ปฐมบทรัฐบาลใหม่ – เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

โปรดทราบ….
กกต.ประกาศ “รับรอง ๕๐๐ สส.” แล้ว ตั้งแต่เมื่อวาน(๑๙ มิย.๖๖)
นัยว่า “ปล่อยผี” ไปก่อน
แล้วค่อยเรียกวิญญาน “ตัวที่ชั่วร้าย” ลงหม้อภายหลัง ซึ่งกกต.มีเวลา ๑ ปี!
แบบนี้ ต้องบอกว่า กกต.ทำให้ประเทศ “เสียโอกาส” ไปเปล่าๆ กว่าหนึ่งเดือน

ถ้ารับรองซะตั้งแต่วันที่ ๑๕ พฤษภา.
ป่านนี้ ได้พรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล ได้นายกฯ ชื่อพิธาเข้ามาบริหาร กลิ่นหอมความเจริญฟุ้งทั้งประเทศไปแล้ว!

แต่ก็เอาเหอะ
เจริญช้าไปเดือน ทั้งหลาย-ทั้งปวง ที่ “รัฐบาลประยุทธ์” ลงหลักปักฐานไว้ให้ ทั้งบนดิน-ใต้ดิน, บน-ฟ้า-ในอากาศ และบนน้ำ-ใต้น้ำ

ยังคงใหม่ นำสมัย ไฮเทค พอให้รัฐบาลก้าวไกลเคลมเป็นผลงานได้อีกหลายปีหรอก!

เมื่อกกต.ใช้วิธี “ล้างป่าช้า” ต้นกรกฎา.ก็น่าจะเปิดสภานัดปฐมฤกษ์ได้
ก็จะได้เห็น การเดินเกมชิง “ประธานสภา” ระหว่างก้าวไกลกับเพื่อไทย

ใครจะ “เก๋าเกม” และใครจะ “ไก่อ่อน”?
ต้องตามดูกันเลยเชียว!

ตัวประธานสภาที่เป็นประธานรัฐสภาด้วยนั้น ไม่ใช่แค่ตัวชี้เกมรอบนี้ หากแต่เป็นตัว “กำหนดเกม” และตัว “แก้เกม” การเมือง ในเทอมเลือกตั้งใหม่ ซึ่งจะมาถึงก่อน ๔ ปีแน่ๆ

ฉะนั้น “ตัวประธานสภา” รอบนี้
มันมี “วาระซ่อนเร้น” ชนิดจะปล่อยให้ “คนพรรคไหนก็ได้” เหมือนที่ผ่านมาอย่างนั้นไม่ได้

เมื่อเลือกประธานสภาได้แล้ว ขั้นตอนต่อจากนั้น จะเป็นการประชุมรัฐสภา
“โหวตเลือกนายกฯ”

จะมีพรรคไหนเสนอเสนอชื่อแข่งกับพิธาหรือไม่ ตามปกติเพื่อความสวยงามตามระบอบ ก็จะมีเป็นสีสัน

แต่ครั้งนี้ ๒ นักเสนอแข่ง “เพื่อไทย-ก้าวไกล” สมประโยชน์กันอยู่ อาจเสนอชื่อพิธาคนเดียวก็เป็นได้

ฝ่ายค้าน แน่นอน “รวมไทยสร้างชาติ” ตีตั๋วจองไว้ตั้งแต่เปิดหีบโน่นแล้ว แต่เขาไม่เสนอชื่อพลเอกประยุทธ์แข่งแน่

ก็จำไว้ละกัน…….
ไม่ว่าใครจะแข่งกับใคร หรือพิธาคนเดียวชนิดไร้คู่แข่ง

คนนั้น จะต้องได้รับเสียงโหวต ทั้งจากสส.และสว.รวมกัน “เกินกึ่ง” ของทั้ง ๒ สภา
คือ คนนั้น ต้องได้ ๓๗๖ เสียงขึ้นไป จึงจะได้เป็นนายกฯ

ถ้าจะถามผม แล้วพิธาจะได้เป็นนายกฯ มั้ย?
โหย…ขี้เกียจตอบ

เพราะฟันธงไปเป็นร้อยครั้งแล้วมั้ง ว่านายกฯ คนที่ ๓๐
อักษร ป.หรือ อักษร อ.
คนใด-คนหนึ่ง จะได้เป็นนายกฯ

อักษร พ.ไม่มีในพจนานุกรมทำเนียบนายกฯ ฉบับปี ๒๕๖๖!
ระหว่าง ป.กับ อ.ถ้าเทียบน้ำหนักเป็นเปอร์เซนต์ ก็ระหว่าง ๔๐/๖๐

แต่ถ้าพิธาได้เป็นนายกฯล่ะ จะว่าไง?
ก็ไม่ว่าไง…..

