เปลว สีเงิน
ก็ไม่รู้จะพูดยังไงกับนายกฯ คนนี้
ไปใต้ ที่ “ยะลา” เดือนก่อน ก็จะสร้าง “สนามบินยะลา”
ทั้งที่ยะลา ห่างจาก “สนามบินนานาชาติหาดใหญ่” เพียง ๑๐๐ กิโลเมตร
และที่ยะลาเอง ก็มี “สนามบินนานาชาติเบตง” อยู่ห่างจาก “สนามบินนานาชาติหาดใหญ่” แค่ ๑๕๔ กิโลเมตร
ก็เข้าใจธรรมชาติคนแต่ละพื้นที่
ไปถามคนไหน คนทุกก็อยากให้สร้างสนามบินในจังหวัด ในอำเภอ ในตำบล ของตัวเองทั้งนั้น
เพราะชาวบ้านมีหน้าที่เสนอสิ่งที่ตัวเองต้องการ
ส่วนความเป็นไปได้หรือเป็นไปไม่ได้ เป็นหน้าที่้นักการเมืองต้องคิด
ทำไมเป็นอย่างนั้นล่ะ?
ก็นักการเมืองนั่นแหละ สอนให้ชาวบ้านเป็นอย่างนั้น จนพูดกันว่า “ทั้งที่ไม่มีแม่น้ำ แต่นักการเมืองมันจะสร้างสะพาน”!
เพราะนั่นคือ วิธี “หารับประทานอันสุนทร” ทั้งในงบและนอกงบ ตามวัฒนธรรมท่านผู้ทรงเกียรติ!
“กู้ ๕ แสนล้าน” มาแจกคนละหมื่น นั่นก็ต้องระวัง ได้ยินตอนหาเสียง เป่าขม่อมชาวบ้านว่า
บ้านไหนมี ๕ คน เอาไป ๕ หมื่น มี ๑๐ คน เอาไป ๑ แสน
ง่ายขนาดนั้น ใครไม่เลือกมันก็ควายละ!
ควายเดี๋ยวนี้ ถูกๆ ตัวละ ๑๘ ล้าน ทำเป็นเล่นไป อย่าง “โก้ เมืองเพชร” นั่นไง
แต่ควายการเมือง ตัวละเท่าไหร่…ไม่รู้ รู้แต่ว่า ราคาแพงกว่า “หมาในคอก” ก็แล้วกัน
วันนี้ นายกฯเศรษฐา เสร็จจากร่อนไปรองบาทนักโทษที่เชียงใหม่ ก็นัดครม.ให้ยกคณะบินตามไปประชุมสัญจร ที่พะเยา
ถามตรงๆ ไม่อายตัวเองบ้างหรือ?
และรู้ตัวเองมั้ย ว่าเป็นนายกฯ ไม่ใช่สัมภเวสี ที่วันๆ เอาแต่เร่ไป-ร่อนมา ไม่ต่างประเทศ ก็จังหวัดโน้น-จังหวัดนี้ ทั้งเดือน-ทั้งปี
“ผลาญงบ-ผลาญเวลา” ในหน้าที่ ทั้งของตัวเองทั้งของข้าราชการแต่ละพื้นที่
แล้วได้งานอะไรเป็นเนื้อเป็นหนังบ้าง นอกจากเป็นตัวตลก คร่อกให้สำนักข่าวนำไปสอพลอเสนอเป็นตลกไร้สาระ
การไป “ดูงาน-ตรวจงาน” น่ะ ไปได้
แต่ให้มัน “เป็นครั้ง-เป็นคราว” และมีเหตุจำเป็นสมควรต้องลงไปดู
นี่…ไม่รู้งานในหน้าที่ของนายกฯ เอาแต่เที่ยวเร่ไปสร้างข่าว-สร้างกระแส จะสร้างสถิติเทียบอดีต นายกฯ ยิ่งลักษณ์หรือไง?
ไปพะเยา เอาอีกแล้ว
จะสร้าง “สนามบินพะเยา” อีก “ธรรมนัส-สุริยะ” ชง
“ผู้ว่าฯ จังหวัดพะเยาจะเสนอการผลักดันการก่อสร้างสนามบินพะเยา มูลค่าประมาณ ๓,๐๐๐ ล้านบาท เข้าสู่ที่ประชุมครม.สัญจร….”
สร้างได้-สร้างไม่ได้ ไม่รู้แหละ
“ขอ ๑๐๐ ล้านบาท มาทำ EIA ก่อน” ก็แล้วกัน!
