ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตํารวจ บก.ป., บก.ปคบ., บก.ปคม. และ บก.ปอศ. ปฏิบัติการกวาดล้างผู้ค้าอาวุธปืนผ่านโซเชียล พบ1ในนั้นลอบขายกระสุนให้เด็ก 14 ก่อเหตุยิงที่พารากอน
สืบเนื่องจากในปัจจุบันสังคมไทย มีการลักลอบซื้อขายอาวุธปืน, แบลงค์กัน และเครื่องกระสุนปืนผ่านสื่อสังคมออนไลน์อย่างแพร่หลาย และมีการนําอาวุธปืนออกมาก่อเหตุอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งส่งผล กระทบต่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดย กลุ่มคนร้ายมักมีการแฝงตัวสร้างเพจขึ้นมาเพื่อหลอกลวง ฉ้อโกงเหยื่อ แต่สุดท้ายไม่มีการส่งสินค้าให้จริง
ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตํารวจ กก.2 บก.ปอท. ทําการสืบสวนกลุ่มขบวนการฯลอบค้าอาวุธปืนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ในห้วงวงรอบประจําเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2566 มาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 พ.ย.66 เจ้าหน้าที่ตํารวจ กก.2 บก.ปอท. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตํารวจ บก.ป., บก.ปคบ., บก.ปคม. และ บก.ปอศ. เปิดปฏิบัติการทลายกลุ่มเครือข่ายที่ลักลอบซื้อ – ขายอาวุธปืนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เข้าตรวจค้น สถานที่ที่เชื่อได้ว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มซื้อ-ขายอาวุธปืนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ จํานวน 21 สถานที่ ใน 12 จังหวัด (กรุงเทพมหานคร, ปทุมธานี, นนทบุรี, สมุทรสาคร, สมุทรปราการ, พระนครศรีอยุธยา, ชลบุรี, อุดรธานี, พิจิตร, เชียงใหม่, กาญจนบุรี, นครศรีธรรมราช) โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้รวมทั้งสิ้น 8 ราย
อีกทั้งในการปฏิบัติการตรวจค้นข้างต้น ยังสามารถจับกุม นายอภิเชษฐ์ฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับในความผิดฐาน “ร่วมกันจําหน่ายเครื่องกระสุนปืนสําหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งจากการสืบสวนสอบสวนในทางคดีผู้ต้องหาคนดังกล่าว เป็นผู้ขายเครื่องกระสุนปืนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ และจัดส่งให้กับผู้ก่อเหตุกราดยิงที่ห้างพารากอน เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา
โดยในห้วงตลอดเดือนพฤศจิกายน 2566 เจ้าหน้าที่ตํารวจ กก.2 บก.ปอท. ได้ทําการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อปิดกั้นเว็บเพจเฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ ที่มีการประกาศขายอาวุธปืน, แบลงค์กัน, ปืนปากกา, ปืนไทยประดิษฐ์ และเครื่องกระสุนปืน โดยได้ทําการปิดกั้นไปแล้วทั้งสิ้น 146 URL แบ่งเป็น URL Facebook จํานวน 48 URL และ URL Twitter จํานวน 98 URL