กรมส่งเสริมสหกรณ์ ชี้แจงความคืบหน้าการดำเนินคดีเจ้าหน้าที่สหกรณ์ ยักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด เมื่อปี 2565 มูลค่าความเสียหาย 637 ล้านบาท
ซึ่งสหกรณ์ฯ ได้แจ้งความร้องทุกข์ ดำเนินคดีกับนางศิริพร รัตนปราการ และนางพวงทิพย์ สุทธิแย้ม ในความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง
ขณะนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้ดำเนินการตามคดีพิเศษ ตามยึดอายัดทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในคดีดังกล่าว และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้มีคำสั่งนำทรัพย์สินเกี่ยวกับความผิดที่ยึดอายัดไว้บางส่วนคืนให้แก่สหกรณ์ แทนการสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน มูลค่าทรัพย์สินประมาณ 87 ล้านบาท
ความคืบหน้าการดำเนินคดีแพ่ง ศาลแพ่งได้นัดไต่สวนคำร้องครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 66 มีผู้เกี่ยวข้อง 3 ฝ่าย ได้แก่ พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการคดีพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 2 เจ้าหน้าที่สำนักงาน ปปง. และทนายความของผู้ร้องคัดค้านอีก 2 ฝ่าย เพื่อกำหนดแนวทางการพิจารณาคดี
ส่วนการดำเนินคดีอาญา พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน และได้ประกาศสืบจับ รวมทั้งอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิสูจน์เปรียบเทียบลายมือชื่อปลอม ในส่วนความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน ดีเอสไอได้รับไปดำเนินการแล้ว
และเมื่อ 5 เม.ย. ที่ผ่านมา ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินทางอาญา ดีเอสไอ ได้แจ้งความคืบหน้าในการดำเนินการว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการและออกหมายจับเพิ่มเติม พร้อมกับดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ที่เกี่ยวข้อง
ในส่วนการจัดทำงบการเงินประจำปีบัญชี ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 สหกรณ์ฯ ได้ส่งให้ผู้สอบบัญชีตรวจสอบ เมื่อวันทึ่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 แต่เนื่องจากมีเอกสารประกอบการลงบัญชีบางรายการไม่ครบถ้วน จึงได้แจ้งให้สหกรณ์ฯ ตรวจสอบและจัดส่งเอกสารเพิ่มเติมซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการของคณะกรรมการฯ
ด้าน นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า ทางกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้ดำเนินการดูแล ช่วยเหลือ กำกับ แนะนำการดำเนินงานของสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด อย่างต่อเนื่อง ซึ่งกรมได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ดีเอสไอ สำนักงาน ปปง. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาการทุจริตในสหกรณ์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม