นายกฯ ชมศิลปะการต่อสู้ “มวยไทยเลิศฤทธิ์” ชื่นชมเยาวชนเห็นคุณค่า ร่วมอนุรักษ์สานต่อเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่คนไทยภาคภูมิใจ ขอทุกภาคส่วนช่วยกันพัฒนาต่อยอดเป็น soft power สร้างรายได้ให้ประเทศ
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (30 พฤษภาคม 2566) เวลา 09.00 น. ณ โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี
พลเอก ธันวาคม ทิพยจันทร์ นายกสมาคมพันธมิตรมวยไทยโลกและนายกสมาคมกีฬามวยไทยเลิศฤทธิ์ พร้อมด้วย นายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการสมาคม นำคณะเด็ก เยาวชน และครูมวยที่ฝึกฝนศิลปวัฒนธรรมและการออกกำลังกายด้วยมวยไทย เข้าพบ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
เพื่อประชาสัมพันธ์การแสดงตัวอย่างการสร้างมูลค่าเพิ่มทางศิลปวัฒนธรรมด้วยมวยไทย โดยมี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายนริศ ขำนุรักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้าร่วม
นายกรัฐมนตรีชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมและการออกกำลังกายด้วยมวยไทยเลิศฤทธิ์ โดยคณะเด็ก เยาวชน และครูผู้ฝึกสอน ประกอบด้วย ท่าร่ายมวยไทยเลิศฤทธิ์ ได้แก่ ท่าร่ายหมัด 17 ท่า ท่าร่ายศอก 26 ท่า ท่าร่ายรวม หมัด เท้า เข่า ศอก ถีบ 26 ท่า และการสาธิตการร่าย เพื่อนำไปใช้ในการต่อสู้ระดับสูง
ได้แก่ การป้องกันเตะ (แทนวิรุฬหกกลับ) การป้องกันหมัด (ตาเถรค้ำฝัก) การป้องกันหมัดด้วยการใช้ศอกตัด (อิเหนาแทงกริช) การป้องกันหมัด (หนูไต่ราว) การใช้นิ้วเพื่อดับนัยน์ตาคู่ต่อสู้ (สวนทวน) การป้องกันเตะด้วยศอก (หักงวงไอยรา) ท่ากลมวยจู่โจม (ฤาษีบดยา) และการต่อสู้กับศัตรูหลายคน (สู้สิบทิศ)
“นายกรัฐมนตรีขอบคุณและให้กำลังใจผู้เกี่ยวข้องทุกหน่วยงานที่ร่วมกันพัฒนา สนับสนุน และสานต่อศิลปะการต่อสู้มวยไทย ซึ่งเป็นเทคนิคการต่อสู้ด้วยการใช้อวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเป็นอาวุธ ใช้หมัด เท้า เข่า ศอก บูรณาการเป็นศิลปะป้องกันตัว โดยอาจพิจารณาบรรจุเป็นหลักสูตรการเรียนการสอนที่มีมวยไทยเป็นพื้นฐาน ขอให้พัฒนาอย่างต่อเนื่องต่อไป
พร้อมแสดงความชื่นชมเด็ก ๆ และเยาวชนที่ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ขอทุกคนเห็นคุณค่า รัก และร่วมอนุรักษ์สานต่อมวยไทยให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรม เพราะมวยไทยเป็นศิลปวัฒนธรรมที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว อีกทั้งยังเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่า
หากทุกคนช่วยกันและเล็งเห็นความสำคัญร่วมมือร่วมใจอนุรักษ์ สืบสาน พัฒนาต่อยอด มวยไทยจะเป็นหนึ่งใน soft power ที่ช่วยสร้างรายได้ให้ประเทศ และเป็นวัฒนธรรมที่คนไทยภาคภูมิใจ นอกจากนี้ สิ่งที่ได้รับจากการฝึกซ้อมมวยไทย นอกเหนือสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงแล้ว
การเข้าร่วมฝึกฝนทักษะและต่อยอดเป็นครูมวย หรือการถ่ายทอดและสอนจากรุ่นพี่สู่รุ่นน้องยังมีส่วนช่วยเสริมสร้างและปลูกฝังความสามัคคีด้วย เน้นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ การป้องกันตนเอง การช่วยเหลือผู้อื่น และนำไปสู่การแข่งขันเป็นนักกีฬา เพื่อสร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัว” นายอนุชา กล่าว
สำหรับการฝึกอบรมเกี่ยวกับมวยไทยของสมาคมกีฬามวยไทยเลิศฤทธิ์ มีเป้าหมายให้คนทุกวัยมีจิตสำนึกในมรดกของชาติ มีความรู้รักสามัคคี มีความกตัญญู รู้คุณบุพการีและคณาจารย์ ทำให้ร่างกายแข็งแรง และยังสามารถป้องกันตัวเองและช่วยเหลือผู้อื่นได้ ตลอดจนสามารถนำไปใช้ในการแข่งขันกีฬาได้อีกด้วย
โดยได้จัดให้มีการอบรมเผยแพร่องค์ความรู้และสนับสนุนครูมวยตลอดจนนักเรียนที่ต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับมวยไทย และผู้สนใจทั่วไป เพื่อร่วมเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมของไทยให้เป็นที่รู้จักและสืบสานอนุรักษ์มรดกไทยให้คงอยู่ตลอดไป