ผักกาดหอม
ขอแสดงความยินดีกับท่านว่าที่นายกฯ พิธาครับ
การจัดตั้งรัฐบาล ๓๑๓ เสียง ดูราบรื่น เรียบร้อยดี
คำแถลงของ “พิธา” วานนี้ (๑๘ พฤษภาคม) มีใจความหลัก ๓ ข้อ
๑.ทุกพรรคเห็นชอบที่จะสนับสนุนนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ ๓๐ ตามเสียงข้างมากของผลการเลือกตั้ง
๒.ทุกพรรคจะทำข้อตกลงร่วม หรือ MOU ในการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อแสดงถึงแนวร่วมในการทำงานร่วมกันและวาระร่วมกันของทุกพรรค และจะแถลงต่อสาธารณชนในวันที่ ๒๒ พ.ค.ที่จะถึง เพื่อแก้ไขวิกฤตทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม
๓.ทุกพรรคจะจัดตั้งคณะทำงานเพื่อเปลี่ยนผ่านรัฐบาล เพื่อเตรียมความพร้อมให้สามารถบริหารราชการแผ่นดินต่อจากรัฐบาลเดิมได้อย่างไร้รอยต่อ
สำหรับประเด็นที่สังคมทั่วไป รวมทั้ง ส.ส.และ ส.ว.บางส่วนยังคาใจคือการแก้ ม.๑๑๒ นั้น “พิธา” บอกว่าประเด็นนี้ชิลๆ ครับ
“เรื่องเกี่ยวกับมาตรา ๑๑๒ ทุกพรรคตกผลึกแล้วไม่มีอะไรน่ากังวลใจ”
ทุบโต๊ะครับ รัฐบาลพิธา ๑ ตั้งง่าย รวดเร็วราวปานกามนิตหนุ่ม
เพราะเมื่อทุกพรรคตกผลึกประเด็น ม.๑๑๒ แล้ว ก็ไม่มีอะไรขัดขวางการตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากถึง ๓๑๓ นี้ได้อีกต่อไป
ส.ว.คนไหนคิดจะขวาง ระวังตัวไว้ พวกท่านจะไม่มีที่ยืน
เป็นอย่างอื่นไม่ได้เลยครับ!
แต่เดี๋ยวก่อน ทุกพรรคตกผลึกอย่างไร?
“ชลน่าน ศรีแก้ว” บอกว่า
“…เรื่องมาตรา ๑๑๒ ก็อยู่ในเนื้อหาของ MOU ถ้าเราลงนามร่วมกัน นั่นหมายความว่า มันมีข้อตกลงที่สรุปจบแล้วเสนอให้กับพรรค ซึ่งก็เป็นไปตามเงื่อนไขที่เราเสนอให้พรรคแกนนำ
เพราะฉะนั้น คุณพิธาจึงตอบชัดได้ว่าถึงขั้นตอนนี้ มันไม่ได้เป็นประเด็นที่เราจะไม่ร่วมกันในกรณีมาตรา ๑๑๒ เพราะมีข้อตกลงร่วมที่ทุกคนหาทางออกร่วมกันได้…”
และความเห็นของ “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” คือ…
“…ประเด็นมาตรา ๑๑๒ หน้าที่ของพรรคการเมืองทุกพรรคคือต้องรักษาตามรัฐธรรมนูญ รักษาชาติ ศาสน์ กษัตริย์ไว้
ดังนั้นการที่จะทำอะไรแล้วจะกระทบทำให้สถาบันเกิดความเสื่อมเสีย หน้าที่ของทุกพรรคการเมืองจะต้องปกป้อง
การที่ผู้มีอำนาจใช้ประเด็น ๑๑๒ เพื่อกลั่นแกล้งหรือทำร้ายกัน คงจะต้องมีการมาพิจารณาและมาดูแต่ละประเด็นของการที่จะทำให้มาตรา ๑๑๒ ปกป้องสถาบันได้อย่างดี และไม่เป็นเครื่องมือให้กับใครที่มีอำนาจไปทำร้ายคนอื่น ยืนยันจะต้องปกป้องสถาบัน…”
นี่คือการเมือง!
