6 มีนาคม 2567 เวลา 09.30 นาฬิกา ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะ กมธ. ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ พร้อมด้วย นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ประธานคณะ กมธ.การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน นายธีรัจชัย พันธุมาศ รองประธานคณะ กมธ.การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ คนที่หนึ่ง และนายฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล โฆษกคณะกมธ. การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมฯ ร่วมกันรับหนังสือจาก นางรสิตา ซุ่ยยัง พร้อมด้วย นายสมโชค จุงจาตุรันต์ ผู้แทนคณะทำงานเครือข่ายรักษ์ระนอง – ชุมพร และคณะ เรื่อง ขอให้ตรวจสอบโครงการแลนด์บริดจ์ระนอง – ชุมพร
ตามที่รัฐบาลมีนโยบายที่จะดำเนินโครงการแลนด์บริดจ์ระนอง – ชุมพร และได้มีการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชนด้านผลกระทบ ต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EIA และ EHIA) ทั้งจากโครงการท่าเรือน้ำลึกและเส้นทางรถไฟที่จะผ่านพื้นที่ อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร ซึ่งที่ผ่านมาพวกเราทราบว่ามีการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นทั้งในระดับจังหวัด และระดับอำเภอไปแล้วหลายครั้ง แต่ยังให้เกิดความสับสนและความไม่เข้าใจกับประชาชนชาวระนอง – ชุมพรอีกจำนวนมากในเรื่องนี้ เพราะชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบยังไม่ได้เข้าร่วมเวทีดังกล่าว
ซึ่งรัฐบาลมีการประกาศไปแล้วว่าจะดำเนินการก่อสร้างโครงการนี้ พร้อมกับเชิญชวนผู้ประกอบการจากต่างประเทศมาลงทุนเพื่อให้เริ่มก่อสร้างได้ทันภายในช่วงที่รัฐบาลชุดนี้ยังมีอำนาจบริหารประเทศ จึงยิ่งสร้างความไม่มั่นใจว่ากระบวนการเหล่านั้นจะสามารถทำให้เขาได้รับทราบถึงอนาคตของชาวบ้านว่าจะได้รับผลกระทบ ด้านการดำรงชีวิต ด้านการประกอบอาชีพ โดยเฉพาะสิทธิ์ในที่ทำกินที่อยู่อาศัย และสิทธิในการจัดการฐานทรัพยากรของชาวบ้านในพื้นที่จะเป็นอย่างไร เครือข่ายจึงขอร้องเรียนว่า โครงการก่อสร้างทางรถไฟระหว่างจังหวัดชุมพร และระนอง
ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของท่าเรือทั้งสองฝั่งทะเล และระหว่างทางที่จะผ่านอำเภอพะโต๊ะด้วยระยะทางกว่า 90 กิโลเมตร ที่จะต้องเวนคืนที่ทำกินที่อยู่อาศัยของประชาชนทั้ง 2 จังหวัดจำนวนมาก (ทั้งที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์และไม่มีกรรมสิทธิ์) ซึ่งรวมถึงพื้นที่แหล่งทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างเช่น พื้นที่อนุรักษ์ ป่าสงวน ป่าต้นน้ำ แหล่งน้ำ สัตว์ป่า ทะเลชายฝั่ง ที่มีความละเอียดอ่อนต่อการดำรงชีวิตและต่อระบบนิเวศในพื้นที่
ซึ่งเชื่อแน่ว่าชาวบ้านในพื้นที่โครงการทั้งหมดจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง และหากมีการเวนคืนที่ดิน หรือการชดเชยค่าเสียหายต่าง ๆ รัฐบาลมีการวางแผนที่จะจัดการเรื่องนี้อย่างไร รวมทั้งขอให้ตรวจสอบการใช้งบประมาณของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และบริษัทที่ปรึกษาโครงการต่าง ๆ ที่ดำเนินการศึกษาด้านต่างๆ ภายใต้โครงการแลนด์บริดจ์ ระนอง – ชุมพร ว่ามีการดำเนินการอย่างถูกต้องตามวัตถุประสงค์ของโครงการ และตามระบบระเบียบขอบทางราชการหรือไม่ อย่างไร และขอให้ตรวจสอบกระบวนการดำเนินงานของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) การรถไฟแห่งประเทศไทย และบริษัทที่ปรึกษาโครงการต่างๆ ที่ดำเนินการภายใต้โครงการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และสุขภาพ (EIA และ EHIA) ว่าได้มีการศึกษาหรือกำลังศึกษาอะไรอยู่บ้าง อย่างไร และแต่ละโครงการเหล่านั้นดำเนินการไปถึงไหน อย่างไร
นายรังสิมันต์ โรม กล่าวภายหลังรับยื่นหนังสือว่า กมธ. ตระหนักถึงความสมบูรณ์ของทรัพยากรทางภาคใต้ที่มีจุดแข็งในการนำไปต่อยอด ทางด้านเศรษฐกิจได้จำนวนมาก ดังนั้น กมธ.ทั้ง 4 คณะ จะนำมาหารือว่าคณะ กมธ.ชุดใด มีอำนาจและหน้าที่เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวมากที่สุดให้เป็นหลักในการทำงานร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป
สำหรับนายพริษฐ์ วัชรสินธุ กล่าวว่า การมีส่วนร่วมของประชาชนในด้านผลกระทบกับชีวิตและทรัพยสินของประชาชน ควรรับฟังจากประชาชนจำนวนมากกว่านี้เพื่อรับทราบถึงปัญหารอบด้าน และประชาชนได้รับผลกระทบน้อยเพื่อการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่ง คณะกมธ.ยินดี ร่วมทำงานกับทุกคณะกมธ.ในการหาแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว ต่อไป
นายธีรัจชัย พันธุมาศ กล่าวว่า กมธ.ยินดี ร่วมทำงานกับทุกคณะกมธ.ในการหาแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว ต่อไป
นายฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล กล่าวว่า ภาคใต้เป็นภาคที่มีทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมที่สมบูรณ์ที่สุดภาคหนึ่งในประเทศไทย คณะ กมธ.ที่ดิน จะร่วมทำงานกับคณะ กมธ.ต่าง ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยขอให้รัฐบาล ใช้ความรอบคอบและหาข้อมูลที่มีความรอบด้านมากกว่าปัจจุบัน