พิธา จมูกยาวได้ แล้วทำไมผมจะยาวเหมือนพิธาบ้างไม่ได้ ถึงแก่ แต่ก็หล่อกว่าพิธาละเว้ย ป้าข้างบ้านบอก!

พิธา เป็น ๑ ใน ๕๐๐ สส.ที่กกต.ประกาศรับรองเป็นทางการเมื่อวาน (๑๙ มิย.๖๖)

แต่พิธา ในฐานะพ่อของส้มทั้งจักรวาล กกต.ได้มอบ gift voucher “อาญา มาตรา ๑๕๑” ไปแลกคุกได้ ตุนไว้ในกระเป๋าล่วงหน้าแล้วหนึ่งใบ

เมื่อกกต.รับรอง เป็น สส.๑๐๐% ในวาระเข้าชิงตำแหน่งนายกฯคนที่ ๓๐ ในที่ประชุมรัฐสภา ราวๆสิงหา.
พิธาก็น่าจะได้รับของขวัญอีกชิ้น……

ว่าด้วยการขาดคุณสมบัติผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๙๘(๓)

ก็ยังไม่ต้องซีดเดี๋ยวนี้หรอก กว่าคำร้องจะมีไปถึงศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความ พิธายังมีสร้อยต่อท้ายชื่อว่า “สส.” ได้อีกหลายเดือน

แต่ในสร้อยว่า “นายกรัฐมนตรี” ไม่ต้องเพ้อ!
อย่างที่เคยบอกไปแล้ว พิธา ถ้าเป็นสินค้าการเมือง ก็เป็นสินค้าชำรุด-สินค้ามีตำหนิ

ถึงสส.โหวตให้
แต่สว.ซึ่งเขามีทั้งวัยวุฒิ-คุณวุฒิ ในการทำหน้าที่ “กลั่นกรอง”

“ยากมาก”
ที่เขาจะโหวตผ่านให้ประธานรัฐสภานำ “สินค้าชำรุด-สินค้ามีตำหนิ” นำขึ้นไปทูลเกล้าฯ

เห็นหน้า “ชัยธวัช” เลขาฯก้าวไกลให้สัมภาษณ์แต่ละครั้ง คร่ำเครียดจัง ในขณะที่ปาก-วาจาเชื่อมั่น แต่แววตา-อ่อนล้า หรี่โรยความหวัง

ไปบอกธนาธร-เพื่อนเลิฟเถอะ จะเลือกทางไหน?
ระหว่าง เป็น “พรรคแก่นนอก” นั่งเก้าอี้ประธานสภา
แล้วยอมให้เพื่อไทยเป็น “พรรคแก่นใน” นั่งเก้าอี้นายกฯ
แบบนี้ “กำขี้ดีกว่ากำตด” จริงมั้ย?

ถึงยังไง ก็ยังได้เป็น “พรรคร่วมรัฐบาล” หน้าด้านๆ หน่อย ไปต่อรองขอกระทรวงดีๆ ที่อยากได้ เพื่อไทยเขาคงสงสารบ้างหรอก

หรือไม่เอา……..
เลือดส้มไม่ยอมผสมเลือดแดง เมื่อไม่ได้เก้าอี้นายกฯ ที่พึงเชย ก็ไม่เป็นฝ่ายรัฐบาลซะเลยจะดีกว่า

ไปเอาดีทางเป็น “หัวหน้าฝ่ายค้าน” ผนึกกำลังกับ “รวมไทยสร้างชาติ” ทำหน้าที่ตรวจสอบ “ถ่วงดุล” ฝ่ายรัฐบาลแทน?

ผมว่าแบบนี้ มันเป็นมิติ “ประชาธิปไตย” เต็มร้อยเลยนะ ก้าวไกลน่าลอง!

นี่ผมก็เรื่อยเฉื่อยไปงั้นเอง ไม่ได้หวังทางเป็นจริง-เป็นจังอะไรหรอก
เพราะใน “กลิ่นหอมความเจริญ” ที่โชยมานั้น

จมูกผมแยกแยะได้ว่า “กลิ่นวินาศสันตะโร” แฝงมาด้วย แถม “ฉุนแรง” ขึ้นเรื่อยๆ

ผมจึงไม่ค่อย “ยินดี-ยินร้าย” ซักเท่าไหร่ กับการเมืองเรื่อง “กบเลือกนาย”

มาดูเรื่องนี้ดีกว่า………
เรื่องที่กระทรวงต่างประเทศ โดย “นายดอน ปรมัตถ์วินัย” รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ
จัดประชุมผู้แทนอาเซียนชนิด “ไม่เป็นทางการ”

และเชิญ “เมียนมา” มาร่วมจิบน้ำชาสนทนาวิสาสะกัน ด้วย เมื่อ ๑๘-๑๙ มิย.

