เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2566 ที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กรุงเทพฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ขึ้นกล่าวบรรยาย หลักสูตร วิทยาการการจัดการสำหรับนักบริหารระดับสูง (วบส.) คณะรัฐประศาสนศาสตร์ ใจความตอนหนึ่งว่า
ประเทศไทย มีหลายโครงการ ที่เรามองกันไปที่อนาคต ยกตัวอย่างเรื่องแลนด์บริดจ์ ก่อนหน้านี้ มีคนมองว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันจะล้มเลิก เพราะเป็นโครงการจากรัฐบาลก่อน ถ้าสานต่อจะเสียหน้า ซึ่งในความเป็นจริง รัฐบาลชุดปัจจุบัน สนับสนุนโครงการนี้ และส่วนตัว ขอย้ำว่า ต้องรีบทำ รอช้าไม่ได้
แลนด์บริดจ์ เป็นโครงการที่ง่ายกว่าที่เราเคยคิดเรื่องขุดคลอง แยกแผ่นดิน เพราะที่เราจะทำ คือการสร้างเส้นทางเชื่อมต่อ 2 ฝั่งทะเล แผ่นดินยังติดกันเหมือนเดิม สิ่งที่เราพยายามจะทำคือ สร้างท่าเรือ สร้างระบบขนส่ง 2 ฝั่ง ทั้งมอเตอร์เวย์ รถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง กว่าจะคิดมาถึงโครงการนี้ เรามีการศึกษามามากแล้ว นี่คือโครงการที่จะเกิดประโยชน์กับประเทศไทยทุกมิติ
เมื่อก่อนบอกว่าขุดคลอง จะกระทบกับความมั่นคง แล้วอันนี้ ไม่ต้องขุด แต่เราจะสร้างพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ ความเจริญไม่ได้อยู่แค่ชุมพร ระนอง แต่ต้องเจริญทั้งประเทศ เป็นความเจริญที่เราไม่ต้องไปยืมจมูกคนอื่นหายใจด้วย เพราะสร้างขึ้นในไทย แล้วโลกทุกวันนี้ ทุกชาติแสวงหาโอกาส เมื่อเห็นว่าไทย มีโอกาส นานาชาติ จะเข้าหา
“ผมเป็นคนหนึ่งที่ผลักดันไว้ตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว และวันนี้ ผมยังยึดมั่นคำเดิม กับแลนด์บริดจ์ นี่คือเครื่องมือในการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจของไทย ที่ต้องเกิดขึ้น พื้นที่ เป้าหมาย ได้รับการคัดเลือกมาอย่างดี ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยว มีความเหมาะสม ทำตรงนี้ ให้เป็นเขตเศรษฐกิจไปเลย เมื่อทุกอย่างลุล่วง โครงการนี้ จะสร้างงานมหาศาล จะสร้างโอกาสให้ประเทศไทย อย่างมากมาย และจะเป็นโครงการที่ทำให้ไทย มีความโดดเด่นในอาเซียน ผมมั่นใจว่า 10 ปี จากนี้ อาเซียน จะเป็นตลาดอันดับต้นๆ ของโลก นี่เป็นพื้นที่ ที่ไม่มีความขัดแย้ง และทุกประเทศ มีศักยภาพในการเติบโตต่อไปได้ ”