“น้ำตาเมียหลวง” ในงานหมั้น – เปลว สีเงิน

คลิกฟังบทความ..⬇️

เปลว สีเงิน

“เพื่อไทย+ก้าวไกล” ๘ พรรคแรก ๓๑๒ เสียง เสนอพิธาเป็นนายกฯ
ล่มปากอ่าวไป!
“เพื่อไทย+ภูมิใจไทย” ๘ พรรครอบสอง มี ๒๒๘ เสียง ส่งเศรษฐา “เสี่ยงสูง” โทนี่กำลังเดินแผน “ขงเบ้งยืมเกาทัณฑ์โจโฉ”

ทางหนึ่ง ให้ชลน่าน เปิดตัว “พรรคเล็ก” ร่วมแจม

ขณะเดียวกัน ในอีกทางหนึ่ง ส่งอุ๊งอิ๊งไปแปรศาสตราเป็นแพรพรรณกับพิธาที่พรรคก้าวไกล นัยว่า “ขอเสียง”

ส่วนจะกระซิบอะไรใส่หูพิธาตามที่พ่อฝากมาบอก…ไม่รู้

รู้แต่ว่า ก้าวไกล จากบึ้ง เป็นบาน กันทั้งพรรค!

สรุป การเมืองเรื่องจัดตั้งรัฐบาล ณ วันที่ ๙ สิงหา.มาถึงตรงนี้

แล้วจะยังไงกันต่อ ๘ พรรค “เพื่อไทย-ภูมิใจไทย” แค่ ๒๑๒ เสียง ยังห่าง “รัฐบาลเสียงข้างมาก” คือ ๒๕๑ เสียงขึ้นไป อยู่ตั้ง ๓๙ เสียง

และเมื่อวาน เพื่อไทย ก็เปิดตัวพรรคร่วม อีก ๖ พรรค ประกอบด้วย ประชาชาติ ๙ เสียง ชาติพัฒนากล้า-เพื่อไทยรวมพลัง พรรคละ ๒ เสียง

เสรีรวมไทย-พลังสังคมใหม่-ท้องที่ไทย พรรคละ ๑ เสียง รวม ๘ พรรค ๒๒๘ เสียง
ก็ยังขาดอีก ๒๓ เสียง ที่จะถึง ๒๕๑!

เห็นว่าวันนี้ จะเปิดตัวพรรคที่ ๙ “พรรคชาติไทยพัฒนา” ซึ่งมี ๑๐ เสียง

นั่นก็ยังต้องหาอีก ๑๓ เสียง จึงจะเป็น “เสียงข้างมาก” ที่มี ๒๕๑ เสียงขึ้นไป

ทำไมเพื่อไทยแทนที่จะเอาพลังประชารัฐซึ่งมี ๔๐ เสียงมาอีกพรรคเดียวก็เสียงเกินครึ่งแล้ว โดยไม่ต้องไปกวาดต้อนพรรคเล็กๆ มาแจม?

นี่คือประเด็น “น่าคิด” แต่เพื่อไทย(ยัง)ไม่ทำ?
กลับทำว่า “จริงใจ” แต่ล้นเกิน จนออกไปทางแสร้งทำ

ประกาศ “ขอขมา” ก้าวไกล….
กับการที่ต้องจำใจ “ถอนหมั้น” แล้วจำใจไป “หมั้น” ภูมิใจไทยแทน!

ที่อุ๊งอิ๊งไปงอนง้อในห้องหอกับพิธาที่ก้าวไกล ไม่มี “คนนอก” ทราบบทเจรจา

แต่ได้ยินเจี๊ยบ “อมรัตน์” ชบาบานประจำพรรคบอกสื่อแบบเหน็บแนมแกมประชดว่า
“ผัวไปมีเมียน้อย ยังต้องไปตามปูที่นอนให้ด้วยเหรอ”?

อืมมมม เห็นภาพเลย
“น้ำตาเมียหลวง” ท่วมทรวงใน ใครไม่ช้ำ แต่เจี๊ยบช้ำ!

ทำไป-ทำมา ดูๆ ไป เรื่องเพื่อไทยตั้งรัฐบาล ผมชักห่วงว่า มันจะออกแนว “๓ คนผัวเมีย”

ลึกสุดหัวใจของเพื่อไทย….
“ร้อยชู้ หรือจะสู้ ๑ ก้าวไกล” เพราะ “ศีลเสมอกัน”!

มันมีความเป็นไปได้ เพื่อไทยหย่าก้าวไกล จะเหมือนผัวเมียบางคู่ “หย่าทางกฎหมาย”

แต่ในทางเป็นจริง….ทิ้งกู มึงตาย!

ฉะนั้น ภูมิใจไทย “เมียใหม่” ก็อย่าเพิ่งตายใจว่า เพื่อไทยจะรักจริงใจ อาศัยนำภูมิใจไทยเข้าฉากแต่ง “ตบตา สว.” โหวตให้ ก็เป็นได้

เสร็จสมตามแผน นั่งแท่นนายกฯแล้ว
ก็ย้อนไปเอา “ก้าวไกล-เมียหลวง” นั่งวอหาม กลับมาร่วมหอ เป็น “ครม.๓ คนผัวเมีย”

นั่น ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ซะเลย!
เพราะสีที่ใกล้แดงมากที่สุดคือสีส้ม จะเห็นว่าสองสีนี้ เป็นมวลชนคนกลุ่มเดียวกัน ทั้งในถนน-ในสภา-ในคูหาเลือกตั้ง

เพียงแต่ “แบ่งกันใช้”
ตามเงื่อนไขและสถานการณ์ ที่ยักเยื้องต่างกันไปบ้างใน “บางจังหวะ”

หมู่นี้ ว่าที่นายกฯ “เศรษฐา” หายหน้า-หายตาไปนะ
คนที่ไปงอนง้อขอรักคืนจากก้าวไกลเมื่อวาน….

แทนที่จะเป็นเศรษฐา ในฐานะคนที่ต้องถูกเสนอโหวตเป็นนายกฯ ไปขอเสียงสนับสนุน

แต่กลับเป็น “อุ๊งอิ๊ง” ที่รอบนี้ขอบาย ต้องโชว์บทบาทเดินจากอีกพรรคไปอีกพรรคแทนให้ปรากฎเป็นข่าว

ต้องการสื่ออะไรหรือ?
สื่อว่า คุณพ่อเปลี่ยนใจ ส่งอุ๊งอิ๊งเป็นนายกฯ แทนเศรษฐา เพื่อไม่พลาดให้เสียหน้า และเพื่อความมั่นใจ

ถึงสว.ไม่โหวตให้…..
แต่ถ้าก้าวไกลพรรคเดียวเทผสมให้ ก็ยักไหล่-เบะปากใส่ สว.ได้เลย เพราะเสียงท่วมท้น ล้นเกิน ๓๗๕ น่าถึง ๔๐๐ ด้วยซ้ำ!

เรื่องปูนบำเหน็จในความดี-ความชอบค่อยไปว่ากัน
“ปรับครม.” เอาก้าวไกลมาร่วม

บีบภูมิใจไทยกรายๆ ให้เกิดความรู้สึกว่า “คับที่อยูได้ แต่คับใจอยู่ยาก”
แล้ว “เมียน้อย” ก็ต้องหอบเสื้อ-หอบผ้า “นองน้ำตา” จากไป

อย่าลืมว่า ทักษิณเป็นคนแค้นฝังหุ่น จากเหตุการณ์อดีตกับเนวิน
“ร้อยปีไม่มีวันสาย ในการล้างแค้น”!

หรืออีกทาง อุ๊งอิ๊งไม่ลง แต่เพื่อชัวร์ ก็ยังต้องพึ่งเสียงก้าวไกล ครั้นจะให้เศรษฐาหรือ “หลี่กงกงในห้องแอร์” ไปเจรจาเอง นั่น “น้ำหนัก” ยังไม่ถึง ที่ก้าวไกลจะเกรง

“อุ๊งอิ๊งมาเหมือนพ่อมาเอง”
เพราะนัยนั้น อุ๊งอิ๊งจึงต้องเป็นนางพญากรีดกรายเฉิดฉายไปเอง จนพิธาต้องเอ่ยปากในบทพระเอก

“ขอแค่รับฟังกันอย่างเข้าใจ และมีวุฒิภาวะ”!

ดูมันช่างย้อนยอกยิ่งว่ายอกย้อนนะ เพราะทุกอย่างเป็นไปแบบ “จริงใจแต่มือไพล่หลังถือมีด” ไว้ใจอะไรยังไม่ได้ทั้งนั้น

ก็ดูซี….
ขนาดประกาศ ๘ พรรคใหม่ร่วมตั้งรัฐบาล เสียงก็ยังไม่ครบ ตัวนายกฯ ก็ยังไม่รู้ว่าใคร?