ปรากฏว่า ว่าที่รัฐบาล ๘ พรรค ทั้งเพื่อไทย ทั้งเป็นธรรม โดยนายกัณวีร์ ผู้มีบทบาทแยกแผ่นดิน ๓ จังหวัดใต้เป็นรัฐปาตานี และอีกหลายแนวร่วม
หอนกันขรม!

ว่าเป็นรัฐบาลรักษาการ แล้วกระทรวงต่างประเทศเจ้ากี้-เจ้าการอย่างนี้ ไม่ถูก-ไม่ควร

กลุ่มอาเซียน ทั้งฟิลิปปินส์ อินโดฯ มาเลย์ เวียดตาม สิงคโปร์ ต่างเมินที่จะมาร่วม ช่างน่าอับอาย ขายหน้านัก

ฟังเผินๆ ก็เออ..ใช่..ใช่
ต้องให้เป็นหน้าที่รัฐบาลใหม่เขา รัฐบาลรักษาการ ไปเจรจาความบ้าน-ความเมือง มันไม่ถูก-ไม่ควร

แต่ถ้าใช้ “หัวใจไทย” พูดแทน “หัวใจทาส” จะไม่พูดแบบนั้น

ควรต้องรู้ เรื่องในพม่า ประเทศที่ได้รับผลกระทบโดยตรง หนึ่งในนั้น คือไทยเรา

เพื่อนอาเซียน อย่างฟิลิปปินส์ อินโดฯ มาเลย์ สิงคโปร์ เวียดนาม อยู่กันทางทะเลจีนใต้ ไม่มีเขตแดนติดพม่า จึงไม่เดือดร้อนอะไร

และรู้มั้ย กลุ่มติดอาวุธรัฐบาลเงา “อองซานซูจี” ที่สู้รบกับรัฐบาลทหารพม่าอยู่ขณะนี้ นั้น
ทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์ ทั้งเงินสนับสนุน ทั้งการฝึกกำลังพล มาจากไหน ใครเป็นตัวหนุนหลัง?

และรู้กันมั้ย ปีๆ เราค้าขายกับพม่ากี่หมื่น-กี่แสนล้าน
และรู้กันมั้ย ไฟฟ้าที่เราใช้กันทุกวันนี้ ราวๆ ๓๐% มาจาก ๓ แหล่งในพม่า คือ เยตากุน ยาดานา และซอติก้า

และรู้กันมั้ย ชายแดนกว่า ๒,๔๐๐ ตารางกิโลเมตร ระหว่างไทย-พม่า มีชนเผ่า “ผลุบเข้า-ผลุบออก” เท่าไหร่?

เมื่อไทยไม่สามารถตามก้นสหรัฐ-ยุโรป “คว่ำบาตร” พม่าและไม่ยอมให้ใช้ไทยเป็นเส้นทางส่งอาวุธให้ฝ่ายอองซานซูจี
ไทยต้องถูกมหามิตร “กดดัน” ขนาดไหน?

ไม่เพียงมหามิตรกดดัน มหามิตรยัง “ยืมมือมิตร” ในอาเซียนมากดดันเราด้วย!

เราอยู่ข้างนอก รู้แต่เปลือก รัฐบาล-กระทรวงต่างประเทศอยู่กับปัญหา เขาย่อมรู้ อะไรรอได้, อะไรรอไม่ได้
ฉะนั้น อย่าใช้ความชังชาติและความคับแคบ เป็นตัวตั้งในการพูดจาเลย เรื่่องชาติต้องให้มาก่อนความชังชาติ

รัฐมนตรีดอน ท่านเชิญมาคุยนอกรอบ ใครมา-ก็มา,ไม่มา-ก็ไม่มา
ด่าความงี่เง่าพวกเรากันเองบ้างก็ดี

บางที “ชาติ” จะขอบคุณ!

เปลว สีเงิน

๒๐ มิถุนายน ๒๕๖๖

Written By
More from plew
“เหรียญทองที่เหนือทอง” – เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน คนจริง “เพื่อบ้านเพื่อเมือง” มีมาก แต่คนหนึ่งที่ผมต้องยอมรับนับถือทั้งกายและใจคือ “ไอ้ตี๋หัวลำโพง” คนนั้น เมื่อ ๖๐ ปีก่อน เรียกกันว่า...
Read More
0 replies on “ปฐมบทรัฐบาลใหม่ – เปลว สีเงิน”