สันต์ สะตอแมน
ไม่ได้ประโยชน์กับประชาชน?
“ยุคนี้เขาขู่กันแบบนี้เหรอคะ?”
ใครตอบคำถาม “ตะวัน” ตัวตึงกลุ่มทะลุวังได้ก็ช่วยตอบเธอ ส่วนผมเห็นจะโนคอมเมนท์ เพราะเรื่องขู่พรรค์อย่างนี้มีมาทุกยุคสมัย..
บางยุค ขู่ด้วยเสียงปืน เสียงระเบิด และเลยเถิดถึงขั้น “อุ้มหาย”ไปก็มี!
ก็..นี่ไงที่คนเขาหวั่นวิตกกังวล แล้วที่สุดมันก็เกิดขึ้นจริงๆจนได้ เพราะเมื่อความอดทน อดกลั้นมันมีขีดจำกัด และเมื่อความคับแค้นใจมันถึงที่สุด..
การตอบโต้เพื่อระบายความอัดอั้นจึงมีหลากหลายวิธีขึ้นอยู่กับแต่ละคนจะเลือกใช้!
อย่างบุคคลที่สวมเสื้อแขนยาว ปกปิดใบหน้า สวมหมวกกันน็อก สวมถุงมือ ปีนรั้วเข้าไปในบ้านของ “ตะวัน” และทุ่มก้อนหินขนาดใหญ่ใส่กระจกหน้ารถเธอนั้น..
นับเป็นอีกวิธีระบายความคับแค้น ซึ่งก็ยังดีที่ไปลงเอากับรถ ไม่ไปลงเอากับคนคือ “ตะวัน” ไม่งั้นจะกลายเป็นความเศร้าสลดสะเทือนใจ!
แต่..ไม่ว่าจะด้วยวิธีหนัก-เบาอย่างไร การข่มขู่-คุกคามก็ไม่ควรจะเกิดขึ้นกับใคร ไม่ว่าจะม็อบ จะกลุ่มทะลุวัง จะพรรคการเมือง-สส. หรือจะสมาชิกวุฒิสภา!
ผมไม่ได้หวังและไม่ได้จะขอร้อง แต่หากตะวันจะได้เก็บเอาเหตุการณ์นี้ที่เกิดกับตัวเองไปนั่งคิด-นั่งทบทวนถึงพฤติกรรมที่ผ่านมา ก็อาจจะไม่ต้องสงสัย..
เพราะตะวันเองก็ใช่ย่อยเสียที่ไหน เที่ยวข่มขู่ คุกคาม หยาบคายไปทั่ว ซึ่งบางทีก็ดูจะรุนแรงไม่น้อยไปกว่าทุ่มก้อนหินใส่กระจกหน้ารถเสียอีก..ว่ามั้ย?
ครับ..ร้อยพ่อพันแม่ก็อย่างนี้แหละ ผมกำลังพูดถึงพรรคก้าวไกลที่นอกจากแย่งอำนาจมาครอบครองไม่ได้ อดเป็นรัฐบาลประชาธิปตายแล้ว..
สส.-คนในพรรคก็ดูเหมือนจะมีข่าวในทางลบให้ได้เห็น-ได้ยินอยู่บ่อยครั้ง!
ล่าสุดก็นายจรยุทธ จตุรพรประสิทธิ์ สส.ยานนาวา-บางคอแหลม กทม. ก็มีเหตุวิวาทในร้านอาหาร และเจ้าตัวก็ได้ยอมรับว่าการกระทำของตัวเองนั้นไม่ถูกต้อง
ไม่ควรที่จะตอบโต้กลับไป ไม่ควรใช้ความรุนแรง พร้อมยอมรับผิด ขอโทษ-ขอโพยพี่น้องประชาชนที่ไว้วางใจและเลือกเขาเข้าไปเป็นผู้แทนราษฎร
แต่..บรรทัดหนึ่งที่เขียนว่า.. “ผมขอชี้แจงครั้งเดียวในโพสต์นี้และจะไม่ขอให้สัมภาษณ์เพื่อขยายความอีกครับ เรื่องนี้ไม่ได้มีประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน
ขอให้พี่น้องสื่อมวลชนเข้าใจจุดประสงค์ของผมและนำเสนองานของผมที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนในอนาคต” นั้น
มันจะไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยไหม? สื่อน่ะเขาทำหน้าที่นำเสนอข่าว ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ ไม่ได้ทำข่าวเพื่อนำเสนอผลงานของใครผู้ใดเป็นพิเศษ
และข่าววิวาทของสส.ในร้านอาหารจะว่าไม่ได้มีประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนก็ไม่น่าจะใช่เสียทีเดียว อย่างน้อยประโยชน์ที่ประชาชนได้..
คือ..ได้รู้อุปนิสัยใจคอของ “ผู้แทน” ของเขา เพื่อการพิจารณา-ตัดสินใจในการเลือกตั้งครั้งต่อไป!
ซึ่งที่ผ่านมา อาจเลือกด้วยศรัทธาต่อพรรค เหมือนกับที่คนภาคใต้เคยเลือกประชาธิปัตย์ ถึงขนาดสส.ในพรรคบางคนเหิม-ลำพอง..พรรคส่งเสาไฟฟ้าประชาชนก็เลือกนั่นแหละ!
ประโยชน์ต่อมาจากการที่สื่อนำเสนอข่าว จึงทำให้ประชาชนได้รู้ว่าสถานบันเทิงดังกล่าวเปิดเกินเวลา และชาวบ้านได้ร้องเรียนมานานแล้ว
คราวนี้..กทม.เห็นจะทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ไม่ได้อีกต่อไป เพราะคุณวิพุธ ศรีวะอุไร ส.ก.เขตบางรัก ได้ตามจี้ยิกๆ..
ต้องปิดตามเวลากฎหมายกำหนด!