“ยุบพรรค” กับ “ก้าวไกล” – ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

ช่วงนี้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านมีงานต้องทำเยอะครับ

นอกจากคดีหุ้นสื่อของ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ที่ศาลนัดฟังคำวินิจฉัย วันที่ ๒๔ มกราคมแล้ว ยังมีคดียุบพรรคก้าวไกล จากพฤติกรรมล้มล้างการปกครอง กรณีแก้ ม.๑๑๒ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนวันที่ ๒๕ ธันวาคมนี้

และอาจวินิจฉัยต้นปีหน้าเช่นกัน

พรรคก้าวไกลพกความมั่นใจมาเต็มร้อย ไม่มีทางยุบพรรคก้าวไกลได้แน่นอน

“ชัยธวัช ตุลาธน” หัวหน้าพรรคก้าวไกล มีแนวคิดเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ เฉกเช่นผู้คนในเครือข่ายนิตยสารฟ้าเดียวกัน มั่นใจมากพรรคไม่มีทางถูกยุบแน่นอน

“…ผมไม่กังวลว่าจะไปถึงการยุบพรรค เพราะคดีนี้เป็นการร้องให้ยุติการกระทำ ไม่สามารถไปไกลถึงเรื่องยุบพรรคได้

ทั้งนี้ พรรคต่อสู้เต็มที่ และการเสนอร่างกฎหมายใดๆ ไม่สามารถนำไปสู่การล้มล้างการปกครองได้ เพราะกระบวนการทางนิติบัญญัติมีกรอบชัดเจนว่าไม่สามารถขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญได้

ในกระบวนการตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญนั้น สามารถเกิดได้ทั้งก่อน หรือหลังประกาศใช้ โดยศาลรัฐธรรมนูญ

ดังนั้นการเสนอร่างกฎหมายเพื่อแก้ไขไขกฎหมายใด ไม่เฉพาะมาตรา ๑๑๒ เท่านั้น ซึ่งในกระบวนการทางนิติบัญญัติไม่สามารถนำไปสู่การล้มล้างการปกครองได้ด้วยตัวของร่างกฎหมายนั้นๆ…”

แต่…”ชัยธวัช” ต้องฟังคนอื่นบ้าง การฟังแต่พวกเดียวกัน ไม่มีทางคิดได้รอบด้าน เหมือนกรณี “ไอซ์ รักชนก ศรีนอก” ถูกศาลอาญาสั่งจำคุก ๖ เดือน จากคดี ม.๑๑๒ ที่ “ชัยธวัช” รับเป็นทนายความให้

วิธีคิดต่อ ม.๑๑๒ ของ “ชัยธวัช” จึงมีผลต่อคดีไอซ์ รักชนก อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

คำพิพากษาของศาลจึงปรากฏข้อความที่สะท้อนให้เห็นถึงวิธีคิดแบบพรรคก้าวไกล

…จำเลยให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดีมาโดยอ้างว่าไม่ได้กระทำผิด โดยไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของจำเลยเพื่อหาข้อเท็จจริง และที่จำเลยอ้างว่ามีความยึดถือการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขนั้น มีข้อพิรุธและความขัดแย้งของตัวเอง ไม่ขวนขวายหาข้อเท็จจริงกับแนวทางข้อต่อสู้ของจำเลยมีน้ำหนักน้อย ไม่น่าเชื่อถือ ผิดวิสัย

ทั้งยังลงภาพและถ้อยคำ “แซะ” สถาบันด้วย เห็นว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เป็นความผิดหลายกรรม ให้ลงโทษทุกกรรมตามความผิด…

ปกติผู้ต้องหาต้องดิ้นรนหาหลักฐานมาแสดงต่อศาลเพื่อประโยชน์ทางคดีของตนเอง

แต่ “ไอซ์ รักชนก” ที่มี “ชัยธวัช” เป็นทนายความ ยืนกรานว่าไม่ผิด โดยไม่ขวนขวายหาหลักฐานมาต่อสู้

นั่นเพราะอิทธิพลจากมุมมองต่อ ม.๑๑๒ นั่นเอง

“ชัยธวัช” จึงไม่ควรมั่นใจมากเกินไปว่า จะไม่นำไปสู่การยุบพรรคก้าวไกล

อย่าลืมนะครับ สาเหตุที่ร่างกฎหมายแก้ ม.๑๑๒ ไม่ถูกบรรจุในระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนั้น เพราะเป็นร่างกฎหมายที่มีปัญหา

ก่อนนี้กลุ่มงานพระราชบัญญัติ และญัตติ ๑ สำนักการประชุม สภาผู้แทนราษฎร ได้ทำหนังสือบันทึกข้อความกลับไปยังพรรคก้าวไกล ระบุเอาไว้ชัด

การแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒ เพื่อให้มีการยกเว้นความผิด และการยกเว้นโทษต่อความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์นั้น เป็นการขัดหรือแย้งรัฐธรรมนูญมาตรา ๖ ซึ่งบัญญัติว่า…

“องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใดๆ มิได้”

นี่คือพฤติกรรมที่นำไปสู่การล้มล้างการปกครองหรือไม่ ก็ลองคิดดูดีๆ

พรรคก้าวไกลกับจุดยืน ม.๑๑๒ ยังคงปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ของพรรคครับ ตามลิงค์ https://www.moveforwardparty.org/article/8844/