ส่วน “เศรษฐา” ก็ยกซดปั๊บ
“ขอให้ชาวบ้านจังหวัดพะเยาอดใจรอการสร้างสนามบินพะเยา ตอนนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้
ซึ่งการก่อสร้างสนามบินนั้นถือเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่จะช่วยยกระดับเมืองรองให้เป็นเมืองหลักได้
จากการมาดูในพื้นที่ ก็เห็นว่าจังหวัดพะเยามีศักยภาพในการพัฒนาเป็นเมืองหลักได้”
กูจะบ้าตาย….!
พะเยา เป็นอำเภอ แยกจากเชียงรายมาเป็น “จังหวัดพะเยา” อยู่ห่างจาก “สนามบินเชียงราย” ๙๔ กิโลเมตร
ห่างจากสนามบินเชียงใหม่ ๑๕๓ กิโลเมตร ห่างจากสนามบินลำปาง ๑๓๔ กิโลเมตร
ห่างจากสนามบินแพร่ ๑๕๖ กิโลเมตร ห่างจากสนามบินน่าน ๑๘๘ กิโลเมตร
นี่คิดจะสร้างสนามบินมันให้ครบทุกจังหวัดของประเทศไทยรึไง…เศรษฐา?
เชียงใหม่, ลำปาง, เชียงราย, แพร่, น่าน, แต่ละพื้นที่ ห่างกันไม่ถึง ๒๐๐ กิโลเมตร ถี่ยังกะป้ายรถเมล์
ยังจะสร้าง “สนามบินพะเยา” อีก!?
เห็นว่าจะไปตรวจเมืองลำพูนด้วย ก็สร้าง “สนามบินลำพูน” ซะอีกแห่งเป็นไง จะได้มีมันให้ครบไปซะเลย!
เอาอะไรคิดกัน…หือ?
สนามบินที่สร้างสนองอยากนักการเมือง สุริยะ..ไหนตอบซิ กี่แห่ง ที่กลายสนามบินร้าง ปล่อยให้หมาขี้ นั่นน่ะ
เบตง ที่ห่างจากสนามบินหาดใหญ่ ๑๕๐ กว่ากิโล ยังเจ๊งแล้ว-เจ๊งอีก
โคราช-นครราชสีมา เพราะระยะทาง “ตกท้องช้าง” เห็นปล้ำผีลุก-ปลุกผีนั่งมากี่รอบ แล้วมีสายการบินไหนรอดล่ะ?
นั่งรถบัสชั้นดี แค่ร้อยกว่าบาท
แต่เรือบิน ต้อง ๔-๕ พันบาท ถึงจะคุ้ม ก็มีแต่สส. “นั่งฟรี” นั่นแหละอยากมี ชาวบ้านก็อยาก แต่ซักกี่คนมีปัญญาจ่ายที่ละครึ่ง-ค่อนหมื่น?
อย่าง “แม่ฮ่องสอน” ด้วยภูมิเทศยากต่อการเดินทางด้วยรถ สมควรมีสนามบิน ซึ่งก็มีมานานแล้ว และนักท่องเที่ยวก็ (พอ) มี
แล้วเป็นไง บินๆ หยุดๆ เปิดๆ ปิดๆ เพราะนักท่องเที่ยวมีเฉพาะช่วงเท่านั้น แล้วสายการบินไหนจะบินได้ตลอดล่ะ?
รถไฟ “เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ” ซึ่งผ่าน “พะเยา” ด้วย นั่นริเริ่มกันมาตั้งแต่ พศ.๒๕๐๓
แล้วเพื่อไทยของทักษิณเป็นรัฐบาลมากี่สมัย ตั้งแต่ยุคทักษิณ ยุคสมัคร-ยุคสมชาย-ยุคยิ่งลักษณ์ จนถึงยุคเศรษฐา
รัฐบาลคนเหนือ แต่ “เคยคิด-เคยแตะ” ที่จะทำเพื่อคนเหนือมั้ย?
ก็ไม่เลย มายุคพลเอกประยุทธ์ ที่ว่า ๘ ปีทำประเทศล้าหลัง นั่นแหละ
ลงมือ “เจาะภูเขา ข้ามเหว” สร้างรถไฟสาย “เด่นชัย-พะเยา-เชียงราย-เชียงของ” ระยะทาง ๓๒๓ กิโลเมตร
ที่คนเชียงรายไม่คิดว่า… “ชาตินี้จะได้เห็น”
ก็เกิดเป็นจริงให้เห็นและจะได้ใช้กันในอีกไม่กี่ปีนี่แล้ว!