ก็ยังงงๆ ว่าสรุปแล้ว ได้คุยในรายละเอียดการแก้ไข ม.๑๑๒ กันแล้วหรือยัง ถึงได้บอกว่า ทุกพรรคตกผลึกแล้ว
จะมีรายการต้มชาวสีส้มหรือเปล่า?
เพราะเท่าที่ฟัง “รังสิมันต์ โรม” พูดแล้ว รู้สึกเศร้าใจแทนมวลชนสามนิ้ว
“…การแก้ไขมาตรา ๑๑๒ พบว่ามีบางมุมที่มองไม่ตรงกันบ้าง แต่ไม่ใช่ว่าคุยกันไม่ได้ จึงมองอย่างมีความหวังว่าจะนำไปสู่การแก้ปัญหา ดังนั้นมั่นใจว่าการเสนอแก้ไขมาตรา ๑๑๒ ไม่น่าเป็นอุปสรรคในการจัดตั้งรัฐบาล…”
ก้าวไกลยอมลดเพดานแก้ ม.๑๑๒ ใช่หรือเปล่า
จุดยืนแก้ ม.๑๑๒ ของพรรคก้าวไกล ขณะเป็นฝ่ายค้าน มั่นคงแน่วแน่มาตลอด มีแต่จะเพิ่มเพดาน ไม่เคยมีลด
มีหลักฐานอยู่เต็มโซเชียลครับว่า ก้าวไกลคิดอย่างไรกับ ม.๑๑๒
แกนนำพรรคก้าวไกลระดับกระชากวิญญาณ “พิธา” ได้เคยโพสต์เฟซบุ๊กไว้เมื่อ ๒๒ มกราคมที่ผ่านมา เนื้อหาก็อย่างเคยที่นำเสนอไปแล้ว แต่คราวนี้คือการตอกย้ำ เพราะ “พิธา” บอกว่าทุกพรรคตกผลึกแล้ว
“…มาตรา ๑๑๒ มีปัญหาในทุกมิติ ทั้งตัวบทกฎหมายและการบังคับใช้ พรรคก้าวไกลจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อแก้ไข มาตรา ๑๑๒ โดยข้อเสนอแก้ไข มาตรา ๑๑๒ ของเราเป็นข้อเสนอที่พอจะพูดคุยกันกับทุกฝ่ายด้วยเหตุและผลได้ ทั้งนี้ เราต้องยอมรับความจริงว่า หากสภาผู้แทนราษฎรไม่ร่วมมือกันอย่างแข็งขัน เพื่อช่วยกันแก้ไขให้กฎหมายนี้เป็นธรรมขึ้นได้ สังคมก็จะเหลือเพียงตัวเลือกสุดท้าย คือ การยกเลิก มาตรา ๑๑๒ ไปอย่างถาวรตามข้อเรียกร้องของประชาชนนอกสภา
หลังจากที่ร่างแก้ไข มาตรา ๑๑๒ ของพรรคก้าวไกลถูกสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรดองไว้เป็นเวลากว่า ๙ เดือน (ยื่นเข้าสู่สภามาตั้งแต่วันที่ ๑๐ ก.พ.๒๕๖๔) มาวันนี้ สถานการณ์มีความหนักหนาสาหัส เร่งด่วนขึ้นจนถึงจุดวิกฤต ประชาชนถูกจับกุมคุมขัง เยาวชนถูกจับเข้าคุก ไม่ได้สิทธิประกันตัวนับร้อยคนด้วยข้อหา มาตรา ๑๑๒ พรรคก้าวไกลจึงจำเป็นต้องขอให้ประธานสภาฯ บรรจุวาระพิจารณาร่างแก้ไข มาตรา ๑๑๒ ของพรรคก้าวไกลเข้าสู่สภาเพื่อเริ่มการพิจารณาโดยทันที
สาระสำคัญการแก้ไข ม.๑๑๒ ของพรรคก้าวไกล เป็นการย้ายความผิดฐาน มาตรา ๑๑๒ ออกจากหมวดความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ
