ผักกาดหอม
ความหื่นไม่ทันหาย ความคาวก็เข้ามาแทรก
พรรคก้าวไกลยังตั้งตัวไม่ติด เพราะมีเรื่องร้ายเรื่องลบกระทบพรรคไม่เว้นวัน
กรณี “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ไปพบ “น.ช.ทักษิณ ชินวัตร” ที่ฮ่องกง ช่วงที่เขาตั้งรัฐบาลกัน แล้วบอกว่า พรรคเพื่อไทยคือมิตร
“ประเทศไทยในอนาคตจำเป็นต้องมีพรรคการเมืองแบบเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล เพราะเป็นพันธมิตรที่ทำให้ประเทศนี้ก้าวหน้าที่สุด และกลับมาเป็นประชาธิปไตยได้”
“ธนาธร” เปรียบเหมือนผู้นำทางจิตวิญญาณของพรรคก้าวไกล
การออกมาพูดของ “ธนาธร” ในครั้งนี้ ด้อมส้มระส่ำระสายอย่างหนัก เพราะส่วนใหญ่มองเพื่อไทยเป็นศัตรูทางการเมืองไปแล้ว
สมดุลในพรรคก้าวไกลจึงยังคงมีปัญหา
การผละออกจากพรรคก้าวไกลจึงอยู่ในความคิดของ “ด้อมส้ม” จำนวนหนึ่ง
พรรคก้าวไกลต้องเผชิญทั้งปัญหาการเมือง และการมุ้ง
การวิพากษ์วิจารณ์ “น.ช.ทักษิณ” ที่นอนอยู่ห้องวีไอพี ชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจ อยู่ในระดับต่ำอย่างมีนัยสำคัญ
พรรคก้าวไกลยึดอุดมการณ์คนเท่ากัน แต่ถึงเวลาปฏิบัติ คนก็เหมือนนิ้วทั้ง ๕ จะให้ยาวเท่ากันได้อย่างไร
ที่จริงเรื่องนี้มีมาตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ ที่ไม่เคยวิจารณ์กรณีจำนำข้าวยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์เลย ไม่เคยพูดถึงการคอร์รัปชันในระบอบทักษิณด้วยซ้ำ
แต่พยายามอย่างแสนสาหัสที่จะจับผิดคอร์รัปชันในรัฐบาล “ลุงตู่”
ฉะนั้นสิ่งที่ “ด้อมส้ม” ยังไม่รู้ และคงไม่อยากรู้ นั่นคือ “ธนาธร” กับ “ทักษิณ” มีสัญญาใจตั้งแต่ “ธนาธร” เข้าสู่การเมืองใหม่ๆ
วันนี้ถึงได้หลุดปากว่า ยังเป็นมิตรกัน
อนาคตพรรคก้าวไกลจึงต้องสู้กับความคิดตัวเองอย่างหนัก
เพราะยิ่งยืนในที่สว่างนานเท่าไหร่ ด้านมืดก็ปรากฏให้เห็นต่อเนื่อง
อย่างที่รับทราบกัน ข่าวฉาว ข่าวกาม ลุกลามเพราะมีความพยายามปกป้องคนผิด ก่อนกลับใจลอยแพ เนื่องจากภาพพจน์พรรคเริ่มดำดิ่งลง
นั่นคือความจริงที่เกิดขึ้นกับพรรคก้าวไกล
พรรคที่อวดอ้างว่าตัวเองเหนือกว่าพรรคการเมืองอื่น ทั้งความคิดและการกระทำ
แต่สุดท้ายไม่มีอะไรต่าง
แล้วก็มีเรื่องใหม่โผล่มาตอกย้ำมาตรฐานของพรรคก้าวไกล เป็นศูนย์รวมของความจอมปลอม
เขาแฉกันทางโซเชียล
ไล่เรียงแล้วก็ตามนี้
“เพจวันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร” กำลังเป็นหนามตำอกด้อมส้ม โพสต์ภาพและข้อความ ดังนี้
“…ทุกคนคะ หนูไม่ได้ต่อต้านงานเอนเตอร์เทนหรืองานชงเหล้า เพื่อนหนูก็ทำ แต่มันก็สุ่มเสี่ยงต่อการผิดกฎหมาย และการล่วงละเมิดทางเพศนะคะ
หนูควรตกใจเรื่องไหนก่อนดีคะ พี่เล็ก (ญาณธิชา บัวเผื่อน) แต่งตั้ง สามีพี่ เป็นผู้ช่วย สส.