“พะเยา-เชียงราย-เชียงของ” มีรถไฟถึง ในรอบ ๒๔๒ ปี ของกรุงรัตนโกสินทร์ นี่ไม่ต่าง “ฟ้ามาโปรด”
“เศรษฐา-สุริยะ-ธรรมนัส” แทนที่จะสำนึก-ตระหนัก แล้วชุบมือเปิบผลงานรัฐบาลประยุทธ ไปตรวจตรา ว่าตรงไหนจะเสริม-เติมแต่งเพิ่มให้คนพะเยาได้
ที่ “คิดได้-ทำได้” กลับ “ไม่คิด-ไม่ทำ”
อาจเพราะโครงการเขาลงตัว จนไม่เหลืออะไรให้และเล็มแล้วก็เป็นได้
กลับแผลงไปคิดทำ “สนามบินพะเยา” ซึ่งแค่คิด มันก็เห็นภาพ “สนามบินร้าง” แล้ว
หรือว่าใหม่ๆ มันมีพุง-มีมัน?
แต่ละสนามบิน ที่ระยะห่างกันแค่ ๒๐๐-๓๐๐ กิโลเมตร มันกินตัวกันเอง
เพราะแค่เครื่องบิน “เทกออฟ” จากสนามหนึ่ง ยังไม่ทันตั้งลำดี มันก็เลยอีกสนามไปแล้ว
ฉะนั้น ทั้งความคุ้มทางธุรกิจ ทางความปลอดภัย ทางด้านราคาโดยสาร และทางการบิน มันเป็นไปไม่ได้เลย
ที่ขึ้นปุ๊บ ก็ลดเพดานบินลงปั๊บ
เพื่อแวะจอดรับรายทาง เพราะนั่น ถ้าไม่ใช่รถเมล์ ก็เป็นแท็กซี่ ไม่ใช่เครื่องบินโดยสารแล้ว
แค่มีรถไฟมาเพิ่มจากถนนเป็นเส้นทางพะเยาไปสนามบินเชียงราย ก็นับว่าบุญนักหนา
หาไอเดียมาดึงดูดให้นักท่องเที่ยวและชาวบ้านหันมาใช้รถไฟให้มากขึ้น จะเกิดประโยชน์และคุ้มค่ากว่าการสร้างสนามบิน ซึ่งแค่คิดก็เลอะเทอะแล้ว!
ตอนแรกๆ สปีกจากทัวร์ยุโรป ว่าลงเครื่องบินแล้วจะไปเชียงใหม่ นักข่าวถาม “ไปพบทักษิณหรือ”
บอกไม่ใช่…จะไปดูไฟป่าที่สร้างมลพิษคลุมเมืองขึ้นอันดับ ๑ ของโลก
แค่ไปดู แล้วไฟป่าดับ นั่น…เศรษฐาจะยิ่งกว่าเทวดานะนั่น
แต่ไปแล้ว เห็นแต่ไปเป็น “นายกฯ ไข่แม้ว” ลืมที่อ้างจะไปดูไฟป่า จนกระทั่งนั่งรถไปพะเยา เห็นไฟป่าริมทาง ถึงได้แวะลงไปดู
อย่างนี้น่ะหรือ คือการ “ดูงาน” ของนายกฯ?
ไฟป่าเนี่ย จะบอกให้ “ดูงาน” ไม่ดับหรอก
มันต้อง “ดูลม” ว่ามาจากทิศทางแดนไกลหรือจากทางในบ้านเราเอง จะได้ “ตัดไฟแต่ต้นลม”
เห็นยืนแอ็กท่าให้ช่างภาพถ่ายทำในบทนายกฯ “สารพัดเก่ง-สารพัดรู้” ในทุกเรื่อง บัญชาการดับไฟ
วันนี้ ๑๙ มีนา.สำนักข่าวไหนออกข่าว….
เชียงใหม่ “เมืองนักโทษเทวดา” นายกฯ ทาสไปบัญชาการดับไฟป่าเอง แต่หมอกควันยังคงคลุมเมือง
มีเคืองแน่ๆ!
ก็ดูกันไป ละครบทจบ จะเป็นบทสุขหรือบทเศร้า นั่นไม่สำคัญเท่ากับว่า
“สุขเรา-เศร้าเขา” หรือ “เศร้าเขา-แต่สุขเรา” เท่านั้นแหละ!
เปลว สีเงิน
๑๙ มีนาคม ๒๕๖๗
