ “ระบอบทักษิณ” แต่ไม่ไว้ใจ “ขบวนการล้มเจ้า” กัดฟันยอมเห็นพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลแทนพรรคก้าวไกล

สุดท้ายถูกหลอกกันหมด

การเมืองวันนี้ซับซ้อนซ่อนเงื่อนกว่าในอดีตมากพอควร

ถอยไปรัฐบาลลุงตู่ ยังเข้าใจการเมืองได้ง่ายๆ เพราะการตั้งรัฐบาล ไม่มีการข้ามสายพันธุ์

ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ในวันที่พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน วันนั้น ไม่ว่าจะเป็น อุ๊งอิ๊ง หรือว่า เศรษฐา ยังพูดประเด็นแก้ ม.๑๑๒ กันอยู่เลย

ไม่ใช่ยกเลิกนะครับ

“อุ๊งอิ๊ง” ตอบคำถามเรื่องนี้อย่างรอบคอบทีเดียว คือบอกว่า ต้องไปคุยในสภา เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน

“…หากเพื่อไทยเป็นรัฐบาล เราจะขอความเมตตาต่อศาล ว่ามีน้องๆ และผู้เห็นต่างทางการเมืองหลายคนที่ติดอยู่ในนั้น ขอให้มีการปล่อยตัว และต้องมีการแก้ไขระเบียบ ต้องกำหนดว่าใครเป็นคนฟ้อง อัตราโทษเราไม่สนับสนุนเอามาใช้เป็นเกมการเมือง เราต้องมีกฎหมายคุ้มครองประมุขรัฐ แต่ไม่เอามาใช้เป็นเกมการเมือง ต้องฟังเสียงประชาชน…”

นอกจากจะแก้ ม.๑๑๒ ประเด็น ผู้ฟ้อง กับ อัตราโทษแล้ว จะยังขอให้ปล่อยตัวผู้ต้องหา ม.๑๑๒ ด้วย

หากเดินตามแนวทางนี้ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เป็นนายกรัฐมนตรีไปแล้ว

เพราะนโยบายเกี่ยวกับ ม.๑๑๒ ของพรรคเพื่อไทยในตอนหาเสียงกับพรรคก้าวไกลนั้น ไม่แตกต่างกันสักเท่าไหร่

เพียงแต่พรรคก้าวไกล ไปไกลกว่าถึงขั้น “ยกเลิก”

จึงกลายเป็นเงื่อนไขลอยแพพรรคก้าวไกล

การเมืองหลังจากนั้นจึงมีความซับซ้อนมากขึ้น ขนาดนักการเมืองด้วยกันเองยังตามไม่ทัน

นับประสาอะไรกับด้อมส้ม ด้อมแดง ที่ยังโลกสวยอยู่พักใหญ่ว่า จะได้รัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตยสมใจอยากเสียที

มารู้อีกทีเขาหักเหลี่ยมกันเรียบร้อยแล้ว

เพราะมีดีลการเมือง!

ก็ดีลที่หวังจะให้แดงกลืนส้มนั่นแหละครับ

พรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลไม่ได้มาจากคณิตศาสตร์การเมืองเป็นหลัก แต่มาจากดีลลับที่ไม่ต้องการให้พรรคก้าวไกลมีอำนาจ

“เศรษฐา ทวีสิน” ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีด้วยความสามารถตัวเอง แต่ถูกจิ้มโดยคนที่อยู่ในวงดีลการเมือง

และการกลับมาของ “นักโทษชายทักษิณ” ก็อยู่ในดีลฆ่าพรรคก้าวไกล

ที่จริงก็รู้กันหมดแล้วล่ะครับว่าตัวละครมีใครบ้าง

หลายต่อหลายคนซดน้ำใบบัวบกทุกวัน แต่ก็ยังไม่หายช้ำใน

เพราะวันนี้มันเลยเถิด

กลายเป็น “หนีล้มเจ้า” ปะ “โกงคุก”

ออกสู่สังคมไม่กี่วัน “นักโทษชายทักษิณ” แสดงอาการเหลิงชนิดไม่แคร์สายตาประชาชน

คงคิดว่าได้รับการปกป้องอย่างดีโดย ดีลการเมือง

คิดผิดครับ!

นอกจาก “นักโทษชายทักษิณ” จะทำให้ศัตรูเก่าทางการเมืองฟื้นขึ้นมาแล้ว ศัตรูใหม่ยังแข็งแรงกว่าเดิม

ฉะนั้นดีลที่เกิดขึ้นนี้มีแนวโน้มจะเป็นดีลที่หมดอายุใช้งานในเวลาไม่นานนัก

เพราะถึงที่สุดแล้ว “นักโทษชายทักษิณ” มิได้สำนึกในความผิดที่ได้กระทำ ตามที่อ้างเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษไม่

อีกด้านหนึ่ง มีผู้ผิดหวังกับบทบาทของ “นักโทษชายทักษิณ” จากที่เคยคิดว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตยด้วยกัน กลับกลายเป็นผู้ทรยศ

อยากให้อ่านจดหมายของ “บุ้ง ทะลุวัง” ที่เขียนถึง “นักโทษชายทักษิณ”

