ผักกาดหอม
หวาดเสียว…
สงสัยจะมีพรรคการเมืองถูกยุบอีก
บางทีนักวิชาการก็ซื่อเกินไป จนตามการเมืองไม่ทัน
อยู่กับตำรามากไป จนคิดว่านั่นคือโลกทั้งใบ อะไรที่ผิดไปจากตำราเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ เพราะหลักการที่ถูกต้อง ต้องยึดตามตำราเท่านั้น
เรื่องมันเป็นอย่างนี้ครับ…
ข่าว “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ไปพบ “ทักษิณ ชินวัตร” เจรจาดีลลับ เห็นว่าเป็น ซูเปอร์ดีล แต่แกนนำพรรคก้าวไกล พากันปฏิเสธพัลวัน ไม่จริ๊งไม่จริง ไม่มีการคุย
บ้างก็ว่า “ธนาธร” อยู่เมืองไทย ไม่ได้ไปฮ่องกง
ความโดยรวมคือ ไม่มีดีลอะไรทั้งนั้น เพราะก้าวไกลมอบให้เพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลไปแล้ว
แต่…อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รศ.สมชาย ปรีชาศิลปกุล “ด้อมส้ม” พันธุ์พื้นเมืองแท้ๆ โกรธควันออกหูหลังจากเห็นข่าวนี้
ไปโพสต์ในโซเชียลตั้งหัวข้อเขย่าขวัญพรรคก้าวไกลอย่างแรง
“ธนาธร ต้องตอบคำถามกรณีซูเปอร์ดีล”
มีเนื้อหาดังนี้ครับ..
“…ในฐานะที่เป็น ‘โหวตเตอร์’ คนหนึ่ง กรณีเกิดคำถามว่าคุณธนาธร ไปร่วมเจรจาซูเปอร์ดีลหรือไม่ เป็นคำถามที่ต้องให้คำตอบอย่างชัดเจน
เพราะการนิ่งเงียบหรือหลบหลีกไม่ตอบคำถามนี้จะสั่นคลอนต่อความเชื่อมั่นในแนวทางของพรรค/นักการเมือง ที่ผู้คนคิดว่าจะแตกต่างจากพรรคการเมืองดั้งเดิม
ในฐานะพลเมือง ผมคาดหวังจะเห็นการทำงานการเมืองที่ตรงไปตรงมา
ไม่ใช่การ ‘เล่นการเมือง’ ที่ใช้การเจรจาแบบลับๆ นอกจากสายตาของสาธารณะ
หากพรรคก้าวไกลจะไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล, คุณพิธา ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี, ข้อเสนอ ๑๑๒ ต้องตกไป ฯลฯ ก็ต้องทำให้เห็นว่าเป็นผลมาจากพลังอำนาจของฝ่ายอนุรักษนิยม และรัฐธรรมนูญที่วิปริต
หากจะมีดีลลับระหว่างพรรคการเมืองอื่นๆ นั่นก็เป็นแนวทางที่ไม่ควรต้องเข้าไปแปดเปื้อนด้วย
ถ้าไม่ได้ไป ก็ต้องปฏิเสธให้ชัดเจนเพื่อให้ผู้คนมั่นใจว่าแนวทางการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยยังคงเดินไปอย่างโปร่งใส
ถ้าไปจริง ก็ต้องอธิบายว่าอะไรคือเหตุผล อะไรคือเป้าหมายของการเจรจา แน่นอนถ้าเห็นว่าเป็นจังหวะก้าวที่ผิดพลาดก็ควรต้องยอมรับและเป็นบทเรียนต่อไปในภายภาคหน้า…”
ว่าไปก็อดขำไม่ได้
ขืน “ธนาธร” ตอบว่า ไปมาจริง ก็ฉิบหายซิครับ
ถามออกสื่อแบบนี้ ไม่เป็นผลดีกับพรรคก้าวไกล ทั้งขึ้นทั้งล่อง
เพราะขนาด “ด้อมส้มพันธุ์แท้” ยังสงสัยว่าน่าจะไปจริงๆ
ไม่งั้นจะถามอะไรยืดยาวแบบนี้หรือครับ
แถมคำถามมันชวนให้สงสัยว่าไปจริงๆ เสียด้วยสิครับ
แต่…ถึงไปจริง “ธนาธร” คงไม่ตอบหรอกครับ เพราะถ้าบอกความจริง พรรคก้าวไกลถูกนักร้องเบอร์ ๑ ถึง ๑๐ เข้าแถวหน้ากระดานเรียงหนึ่ง ร้องยุบพรรคก้าวไกลแน่นอน
“ด้อมส้มสมชาย” เป็นอาจารย์คณะนิติศาสตร์ แต่ไม่รู้ว่าอ่าน พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๖๐ ก่อนโพสต์ข้อความในโซเชียลหรือเปล่า
ถ้าอ่านก่อนโพสต์ คงจะโกรธพรรคก้าวไกลแบบจริงจังมาก แหลกคามือก็ยอมหากพรรคก้าวไกลทำผิดกฎหมาย
กฎหมายพรรคการเมืองกำหนดไว้อย่างนี้ครับ….
