8 มีนาคม 2567 ที่หอประชุมอำเภอกันทรลักษ์ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจติดตามการขับเคลื่อนงานตามนโยบายรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย โดยมี นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายณัฏฐพล จรัสรพีพงษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายนพ พงศ์ผลาดิสัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ นายคมกริช ชินชนะ ผู้ตรวจราชการกรมพัฒนาชุมชน ร่วมลงพื้นที่
โอกาสนี้ นายพรชัย วงศ์งาม นายอำเภอกันทรลักษ์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่กว่า 2,000 คน ร่วมให้การต้อนรับ
นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า อำเภอกันทรลักษ์เป็นอำเภอที่ใหญ่มาก เป็นอำเภอพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดศรีสะเกษ มีพื้นที่ใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 10 ลำดับแรกของประเทศ เป็นพื้นที่แห่งความภาคภูมิใจของชาวศรีสะเกษและคนไทย ซึ่งการเพิ่มพูนรายได้ให้พี่น้องประชาชนนั้น สิ่งที่สำคัญ คือ เรื่องการท่องเที่ยวโดยเฉพาะบริเวณชายแดน โดยพื้นที่สำคัญที่กระทรวงมหาดไทยกำลังผลักดัน คือ จุดผ่อนปรนเพื่อการท่องเที่ยวช่องทางขึ้นเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
ซึ่งพื้นที่นี้เคยเปิดเป็นจุดผ่อนปรนเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสขึ้นชมปราสาทเขาพระวิหารได้ แต่ได้ปิดทำการมาตั้งแต่เดือน มิ.ย. 51 เนื่องจากความไม่สงบในพื้นที่ ที่เป็นสิ่งที่พี่น้องชาวกันทรลักษ์ต้องการมาก ท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้ความสำคัญกับการเปิดพื้นที่ท่องเที่ยว เพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและรายได้ของประชาชนในท้องถิ่นต่าง ๆ ทำให้พวกเราได้มีรายได้เพิ่มพูน
ทั้งนี้ สำหรับการเตรียมการของหน่วยงานในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ เพื่อรองรับการเปิดจุดผ่อนปรนฯ ตามนโยบายของ รมว.มหาดไทย ได้ดำเนินมาโดยต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 8 พ.ย. 66 นายอำเภอกันทรลักษ์ได้เป็นประธานการประชุมเตรียมการ ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบให้จังหวัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรัฐบาลไทย กัมพูชา ดำเนินการให้มีการเปิดจุดผ่อนปรน เพื่อการท่องเที่ยวบริเวณปราสาทเขาพระวิหาร
ต่อมาเมื่อวันที่ 24 พ.ย. 66 รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษร่วมกับ อ.กันทรลักษ์ หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ และอุทยานแห่งชาติพระวิหาร มีการประชุมกับสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเพื่อพิจารณาความเหมาะสมในการเปิดผ่านจุดผ่อนปรนฯ ซึ่งในส่วนของจังหวัดศรีสะเกษได้ระบุถึงความพร้อมของหน่วยงานและบุคลากรในพื้นที่ สำหรับการบริหารจัดการเมื่อมีการเปิดจุดผ่อนปรนฯ และ เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 67 ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้เข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ข้อมูลการศึกษาการเปิดทางขึ้นชมปราสาทพระวิหารด้วย
ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 67 สภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้ลงพื้นที่เพื่อรับทราบข้อมูลการยกระดับจุดผ่อนปรนเพื่อการท่องเที่ยวปราสาทเขาพระวิหาร และที่ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาการเปิด – ระงับ หรือปิดจุดผ่านแดนประเภทต่างๆ เมื่อวันที่ 29 ก.พ. 67 ก็ได้รับทราบการดำเนินการเตรียม ความพร้อมในระดับพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อรองรับการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง หากได้รับพิจารณาเปิดจุดผ่อนปรนฯ แล้ว
“ผมฝันถึงว่า ในชีวิตผมจะมีโอกาสมาท่องเที่ยวในพื้นที่กันทรลักษ์ มาสัมผัสความสุขของพี่น้องกันทรลักษ์ เพราะกันทรลักษ์มีของดีที่มีชื่อเสียงมากมาย ทั้งทุเรียนศรีสะเกษ หรือ “ทุเรียนภูเขาไฟ” ที่โด่งดังไปทั่วทั้งประเทศ วันนี้เราต้องมาช่วยกัน เพื่อนำสิ่งที่เป็นปัญหาของพี่น้องชาวกันทรลักษ์ไปเสนอต่อรัฐบาล ไปนำเรียนท่านอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย “ปัญหาทุกอย่างต้องแก้ด้วยการเมือง”” นายชาดา กล่าวเน้นย้ำ
นายชาดา กล่าวย้ำในช่วงท้ายว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดวันนี้ ชาวไทยทุกคนต้องยึดมั่นในสถาบันหลักของชาติ คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เพราะ 3 สถาบันหลักทำให้ประเทศไทยธำรงอยู่ได้จนบัดนี้ ไม่ว่าคนเชื้อชาติใดที่มาพึ่งใบบุญพระบรมโพธิสมภารของสถาบันพระมหากษัตริย์ต่างก็ได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างมีความสุขใต้ร่มพระบารมี ขอให้พวกเราทุกคนช่วยกัน เราจะรักอย่างเดียวไม่ได้ เราต้องปกป้องสถาบันด้วย เพราะประเทศไทยเราอยู่ได้ด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์
ในการลงพื้นที่ของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยในครั้งนี้ ตัวแทนผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงนายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอกันทรลักษ์ และนางสาวจิณณพัต เพ็งนรพัฒน์ ตัวแทนเยาวชนคนรุ่นใหม่ของอำเภอกันทรลักษ์ ได้นำเสนอข้อมูลความต้องการเพื่อการพัฒนาพื้นที่อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยกล่าวว่า อำเภอกันทรลักษ์เป็นพื้นที่ที่มีชื่อเสียงด้านการเกษตร ทั้งปาล์ม ยางพารา ทุเรียนภูเขาไฟ พืชไร่พืชสวน สิ่งที่สำคัญที่ต้องขอรับการสนับสนุน คือ การพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการบริหารจัดการน้ำ การระบายน้ำ เพื่อหนุนเสริมและพัฒนาผลผลิตทางการเกษตร
“โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยที่ทำให้คนกันทรลักษ์มีรายได้มาก เพราะสมัยก่อนเรามีประเพณีวิ่งขึ้นเขาพระวิหาร แต่ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นประเพณีวิ่งขึ้นผามออีแดง พวกเรายังนึกถึงวันนั้นอยู่เสมอ ว่าถ้าเราเปิดจุดผ่อนปรนเพื่อการท่องเที่ยวที่เขาพระวิหารได้ เราจะสามารถพัฒนาและสร้างรายได้ให้กับประชาชนเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก”