สันต์ สะตอแมน
เรียนท่านอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล..
ตามถ้อยคำที่ท่านโพสต์.. “สังคมเราเต็มไปด้วย “อำนาจเหนือการเลือกตั้ง” การประคับประคองสถานการณ์เพื่อตั้งรัฐบาลปชต. ของประชาชนให้สำเร็จลุล่วงไม่ใช่เรื่องง่าย
ดิฉันจึงเห็นด้วยกับการไม่เพิ่ม Hate Speech ยิ่งมาถึงยุค post ประยุทธ์แล้วอย่างเช่นในเวลานี้ ตัวดิฉันเองรู้สึกทำได้ไม่ยากเย็นเลย #อหต” นั้น
กระผม..ได้พิจารณาด้วยความรอบคอบจนมั่นใจว่าน่าจะถี่ถ้วน-สมบูรณ์แล้ว เห็นว่าคำว่า “Hate Speech” ที่แปลความหมาย “วาจาหรือถ้อยคำที่สร้างความเกลียดชัง” นี้
ตลอด 8 -9 ปีมา ท่านอมรัตน์เองนี้แหละ เป็นคนที่พูดมากที่สุดทั้งในและนอกสภา จนอาจจะกล่าวได้ว่าเป็นวาจา-ถ้อยคำที่สร้างความเกลียดชังสูงสุดจนติดเพดานแล้ว
ฉะนั้น..ที่ท่านอมรัตน์เห็นด้วยกับการไม่เพิ่ม Hate Speech เอาในห้วงที่พรรคก้าวไกลของท่านกำลังจะได้เป็นรัฐบาล กระผมก็เห็นด้วยเช่นกัน และอยากบอกว่า..
อย่าได้กังวลหรือกลัวไปเลย เพราะคงไม่มีใครผู้ใดจะเพิ่ม Hate Speech ได้เทียบเท่าหรือสูงกว่าท่านอมรัตน์อีกแล้วล่ะ!
หมายถึงความเกลียดชังมันเต็ม-มันล้นตั้งแต่ยุคของท่านอมรัตน์แล้ว..จากนี้จึงหวังว่ามีแต่จะค่อยๆลด จนเหลือเพียงวาจาหรือถ้อยคำที่สร้างความรักความสามัคคีของผู้คนในชาติเท่านั้น
นี่..แม้จะมาสำนึกได้ในตอนที่ฝ่ายตัวเองจะเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ ก็นับว่ายังดีกว่าไม่สำนึกรู้สึกดี-ชั่วอะไรได้เลย!
อ้อ..แต่กระผมมองว่าอย่าเพิ่งดีใจ หรือพูดอะไรผูกมัดรัดคอตัวเองในตอนนี้เลย รอดูการเลือกนายกรัฐมนตรีก่อนจะดีไหม ไม่ใช่ไร เกิดคุณพิธาไม่ได้เป็นขึ้นมา..
เกรงท่านอมรัตน์เสียเอง จะเพิ่ม Hate Speech แบบบ้าคลั่ง!
เอ้า..ไหงเป็นยังงั้น พระ-เณรแย่งกันแทบตาย สุดท้ายคุณวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาติ ก็คว้าตำแหน่ง “ประธานสภาผู้แทนราษฎร” ไปแบบคุณตู่ จตุพร ได้แต่นั่งตาปริบๆ..
แถมกูรู-กูรู้บางคนก็พลอยอับอายขายขี้หน้า เพราะที่โม้-ทำตัวสู่รู้มาก่อนล่วงหน้า กลายเป็นว่า “ขี้หกทั้งเพ”!
แต่เอ๊ะ..กูรูขี้หกหรือคุณวันนอร์ขี้หก (กูรู) ก็ชักไม่แน่ใจ ยิ่งอ่านที่คุณโบว์-ณัฏฐา มหัทธนา โพสต์ก่อนได้ตัวประธานสภา..
“อาจไม่ทันสังเกตกัน แต่ตอนหนึ่งในการแถลงข่าวเมื่อสองทุ่มทำให้คำพูดของท่านวันนอร์ที่บอกว่าไม่ทราบเกี่ยวกับการเสนอชื่อมาทั้งวันเป็นคำพูดที่ไม่จริงไปเลย
เมื่อคุณชัยธวัชพูดขึ้นมากลางงานแถลงข่าวเองว่าตนเป็นคนไปเชิญท่านเมื่อคืนที่ผ่านมาและได้นั่งพูดคุยเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินงานประธานสภากันถึงเที่ยงคืน..”
ยิ่งทำให้เชื่อ..ที่มีคนนินทา “นักการเมืองกับเรื่องมุสาเป็นของคู่กัน” ฉะนั้นที่ประธานสภาคนใหม่บอก “สภาฯยุคนี้ต้องโปร่งใส เพื่อประชาชน”
ก็อย่าได้ตื่นเต้นไป และที่จริงก็ไม่มีอะไรให้ต้องคาดหวัง เพราะที่ผ่านมาสภาฯในยุคคุณชวน หลีกภัย เป็นประธาน ก็ราบรื่นดีไม่ได้มีเรื่องอะไรให้มัวหมอง..
นอกจากเรื่องของหลังคารั่ว น้ำท่วม ชักโครกตัน เท่านั้นแหละ55!
และพูดถึงคุณชวน เมื่อวานได้อ่านที่ท่านตอบนักข่าว..”แต่ถ้าถามเรื่องตัวบุคคล ขอย้ำว่านายวันนอร์ มะทา เป็นคนที่มีความสามารถคนหนึ่ง
แต่สิ่งที่ผมอยากเห็นในสภา คือประธานสภาต้องมีความมั่นคง ระบบนิติบัญญัติมีความเข้มแข็ง ยึดมั่นในหลักนิติธรรม ปฏิบัติหน้าที่ตรงไปตรงมา
ซึ่งถ้าใครเข้ามาแล้วยึดหลักนี้ เชื่อว่าจะสามารถสานงานต่อจากผมได้ เพราะมีข้อบังคับควบคุมอยู่”
ครับ..เดี๋ยวก็รู้ คนใหม่จะยึดหลักไหน?