พรรคก้าวไกลยืนยันว่า ม.๑๑๒ มีปัญหาในทุกมิติ ทั้งตัวบทกฎหมายและการบังคับใช้ พรรคก้าวไกลจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อแก้ไข ม.๑๑๒

โดยข้อเสนอแก้ไข ม.๑๑๒ ของเราเป็นข้อเสนอที่พอจะพูดคุยกันกับทุกฝ่ายด้วยเหตุและผลได้

ทั้งนี้ เราต้องยอมรับความจริงว่า หากสภาผู้แทนราษฎรไม่ร่วมมือกันอย่างแข็งขันเพื่อช่วยกันแก้ไขให้กฎหมายนี้เป็นธรรมขึ้นได้ สังคมก็จะเหลือเพียงตัวเลือกสุดท้าย คือ การยกเลิก ม.๑๑๒ ไปอย่างถาวรตามข้อเรียกร้องของประชาชนนอกสภา

หลังจากที่ร่างแก้ไข ม.๑๑๒ ของพรรคก้าวไกลถูกสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรดองไว้เป็นเวลากว่า ๙ เดือน (ยื่นเข้าสู่สภามาตั้งแต่วันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔) มาวันนี้สถานการณ์มีความหนักหนาสาหัส เร่งด่วนขึ้นจนถึงจุดวิกฤต ประชาชนถูกจับกุมคุมขัง เยาวชนถูกจับเข้าคุก ไม่ได้สิทธิ์ประกันตัวนับร้อยคนด้วยข้อหา ๑๑๒ พรรคก้าวไกลจึงจำเป็นต้องขอให้ประธานสภาบรรจุวาระพิจารณาร่างแก้ไข ม.๑๑๒ ของพรรคก้าวไกลเข้าสู่สภาเพื่อเริ่มการพิจารณาโดยทันที

ย้ำอีกครั้ง! ม.๑๑๒ ต้องถูกแก้ ก่อนสายเกินการณ์

สาระสำคัญการแก้ไข ม.๑๑๒ ของพรรคก้าวไกล เป็นการย้ายความผิดฐาน ๑๑๒ ออกจากหมวดความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ

[๑] ลดอัตราโทษลงอย่างมาก ไม่กำหนดโทษขั้นต่ำ รวมทั้งสามารถพิจารณาลงโทษปรับแทนการจำคุก เพื่อให้ได้สัดส่วนกับความผิด

ลดโทษ จากเดิมจำคุก ๓-๑๕ ปี : แก้ไขโทษจำคุกเหลือไม่เกิน ๑ ปี หรือมีเพียงโทษปรับไม่เกิน ๓๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำและปรับ (สำหรับการกระทำความผิดต่อพระมหากษัตริย์)

ลดโทษ จากเดิมจำคุก ๓-๑๕ ปี : แก้ไขโทษจำคุกเหลือไม่เกิน ๖ เดือน หรือมีเพียงโทษปรับไม่เกิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำและปรับ (สำหรับการกระทำความผิดต่อ พระราชินี รัชทายาท ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์)

[๒] เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลทั่วไปนำฐานความผิดนี้ไปใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง กลั่นแกล้งผู้อื่น หรือนำไปใช้โดยไม่สุจริต

จากเดิมประชาชนทั่วไปสามารถฟ้องร้องคดีนี้ได้ : แก้ไขให้เฉพาะสำนักพระราชวังเป็นผู้ร้องทุกข์ รวมถึงกำหนดให้ความผิดในลักษณะนี้เป็นความผิดอันยอมความได้

[๓] บทยกเว้นความผิดและยกเว้นโทษ

ยกเว้นความผิด หากเป็นการติชม แสดงความคิดเห็นโดยสุจริต เพื่อรักษาไว้ซึ่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อธำรงไว้ซึ่งรัฐธรรมนูญ หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะ

ยกเว้นโทษ หากพิสูจน์ได้ว่าข้อที่หาว่าเป็นความผิดนั้นเป็นความจริง แต่ห้ามไม่ให้พิสูจน์เรื่องความเป็นอยู่ส่วนพระองค์ “และ” การพิสูจน์ไม่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน

นี่คือจุดยืนพรรคก้าวไกลที่เผยแพร่เมื่อ ๒ ปีก่อน

วันนี้ก็ยังคงยืนยันในจุดยืนเดิม

จะล้มล้างการปกครองหรือไม่ ก็อยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญท่านจะวินิจฉัยครับ

แต่คำขู่ที่ว่าต้องถูกแก้ ก่อนสายเกินการณ์

หรือที่บอกว่า สุดท้ายต้องเลิก ม.๑๑๒ อย่างถาวร เพราะม็อบนอกสภา

ล้มล้างหรือไม่ แล้วแต่จะตีความครับ

Written By
More from pp
คลัง ปรับเพิ่มตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ร้อยละ 2.7 เชื่อเป็นความสำเร็จจากการดำเนินนโยบายของนายกฯ ดอกผลนี้จะยังเห็นเป็นผลสำเร็จต่อเนื่อง เพื่อให้คนไทยอยู่ดีกินดี มีวิถีชีวิตที่ดีขึ้น
26 กรกฎาคม 2567 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยกรณี นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แถลงผลการประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2567...
Read More
0 replies on ““ยุบพรรค” กับ “ก้าวไกล” – ผักกาดหอม”