“ด้วยวิธีการที่คุณเลือกจะกลับบ้านคือการเอาเสียงของประชาชนไปแลก ทำให้คุณเป็นได้แค่นักการเมืองน้ำเลวคนหนึ่ง จดหมายฉบับนี้อยากพูดถึงคุณทักษิณและพรรคการเมืองที่แสนกลับกลอกของเขาสักหน่อย ถึงจะอดอาหารเอาชีวิตและร่างกายแลกเพื่อให้กระบวนการยุติธรรมถูกปฏิรูปอยู่ แต่ตอนนี้บุ้งก็ได้ข่าวของคุณทักษิณอยู่บ้างจากการที่เพื่อนๆ เล่าให้ฟัง

ในสายตาบุ้ง คุณทักษิณเป็นคนที่น่ารังเกียจเหลือเกิน ไม่ว่าจะเคยมีคุณงามความดีอะไร ตอนนี้เกียรติยศและศักดิ์ศรีของคุณไม่ต่างจากสิ่งมีชีวิตปรสิต ส่วนคุณอุ๊งอิ๊งก็น่าเสียดายเหลือเกิน คุณไม่จำเป็นต้องทำตามที่พ่อสั่งทุกอย่างก็ได้นะคะ แต่อนิจจาลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น พ่อเป็นยังไงลูกก็เป็นอย่างนั้น

ครั้งหนึ่งตอนที่ทะลุวังประกาศว่าจะไปเยือนเพื่อไทย คุณทักษิณเคยพูดว่า ‘อย่าทะลุวังเลย มาทะลุทำเนียบเถอะ’ และให้การต้อนรับบุ้งเป็นอย่างดี อีกทั้งยังให้บุ้งและเพื่อนๆ นั่งคุยกับคนของเพื่อไทยเพื่อฟังคำขอของบุ้ง ถึงแม้จะมัดมือชกไล่สื่อออกจากห้อง ทั้งๆ ที่บุ้งต้องการให้เป็นการคุยแบบเปิดก็ตาม

คนของพรรคเพื่อไทยรับปากกับบุ้งว่า การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมนั้นง่ายมากและจะเป็นสิ่งแรกที่พรรคเพื่อไทยทำ บุ้งดีใจมากนะคะและเชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทยจะทำตามคำพูด เพราะคนที่ได้รับปากเป็นผู้ใหญ่แล้ว และคนเราจะมีเกียรติมีศักดิ์ศรีได้ก็เพราะรักษาคำพูดของตัวเอง แต่สุดท้ายแล้วโลกของผู้ใหญ่ก็ทำให้บุ้งผิดหวัง เมื่อพรรคเพื่อไทยตอ…ตลบตะแลง กลับกลอกปลิ้นปล้อน อย่างหน้าไม่อาย บุ้งและเพื่อนๆ ผิดหวังเสียใจ และหมดสิ้นซึ่งศรัทธาในตัวพรรคการเมือง แต่ถึงกระนั้นความหวังที่จะทวงคืนความยุติธรรมให้คนเสื้อแดงและคนตากใบยังไม่หายไปหรอกค่ะ บุ้ง ตะวัน และแฟรงค์ จึงเอาชีวิตเข้าแลก เมื่อความหวังไม่มี เรา ๓ คน จึงเลือกสร้างมันขึ้นมาเอง โดยกลั่นจากชีวิตเลือดเนื้อและอุดมการณ์ของพวกเรา

ที่เล่าเพราะอยากให้คนข้างนอกเข้าใจ ว่าที่เราทำไม่ใช่เพราะพวกเราบุ่มบ่าม ก้าวร้าว ทำอะไรไม่คิด แต่เพราะนักการเมืองทำให้เราผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเราไม่เลือกที่จะนอนอยู่บ้านเฉยๆ แต่เราต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในสังคม

แน่นอนว่ามันไม่ง่ายหรอกค่ะ ทุกวินาทีที่ผ่านไปในตอนนี้เวลาของพวกเรานับถอยหลังลงทุกที แต่พวกเราแลกได้เพราะเลือกแล้วที่จะทำ

ขอให้คนข้างนอกที่ไม่หยุดสู้ สู้ต่อไป สักวันชัยชนะต้องเป็นของประชาชน

บุ้งยังคงยืนยันที่จะอดอาหารจนกว่าข้อเรียกร้องจะสำเร็จ อยากให้ทุกคนเข้าใจบุ้งด้วยนะคะ”

ไม่ต้องเชื่อ “บุ้ง” ทั้งหมดก็ได้ครับ

เชื่อแค่ครึ่งก็สรุปได้แล้วว่า “นักโทษชายทักษิณ” หลอกทุกคน

ระวังดีลการเมืองจะล่ม

ที่คิดว่า “นักโทษชายทักษิณ” คือคู่ต่อกรพรรคก้าวไกล

จะกลับกลายเป็นว่า ขบวนการล้มเจ้าแข็งแกร่งขึ้น

รอดูเถอะครับ

Written By
More from pp
“พิทักษ์เดช” จวกรัฐบาล ต้องเร่งหาต้นตอ ควบคุม ปลาหมอคางดำ เสนออนุโลม กม. อุปกรณ์จับปลา พร้อมเยียวยาชาวประมง
เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 นายพิทักษ์เดช เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช และรองโฆษก พรรประชาธิปัตย์ เสนอญัตติด่วน ญัตติ ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาการแก้ไขปัญหาปลาหมอคางดำและการจัดการสายพันธ์ต่างถิ่นรุกราน...
Read More
0 replies on “‘หนีล้มเจ้า’ ปะ ‘โกงคุก’ – ผักกาดหอม”