[๑] ลดอัตราโทษลงอย่างมาก ไม่กำหนดโทษขั้นต่ำ รวมทั้งสามารถพิจารณาลงโทษปรับแทนการจำคุก เพื่อให้ได้สัดส่วนกับความผิด
ลดโทษ จากเดิมจำคุก ๓-๑๕ ปี : แก้ไขโทษจำคุกเหลือไม่เกิน ๑ ปี หรือมีเพียงโทษปรับไม่เกิน ๓๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำและปรับ (สำหรับการกระทำความผิดต่อพระมหากษัตริย์)
ลดโทษ จากเดิมจำคุก ๓-๑๕ ปี : แก้ไขโทษจำคุกเหลือไม่เกิน ๖ เดือน หรือมีเพียงโทษปรับไม่เกิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำและปรับ (สำหรับการกระทำความผิดต่อพระราชินี รัชทายาท ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์)
[๒] เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลทั่วไปนำฐานความผิดนี้ไปใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง กลั่นแกล้งผู้อื่น หรือนำไปใช้โดยไม่สุจริต
จากเดิมประชาชนทั่วไปสามารถฟ้องร้องคดีนี้ได้ : แก้ไขให้เฉพาะสำนักพระราชวังเป็นผู้ร้องทุกข์ รวมถึงกำหนดให้ความผิดในลักษณะนี้เป็นความผิดอันยอมความได้
[๓] บทยกเว้นความผิดและยกเว้นโทษ
ยกเว้นความผิด หากเป็นการติชม แสดงความคิดเห็นโดยสุจริต เพื่อรักษาไว้ซึ่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อธำรงไว้ซึ่งรัฐธรรมนูญ หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะ
ยกเว้นโทษ หากพิสูจน์ได้ว่าข้อที่หาว่าเป็นความผิดนั้นเป็นความจริง แต่ห้ามไม่ให้พิสูจน์เรื่องความเป็นอยู่ส่วนพระองค์ “และ” การพิสูจน์ไม่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน……”
พรรคที่จะร่วมรัฐบาลกับก้าวไกลตกผลึกกับรายละเอียดนี้แล้วหรือยัง
นี่คือสิ่งที่อยู่ใน เอ็มโอยู ใช่หรือไม่
หวาดเสียวแทนชาวสีส้มครับ
ที่บอกว่าตกผลึก อาจเป็นการซื้อเวลา ตั้งกรรมการขึ้นมาศึกษา ใช้เวลาเป็นเดือนเป็นปี ขณะนี้ไม่มีใครรู้ได้
แต่คนที่ติดคดี ม.๑๑๒ คงต้องรอหน่อย อย่าไปบีบพรรคก้าวไกลเขามากเกินไป ให้เวลาเขาได้เริ่มทำงาน
เข้าใจเขาหน่อยว่าตอนที่เป็นฝ่ายค้านมันพูดได้ พูดง่าย จะปล่อยให้น้องๆ ติดคุกวินาทีเดียวก็ไม่ได้
พอเป็นรัฐบาลให้รอไปก่อนครับ
แต่ข้อมูลใหม่! ซอกแซกถึงใต้เตียง ตะแล็ปแก็ปมาบอก นายกฯ คนใหม่เพิ่งจะส่งชุดขาวไปซักรีดอบแห้ง เป็นอดีตข้าราชการ
เพราะงานการเมือง มันยากกว่ากลัดกระดุมเสื้อ
รออีกแป๊บ “พิธา” คงเข้าใจ
