โอ้…ชะตา “เศรษฐา” เอ๋ย! – เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

คุยไปวันก่อน ……..
ว่าจาก ๑๒ ธันวา.๖๖-๙ เมษา.๖๗ เป็น ๔ เดือน “เงื่อนตาย” ของรัฐบาลเศรษฐา
ทำไมผมจึงว่า “๔ เดือนเงื่อนตาย”?
เพราะ ๔ เดือนนั้น เป็นช่วงที่รัฐสภาเปิดสมัยประชุม “สามัญนิติบัญญัติ”

หมายถึงอะไร?
หมายถึง “สภาทั้งสอง” คือ ส.ส.และ ส.ว. จะประชุมพิจารณาได้เฉพาะบางเรื่องเท่านั้น

เช่น ร่างกฎหมาย การแต่งตั้ง-ถอดถอนบุคคล เรื่องเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ การตั้งกระทู้ถาม เป็นต้น

ส่วนจะเปิดอภิปราย “ไม่ไว้วางใจ” รัฐบาล ได้หรือไม่?
คำตอบคือ “ไม่ได้”!

นั่นคือ นับจากธันวา.นี้ ถึงเมษา. “พรบ.กู้มาแจก ๕ แสนล้าน” ของเศรษฐา ซึ่งเป็น “ร่างกฎหมายการเงิน” เข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา

รัฐบาลเพื่อไทย “ได้ไปต่อ” หรือ “พอแค่นี้”

ผมจึง “ขีดเส้นใต้ ๒ เส้น” ไว้ภายใน ๔ เดือนนี้
ถ้า “พรบ.กู้มาแจก” ผ่านรัฐสภา รัฐบาลเศรษฐาก็เขยกต่อไปได้ แต่ถ้าไม่ผ่าน
นายกฯ ต้องลาออก รัฐบาลยุบไปโดยปริยาย

และตามมรรยาท เพื่อไทยต้องหลีกทางให้ “พรรคร่วมอันดับ ๒” ฟอร์มรัฐบาลขึ้นใหม่

เว้นแต่เศรษฐ า”ริษยาคติ”
“เมื่อกูอดกิน ก็อย่าให้ใครได้กินเลย” แทนที่จะลาออก ใช้วิธี “คว่ำชามข้าวทิ้ง”
คือ “ยุบสภา” มันไปซะเลย!

แต่ส.ส.เพื่อไทยที่ยัง “หายใจทางเหงือก” อยู่ตอนนี้ คงไม่ยอม ส่วนแนวคิดที่ว่า เพื่อไทยจะไปจับมือก้าวไกลตั้งรัฐบาลอีกครั้งนั้น
“คิดได้” แต่ “เป็นไปไม่ได้” เชื่อหัวไอ้เรืองเถอะ!

ทางที่เป็นไปได้คือ “อันดับ ๒ ในพรรคร่วม” คือภูมิใจไทย ของรองนายกฯ และรัฐมนตรีมหาดไทย “นายอนุทิน ชาญวีรกูล” นั่นแหละ
มีสิทธิ์ชอบธรรมในการ “ฟอร์มรัฐบาล” ต่อจากนายกฯ เศรษฐา!

หน้าเสื่อตาม “เส้นทางรัฐสภา” มันเป็นอย่างนี้

แต่หวยจะออกตามนี้หรือไม่ ก็อย่างที่บอก …….
อยู่ภายใต้เงื่อนไข “๔ เดือนเงื่อนตาย” นั่นแหละ

ไม่เพียง “พรบ.กู้มาแจก” เท่านั้น ที่เป็นกรรมวิบาก ยังมีร่างพรบ.งบประมาณ ปี ๖๗ วาระ ๒-๓ และร่างเกี่ยวกับมาตรา ๑๑๒ ของก้าวไกลอีก

แต่ละเรื่อง “กับระเบิด” ใต้ตูดเศรษฐาทั้งนั้น!

แต่เมื่อวาน (๒๓ พย.๖๖) อ่านโหรสมัครเล่น “ฟองสนาน จามรจันทร์” โพสต์ ผมต้องร้อง ไฮ้…อะไรมันจะขะไหนหนาด เพราะเจ๊ฟองโพสต์ ดังนี้

Fongsanan Chamornchan
ท่านนายกฯ โปรดอย่าเพิ่งตกม้าตาย-เร็วไป
-จุดเปลี่ยนสำคัญ 9 มกรา 67 ก่อน-หลัง 7 วัน

พฤหัสบดีกาลกิณีจร-ทับลัคนา-อาทิตย์ ๑-ตัวแทนผู้นำ-คนมียศศักดิ์ทุกระดับของเมืองเดินหน้า
..เพียงแต่จะเป็นใคร?
ด้วยเมืองต้องฆาฎ ชื่อ-ปัสสะวะชีโว-

…..ท่านว่าชาตาฆาฎ
ต้องอุบาว์ร้ายหนักหนา
ทุกข์โศกโรคบีฑา
ชีพชีวาอาจวอดวาย

หรือไม่บุตรภรรยา
ทรัพย์โภคาจักเสียหาย
พรากพลัดจัดกระจาย
ป่นปี้ร้ายไม่เป็นอันฯลฯ…

จากโหราศาสตร์ปริทรรศน์เล่ม๑
รวบรวมโดย อ.เทพย์ สาริกบุตร
ขอบพระคุณทุกรูป

ผมประเมินไว้ ๔ เดือน แต่โหรฟองสนานฟันขาดสะพายแล่งไว้แค่เดือนเดียว!?

ไม่น่าาาา….ผมชักห่วงนายกฯ เศรษฐาจริงๆ แล้วนะเนี่ย

แต่ถ้าเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองในรัฐสภาหรือตามตัวบทกฎหมายขึ้นมาจริงๆ ก็ต้องบอกว่า
ไม่มีใครทำ หากแต่ “ปากตัวเอง” ที่เรียก “โอษฐภัย” ทำโดยแท้

ล่าสุด เมื่อ ๒๑ พย.ในที่ประชุมสส.เพื่อไทย นายกฯ ก็ไปพูดว่า

“ผู้กำกับใหม่ ซึ่งผมมั่นใจว่า คงมีผู้ผิดหวังมากกว่าผู้สมหวังในห้องนี้ ที่ขอตำแหน่งไป เพราะรู้สึกมันเยอะเหลือเกิน
แต่ก็มีไม่น้อย ที่ได้สมหวัง

แต่ก็เป็นผู้กำกับใหม่ ซึ่งเราจะต้องพูดคุยเรื่องนี้กันให้เข้าใจถึงถ่องแท้ และต้องกำจัดปัญหานี้ออกไป ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งซึ่งเราเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ”

โถ…บัวลอย เจ้าว่ายน้ำไม่เป็น แต่สาวเจ้าก็ยังลงไปเล่นน้ำ จึงจมจุ๊ยอย่างน่าสงสาร!

เขาเรียกว่า “ตายน้ำตื้น” อย่างที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส โพสต์ว่า “คำให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวของท่านเปรียบเสมือนใบเสร็จรับเงิน” นั่นไม่ผิดหรอก

ท่านต้องจำให้ขึ้นใจ เผื่อได้เป็นายกฯ ครั้งต่อๆ ไปว่า
“คำพูดนายกฯ คือกฎหมายกรายๆ”

ดังนั้น ประโยคที่ท่านพูดออกไปสู่สาธารณะเช่นนั้น มันคือหลักฐานมัดตัวท่าน แม้จะแก้ตัวเป็นอื่น ก็แค่ “คำแก้ตัว”
จะใช้หักล้าง “หลักฐานประจักษ์” ไม่ได้หรอก!

ก็ตามที่ “ศรีสุวรรณ จรรยา” ไปร้องป.ป.ช.วันนี้ ด้วยเนื้หาในคำร้อง ประมาณว่า

ถ้อยคำดังกล่าวอาจบ่งบอกถึงพฤติการณ์ในการใช้อำนาจของนายกรัฐมนตรี ในฐานะ “ประธานกรรมการข้าราชการตำรวจ” (ก.ตร.)

ที่สามารถเข้าไปก้าวก่ายหรือแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐในการแต่งตั้งนายตำรวจระดับผู้กำกับ (ผกก.) ได้

เพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่น หรือของพรรคการเมืองไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมได้

อันถือเป็นข้อห้ามตามรัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ มาตรา ๑๘๕ (๓)ประกอบมาตรา ๑๘๖ วรรคสอง เข้าข่าย “ฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง”

เรื่องนี้แหละ จึงได้เห็นฉาก ไอ้ขวัญของเรียม โดดเดี่ยวในกระท่อมร้าง นั่งเหงาๆ มองฟ้า คาบันไดทำเนียบ ยะเยียบก้น เมื่อวาน

เพราะ “ความผิดเกิดขึ้นแล้ว” คำร้องนั้น จึงมีผลทางคดี

ต่างกับเรื่อง “พรบ.กู้มาแจก ๕ แสนล้าน”
ใครอยากร้อง ให้เขาร้องไป มันไม่มีผลอะไรหรอก เพราะเรื่อง ๕ แสนล้าน แค่พูดจา ยังไม่มีการกระทำใดๆ ยังไม่ได้ยื่นเข้าที่ประชุมสภาด้วยซ้ำ

เมื่อยังไม่ได้กู้ ก็หมายความว่า “ความผิดยังไม่เกิด” ไปยื่นศาลไหนๆ แม้กระทั่งกับศาลพระพรหม ท่านก็ไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย

ฉะนั้น “สบายใจ-หายห่วง” ตราบใด ยังไม่ได้กู้ ตราบนั้น ความผิดยังไม่เกิด เรื่องติดคุกไม่มี “ล้านเปอร์เซ็นต์”

แต่ถ้าออก “พรก.กู้” แล้ว จากนั้น ค่อยนำพรก.เข้าสภาทีหลัง แบบนี้ “ขาข้างหนึ่ง” ของเศรษฐา เข้าไปอยู่ในตะรางแล้ว เพราะ “ความผิด” เกิดขึ้นแล้ว!

