พม. -ทส.-อบก. เตรียมปรับตัวรับภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง เหตุกระทบกลุ่มเปราะบางเป็นกลุ่มแรก

เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2567 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานเปิดตัวโครงการ “Climate Change Adaptation พม. พร้อมรับ ปรับตัว ต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ“ โดยมี นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวรายงาน พร้อมด้วย นางจตุพร โรจนพานิช อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และผู้บริหารกระทรวง พม. เข้าร่วมงาน ณ ห้องประชุม ชั้น 2 อาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวง พม. สะพานขาว กทม.

นายวราวุธ กล่าวว่า เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก เป็นวิกฤตการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตและมวลมนุษยชาติอย่างรุนแรง เห็นได้จากปรากฎการณ์ต่างๆ เช่น โลกร้อน น้ำท่วม ไฟป่า ภัยแล้ง มลพิษทางอากาศ ซึ่งมีความถี่และความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการสูญเสียทั้งชีวิตและสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน และโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ประเทศไทยเป็นประเทศลำดับต้นๆของโลก ที่มีความเสี่ยงจะได้รับผลกระทบ ตามรายงานธนาคารโลก (World Bank) ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะผลักให้คนอีก 130 ล้านคน กลายเป็นคนยากจนในอีก 10 ปีข้างหน้า เนื่องจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้ปัญหาความเหลื่อมล้ำที่มีอยู่แต่เดิมรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศที่มีรายได้น้อย เนื่องจากร้อยละ 75 ของคนยากจนในพื้นที่ชนบทต้องพึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติในการดำรงชีวิต

นายวราวุธ กล่าวต่อไปว่า จากข้อมูลการพัฒนาคนแบบชี้เป้า (Thai People Map and Analytics Platform : TPMAP) มีจำนวนคนยากจนมากถึง 4.4 ล้านคน ซึ่งความยากจนเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คนจำนวนมากตกอยู่ในสถานะเปราะบาง แม้ว่าการปรับตัวรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะเป็นประเด็นที่สำคัญในระดับต้นๆของยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่ในการดำเนินการในระดับปฏิบัติยังมีข้อจำกัดในเรื่องของความรู้ความเข้าใจประสบการณ์ในการบ่งชี้ความเปราะบาง และการสนับสนุนเพื่อเตรียมความพร้อมในการวางแผนปรับตัวรับมือภัยพิบัติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

นายวราวุธ กล่าวต่ออีกว่า กระทรวง พม. ต้องขอขอบคุณกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก(องค์การมหาชน)(อบก.) ที่มาร่วมกิจกรรมและมีการจัดเวทีเสวนา ช่วยในการทำให้บทบาทการทำงานของกระทรวง พม. นั้นมีความพร้อมมากขึ้น ในการที่จะรับมือกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นต่อๆ ไป เพราะว่าสถานการณ์เรื่องภัยธรรมชาติต่างๆ ใกล้ตัวของเรามากขึ้นทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์คุณภาพอากาศ อุณหภูมิที่สูงขึ้นในแต่ละปี อย่างเช่นปีนี้คาดการณ์ว่ายอด Heat Index จะสูงขึ้นประมาณ 45-47 องศา ยังไม่รวมถึงสถานการณ์น้ำแล้งและน้ำท่วมที่จะเกิดขึ้น ดังนั้นกระทรวง พม. จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเตรียมพร้อม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเด็กเล็ก กลุ่มผู้สูงอายุ และคนพิการ รวมถึงพี่น้องประชาชนโดยทั่วไปนั้น ในการรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น เพราะว่าพี่น้องกลุ่มที่เปราะบางที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษนั้น มักจะได้รับผลกระทบเป็นกลุ่มแรกเวลาเกิดสถานการณ์ภัยธรรมชาติต่างๆ ขึ้น รวมถึงแนวทางในการที่จะมาร่วมกันป้องกันไม่ให้ปัญหาเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศมันรุนแรงไปมากกว่านี้ รวมถึงการที่จะให้หน่วยงานต่างๆ ภายใต้กระทรวง พม. นั้น ได้เข้าใจถึงการปรับเปลี่ยน การปรับตัวบริบทงานของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่พักอาศัย การซ่อมแซมบ้านเรือนของพี่น้องประชาชน และการดำรงชีพในวิถีชีวิตประจำวันของพี่น้องประชาชนที่จะต้องปรับเปลี่ยน และจะต้องได้รับผลกระทบอย่างไรกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่จะเกิดขึ้น เวลาพูดถึงการปรับตัว เราพูดถึงการปรับตัวของมนุษย์ และกลุ่มคนที่กระทรวง พม. ต้องดูแล คือกลุ่มเปราะบางเป็นกลุ่มแรก ที่จะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว

นายวราวุธ กล่าวต่อไปอีกว่า วันนี้คนรุ่น Gen Y , Gen Z รวมถึง Gen Alpha เมื่อมองไปในอนาคต
พวกเขายังมองไม่เห็นความหวัง เขายังเห็นแต่ปัญหาที่จะเกิดขึ้น น้ำจะท่วมประเทศไทยไหม Polar Ice จะละลายถึงขนาดไหน คุณภาพอากาศจะดีขึ้นหรือไม่ สถานการณ์เอลนีโญ ลานีญา จะทวีความรุนแรงขึ้นไหม ต่างๆ เหล่านี้ เป็นตัวที่ทำให้คนรุ่นใหม่ไม่อยากมีครอบครัว และไม่อยากที่จะมีลูกในอนาคต เพราะว่าเมื่อมีลูกมาแล้ว จะทำให้เขากำลังจะเผชิญกับภัยอันตรายหรือว่าสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ จึงเป็นเหตุทำให้ไม่อยากมีลูก ตนเชื่อมั่นว่าถ้าเราสามารถคืนความสมบูรณ์ให้กับธรรมชาติ ปัญหาเรื่อง Climate Change เราจะสามารถลดความรุนแรงลงได้ เมื่อเห็นความหวังที่จะดีขึ้น อาจจะเป็นตัวกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่คิดอยากจะมีครอบครัว และอยากจะมีลูก เพราะว่าประเทศไทยเราไม่ได้มีปัญหาในเรื่องการเจริญพันธุ์ แต่เรามีปัญหาในเรื่องที่คนรุ่นใหม่ไม่อยากมีครอบครัว และไม่อยากมีลูก

นายวราวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า เราจะนำเอาองค์ความรู้ของทั้ง 2 กระทรวง คือ กระทรวง พม. และองค์ความรู้ของกระทรวทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในมิติเรื่อง Climate Change เข้ามาผนวกกัน เพราะว่าภายใต้เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนว่า SDGs ทั้ง 17 ข้อ การที่จะมีสังคมเมืองอย่างยั่งยืน การที่จะลดความเหลื่อมล้ำต่างๆ นั้น มันเป็นปัญหาที่ต้องเรียนว่าเกี่ยวเนื่องกันและเชื่อมโยงกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ กิจกรรมนี้ การนำเอาองค์ความรู้จากกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม มาขยายความให้กับเพื่อนๆ ข้าราชการของกระทรวง พม. ได้ทราบ ในการที่จะนำเอาองค์ความรู้เหล่านั้นไปปรับและประยุกต์ใช้ให้เข้ากับบริบทงานของกระทรวง พม. ไม่ว่าจะเป็นกิจการของเด็กเล็ก ของพี่น้องคนพิการ ผู้สูงอายุ รวมถึงสถาบันครอบครัวด้วย

Written By
More from pp
“อนุทิน” เผย ครม.เห็นชอบไทยจองซื้อวัคซีนโควิด 26 ล้านโดส ขอคนไทยยังสวมหน้ากากป้องกันโรค
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผย ครม.มีมติเห็นชอบให้ไทยจองซื้อวัคซีนโควิด 19 จากแอสตราเซนเนกาจำนวน 26 ล้านโดส เพื่อให้คนไทย 13 ล้านคนเข้าถึงวัคซีนเป็นประเทศแรกๆ หลังวัคซีนสำเร็จ พร้อมขอทุกคนยังสวมหน้ากาก...
Read More
0 replies on “พม. -ทส.-อบก. เตรียมปรับตัวรับภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง เหตุกระทบกลุ่มเปราะบางเป็นกลุ่มแรก”