ผช.สส. (สามี) ถึงเนื้อถึงตัวเด็กเอ็น เกินไปมั้ย หรือ พี่เล็กใจกว้างร้องเพลงไป ผช.สส. ก็นัวเด็กเอ็นไป
ถ้ามี สส.และผู้ช่วย สส. ไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจเทาๆ เหมาะสมหรือคะ…”
เห็นภาพที่เพจนี้เอามาโพสต์แล้วเสียวครับ มันถึงเนื้อถึงตัวเกินปกติธรรมดา
ส่วน พี่เล็ก ญาณธิชา บัวเผื่อน ก็คือ สส.จันทบุรี เขต ๓ พรรคก้าวไกล ตอบโต้ทันควัน
“…ขออนุญาตชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกรอบค่ะ
เรื่องการแต่งตั้งสามี เป็นผู้ช่วย สส.เล็กแต่งตั้งสามี เป็นผู้ช่วย สส. จริงค่ะ” ให้เขาช่วยขับรถไปประชุมสภา ขับรถไปลงพื้นที่ทำงานด้านสื่อ ถ่ายรูป (รูปทุกรูปที่นำมาลงในเพจ เป็นรูปที่เขาถ่าย) ทำกราฟฟิก ทำคลิปต่างๆ ลงในเพจ รวมถึงการประสานงานในพื้นที่ด้วย มีหน้าที่ชัดเจนค่ะ
ดิฉันยืนยันว่าไม่มีเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศและธุรกิจสีเทาอย่างที่เพจพยายามจะโยงแน่นอนค่ะ…”
เรื่องล่วงละเมิดทางเพศ ธุรกิจสีเทา พรรคก้าวไกลคงต้องตรวจสอบเอง
อย่าปล่อยให้ด้อมส้มมีความรู้สึกเทาๆ กับพรรคเพิ่มเติม
ก็อย่างที่เห็นกัน ภาพที่ปรากฏมันดูไม่งาม “พี่เล็ก” จะรู้สึกอย่างไรก็เป็นเรื่องของ “พี่เล็ก” แต่พรรคก้าวไกลจะรู้สึกแบบ “พี่เล็ก” ไม่ได้
เพราะเรื่องนี้ไปสะกิดแผล “สส.แจ้” กับ “สส.ปูอัด” ให้เลือดไหลซิบๆ อีกครั้ง
เรื่องการมุ้งก็ว่าไป เรื่องการเมืองก็สาหัส
ตำแหน่งผู้ช่วย สส. มีหน้าที่อะไร
พรรคก้าวไกลไม่ใช่หรือเที่ยวไปชี้นิ้วด่า สส.พรรคอื่น รวมทั้ง สว.ว่า ตั้งญาติมากินเงินเดือนจากภาษีประชาชน
การแต่งตั้งผู้ช่วย สส. มีปัญหาเรื้อรังมานาน เพราะจากสภาพความเป็นจริงมีการแต่งตั้งเครือญาติของตนเอง
ไม่ว่าจะเป็น ผัวตั้งเมีย เมียตั้งผัว พ่อตั้งลูก พี่ตั้งน้อง เจ้านายตั้งคนขับรถ ฯลฯ
ตั้งกันโดยไม่ได้คำนึงถึงประสิทธิภาพ
ไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องความรู้ ความสามารถ และศักยภาพในการปฏิบัติงาน
มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า เอื้อผลประโยชน์ให้แก่ สส. มากกว่าที่จะเป็นการแต่งตั้งโดยผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อประโยชน์ในการทำงานของ สส. ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ
ผู้ช่วย สส.มีหน้าที่อะไร ซึ่งแน่นอนครับ ไม่ใช่ช่างภาพประจำตัว สส. เพราะการแต่งตั้งผู้ช่วย สส.ต้องคำนึงถึงคุณวุฒิ
เพราะการกำหนดคุณวุฒินี่เอง หน้าที่ของผู้ช่วย สส.จึงต้องล้อไปกับหน้าที่ สส.ที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ
หน้าที่จึงอยู่ในสภาเป็นหลัก
วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการมีผู้ช่วย สส. ก็เพื่อเสริมสร้างการเมืองในระบอบประชาธิปไตย
ในระบบรัฐสภา
สส.ถือเป็นบุคลากรสำคัญในการดำรงเกียรติภูมิของสถาบันรัฐสภา การปฏิบัติหน้าที่ในสถานะ สส. จึงควรมีศักยภาพและสมรรถนะเพียงพอ เพื่อเป็นการส่งเสริมการปฏิบัติงานของ สส.ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม ประเทศชาติ
ไม่ใช่เอามาเป็นช่างภาพประจำตัว
หรือขับรถพาไปประชุมสภา
มันคนละหน้าที่กัน
ประชาชนเป็นผู้จ่ายภาษี ให้นักการเมืองมีเงินเดือนไปใช้จ่าย
มี “ด้อมส้ม” คนไหนออกมาพูดเรื่อง “ภาษีกู” บ้างแล้วหรือยัง
ถ้ายัง ก็อย่าลืมที่เคยแหกปากตะโกน…
“คนเท่ากัน”