เพื่อไทยยังมีแววฉลาดนะ ที่เลี่ยงไปออกพรบ. “ยืมตีนรัฐสภา” เตะลูกออกนอกสนาม

ทั้งไม่ต้องเสี่ยงคุก ทั้งไปอ้างชาวบ้านได้ว่า เพื่อไทยต้องการแจก แต่รัฐสภาไม่ยอมผ่านกฎหมายให้ จึงแจกไม่ได้ ถ้าอยากให้แจก ครั้งหน้า ต้องเลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์นะ”

ครั้งนี้ พูดได้-ทำไม่เป็น ยอมให้รัฐสภา “คว่ำรัฐบาล” ไปยังพอลุกได้

ดีกว่าทำแล้ว “ผิดกฎหมาย” นั่นคุก ถ้าจะรอดคุก ก็มีทางเดียว คือ “ช่องหมาลอด” เหมือนยิ่งลักษณ์!

ทฤษฎีทาง “รัฐศาสตร์-นิติศาสตร์” กรอบรัฐสภา มันเป็น ๔ เดือนในสมัยประชุมอย่างนี้

แต่กรอบโหราศาสตร์ของแม่หมอฟองสนาน “บีบกระชับให้แค่ ๑ เดือน” และยิ่งดูตามโศลก “ปัสสะวะชีโว” ด้วยแล้ว

เพี้ยงงงง…ขออย่าเป็น “นายกฯเศรษฐา” เลย สงสารท่าน ตอนนี้ ดูเหมือนท่านจะ “เมาหมัด” ตัวเอง จนมืดตื้อ สะดือจุ่นไปแล้ว

ดังนั้น “ผู้นำคนมียศศักดิ์” ตามรหัสดาว ยกประโยชน์ให้ “เทวดา” ตนนั้น ที่ประทับทรงองค์เศรษฐาไปก็แล้วกัน!

ย้อนหลังไปดูตั้งแต่สิงหา.
“นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์” ยื่นเรื่องต่อสรรพากรให้ตรวจสอบภาษีเศรษฐาในประเด็น “ทำนิติกรรมอำพราง” บ้าง

ให้คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตรวจสอบธรรมาภิบาล “บมจ.แสนสิริ” บ้าง

แล้วเดือนตุลา.
“พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” ยื่นป.ป.ช.ให้สอบนายกฯ เศรษฐาในฐานะ “ประธานก.ตร.” และอีก ๙ คน
ประเด็น แต่งตั้งผบ.ตร. “ข้ามอาวุโส”

ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา ๒๕๘ ง.(๔)อ้างอิงตามมาตรา ๗๗ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติปี ๒๕๖๕

ว่าผู้ที่ถูกเสนอชื่อ ควรเป็น พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ ในฐานะรอง ผบ.ตร.อาวุโสลำดับที่ ๑ และไล่เรียงลำดับลงไป จนถึง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ที่อยู่อาวุโสลำดับที่ ๔

แต่กลับเสนอชื่ออาวุโส อันดับ๔ คนเดียว เป็นผบ.ตร.

แล้วมาเดือนพย.
ถูกพี่ศรี ยื่นป.ป.ช.สอบ “ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง” ก้าวก่าย-แทรกแซง การแต่งตั้ง-โยกย้ายตำรวจ เข้าไปอีก

เฮ้อ…โชคชะตา เศรษฐาเอ๋ย ไม่น่าเลย เกยตื้นไวปานนี้ เสด็จพี่ก็ช่วยไม่ได้!

สรุป……..
เศรษฐาจะจบ เดือนมกรา.๖๗ หรือ ก่อนพฤษภา.๖๗

ส่งคำตอบ “หนีบแบงก์พัน” ส่งมาได้เลยครับ!

เปลว สีเงิน
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๖

Written By
More from plew
“การเมือง” ที่ไม่มี “วันพระ”
วันนี้ แรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ เป็นวันเข้าพรรษา เมื่อพูดถึงคำว่า “เข้าพรรษา” สิ่งแรกที่คนไทยแทบทุกคนนึกถึง คือ คำว่า...
Read More
0 replies on “โอ้…ชะตา “เศรษฐา” เอ๋ย! – เปลว สีเงิน”