แล้วมันจะไว้ใจกันได้ยังไงกัน เพราะ ๒ รอบ ๓ รอบในการรวมเสียงที่ผ่านมา ทำให้เกิดความรู้สึกว่า
ในตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยของ “ชลน่าน”

“การแถลง-การตกลง” แต่ละครั้ง เป็นการเล่นตามบทที่เขากำหนดให้ ในการออกมา “แสดงหน้าฉาก” เท่านั้น

ส่วนของจริงที่ใช่และเชื่อได้ว่าเป็นบัญชานายใหญ่ อยู่ที่อุ๊งอิ๊งคนเดียว!?

ทำไม เพื่อไทย เชิญพรรคร้อยแปด แต่ไม่เชิญพรรค ๒ ลุง “พลังประชารัฐ” กับ “รวมไทยสร้างชาติ” มาร่วม ซึ่งทำให้ชัวร์ว่า ผ่านด่านสว.ได้ ๙๙.๙๙%?

ตกลง จะเชิญหรือไม่เชิญ?

อยากรู้ อ่านบทที่เขาเขียนเป็น “แถลงการณ์” ให้หัวหน้าชลน่านอ่าน ในการเปิดตัว ๖ พรรค เมื่อวาน
ก็จะรู้ทันที ดังนี้………

“การที่จะแก้วิกฤตครั้งนี้ได้ ต้องสลายขั้วการเมือง ดึงความร่วมมือจากทุกพรรค ทุกฝ่าย ทุกกลุ่ม ทุกคน

เพื่อร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทย และนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำ

เพื่อนำรัฐธรรมนูญออกจากวิกฤต

เพื่อนำประชาชนให้พ้นทุกข์ เพื่อสร้างความสามัคคี สมานฉันท์ โดยถือเป็นวาระประเทศที่สำคัญอย่างสูงสุด”

จะเห็น “พจนานุกรม ฉบับเพื่อไทย” บรรจุศัพท์ใหม่

-สลายขั้วการเมือง
-ดึงความร่วมมือจาก ทุกพรรค ทุกฝ่าย ทุกกลุ่ม ทุกคน

-เพื่อสร้างความสามัคคีสมานฉันท์ และ
-เป็น “วาระประเทศ” ที่สำคัญอย่างสูงสุด

ศัพท์ที่เพื่อไทยบัญญัติใช้ครั้งนี้ นับว่า “แปลก-ใหม่” อันไม่เคยปรากฎมาก่อนในรอบ ๒ ทศวรรษ นับแต่ทักษิณนิราศไทยไปเมื่อ ๑๙ กันยา.๔๙!

การจัดตั้งรัฐบาลของเพื่อไทยครั้งนี้ เขาแถลงเป็น “วาระประเทศ”

ถึงเลี่ยงใช้คำ “วาระแห่งชาติ” หรือ “รัฐบาลสมานฉันท์” แต่จาก ๔ หัวข้อ “ศัพท์ใหม่” ตามที่ผมยกมาให้เห็นนั้น
รูปธรรมมันบ่งบอกเช่นนั้น…ชัด!

หมดสงสัยไปเปลาะละกระมัง ว่าจะมีพลังประชารัฐเป็นอย่างน้อยมาร่วมด้วยหรือไม่

แต่ในความเห็นผมนะ ถ้าเกิดรัฐบาลสมานฉันท์จริง ผมขออนุโมทนา คนไทยจะได้เลิกแบ่งข้าง-แยกสีตีกันซะที บ้านเมืองจะได้ไปโลด

แต่ “สมานฉันท์” ครั้งนี้ มองลึกลงไปอีกที เพื่อไทยหวังใช้สมานฉันท์สร้างแนวร่วม “เขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่” เป็นเป้าหมายหลักของเขามากกว่า

ของเขา คือ “ของใคร”?
ก็ของ “เพื่อไทยกับก้าวไกล” ที่มุ่งมั่น เปิดประตูบานที่ ๒ บานที่ ๓
ปฎิรูปคือการปฎิวัติ “ขุดราก-ถอนโคน”!

เปลว สีเงิน
๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๖

Written By
More from plew
“พระผู้เพียรเพื่อพสกสุข” -เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน วันนี้… “วันเฉลิมพระชนมพรรษา” ๖๙ พรรษา “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” รัชกาล ที่ ๑๐ ซึ่งตรงกับวันที่ ๒๘...
Read More
0 replies on ““น้ำตาเมียหลวง” ในงานหมั้น – เปลว สีเงิน”