มาตรา ๒๘ ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทําการใดอันทําให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกกระทําการอันเป็นการควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํา กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทําให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม
มาตรา ๒๙ ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิใช่สมาชิกกระทําการใดอันเป็นการควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํากิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทําให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม
โทษไม่เบานะครับ
มาตรา ๒๘ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญพบหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองกระทําผิดจริง ศาลรัฐธรรมนูญสามารถสั่งยุบพรรคการเมือง และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้นได้ถึง ๑๐ ปี
ส่วนมาตรา ๒๙ คนนอกที่เข้ามาทำการครอบงำพรรค มีโทษถึงจำคุกเป็นเวลา ๕-๑๐ ปี ปรับตั้งแต่ ๑-๒ แสน บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
รวมถึงให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งผู้นั้นอีกด้วย
สรุปคือโดนทั้งพรรคก้าวไกลและ “ธนาธร”
พรรคเพื่อไทยก็เช่นกัน “ทักษิณ” เป็นคนเปิดและปิดซูเปอร์ดีลตั้งรัฐบาล ก็ต้องรอว่าทีมนักร้องจะว่าไง มีหลักฐานส่งศาลหรือเปล่า
ถ้าถูกยุบไปพร้อมๆ กับก้าวไกล “ด้อมส้ม-เสื้อแดง” คงจะช็อกทำอะไรไม่ถูกไปหลายวัน
มีอีกโพสต์น่าสนใจ แต่มาจากอีกขั้ว
“เนเน่” รัดเกล้า สุวรรณคีรี อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรครวมไทยสร้างชาติ ลูกสาว ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี โพสต์เฟซบุ๊ก ตั้งหัวข้อ “ก้าวไกล… ฉันสงสัยในตัวคุณ I question YOU”
เนื้อหาถือว่าเป็นการตั้งคำถามแทนหลายๆ คนได้เลย มาดูบางช่วงบางตอนกันครับ
…คณะก้าวหน้าเดินสายทำกิจกรรมในรั้วมหา’ลัย เผยแพร่ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ ที่ถูกตั้งข้อสงสัยถึงความถูกต้องของข้อมูล ชักชวนเยาวชนต่อสู้เพื่อสิทธิ เสรีภาพ (แต่พูดถึงภราดรภาพบ้างรึเปล่าน้าาา) การแยกตัวของรัฐปาตานี และอีกหลากหลายหัวข้อที่สร้างความโกรธ เกลียด ในสังคมไทย และที่สำคัญคือทำให้คนส่วนหนึ่งมีความรู้สึกไม่ดีต่อสถาบัน… นี่พูดแค่เรื่องเติมฟืนใส่ไฟให้เยาวชนนะคะ… ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องเติมเงินเข้ากระเป๋านะ… ตอนนี้เรื่อง ตั๋วปารีส ที่มีคนบางกลุ่มตั้งข้อสังเกตและชี้ให้เห็นว่าคุณมี “เงินทุนจากต่างชาติ” มาเป็นน้ำหล่อเลี้ยงอยู่ หากเป็นจริง แสดงว่าประเทศไทยเรามีมหาอำนาจต่างชาติเข้ามาแทรกแซงจริงๆ สินะ… เอ… คนในที่เปิดประตูให้คนนอกเข้ามาเผาบ้านตัวเองนี่ เขาเรียกว่าอะไรน้าาาาา … ยังไงก็รอดูหลักฐานกันต่อไปนะคะ ว่าจริงแท้แน่เท็จขนาดไหน ความจริงมีหนึ่งเดียว รอดูกันไปๆ….
…การกระทำย้อนหลังไป ๒๐ ปีของพวกคุณ ของกลุ่มที่สังคมสงสัยถึงความเชื่อมโยงกับพวกคุณ สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน ของคณะก้าวหน้า หรือแม้แต่ของคนในพรรคก้าวไกล และรายละเอียดในนโยบายของคุณเอง…. ทุกสิ่งมัน ย้อนแย้งโดยสิ้นเชิง การกระทำของคุณทำให้เรา “สงสัย” เชื่อไม่ลงจริงๆ ว่าคุณมีความบริสุทธิ์ใจ อยากทำเพื่อ “ยกระดับมาตรฐานให้สถาบันกษัตริย์” จริงๆ พวกเราจำต้องยืนกรานพูดว่า “ไม่ใช่แค่เรื่อง ม.๑๑๒ แต่ด้วยแนวทางและอุดมการณ์ที่แตกต่างกัน เราไม่สามารถทำงานร่วมกับพรรคก้าวไกลได้…
ตัวตนของพรรคก้าวไกล และคณะก้าวหน้า ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ครับ กว่าจะถึงเลือกตั้งครั้งถัดไปน่าจะชัดกว่านี้อีกมาก
ชายไทยวัย ๒๐-๒๖ ปีจงรับทราบไว้ นโยบายเลิกเกณฑ์ทหารเขาแค่อยากได้คะแนนเสียง แต่เวลาจะเข้าสู่อำนาจ เขาไม่สนใจหรอกครับ
นี่ยังไม่นับคนที่เลือกก้าวไกลเพราะอยากได้ค่าแรงขั้นต่ำวันละ ๔๕๐ บาท เงินคนแก่เดือนละ ๓ พันบาท นโยบายพวกนี้เป็นนโยบายปลายแถวสำหรับก้าวไกล
เพราะเป้าหมายก้าวไกลคือ รื้อทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์
เขามาทางนี้ตั้งแต่ต้น
