เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2566 เวลา 06.00 น. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จังหวัดพะเยา เบอร์ 6 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ในฐานะประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคเหนือ พร้อมทีมงานผู้ช่วยหาเสียง ไปพบปะทักทาย พ่อค้า แม่ค้า และพี่น้องประชาชนทั่วไปที่ตลาดสดตำบลป่าแฝก อำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา ซึ่งได้รับการต้อนรับจากพ่อค้าแม่ค้า และพี่น้องประชาชน รวมถึงบรรดาแม่บ้าน อสม.และผู้นำท้องที่ท้องถิ่น มาให้กำลังใจและมอบพวงมาลัยเป็นจำนวนมาก พร้อมส่งเสียงเชียร์ “ผู้กองธรรมนัส สู้สู้” ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก
โดย ร.อ.ธรรมนัส ได้กล่าวทักทายกับพ่อค้า แม่ค้า และประชาชน ที่มาจับจ่ายซื้อของในตลาดสดตำบลป่าแฝก ช่วงหนึ่งว่า วันนี้มาขอขอบคุณทุกท่านที่เมื่อ 4 ปีที่แล้วได้เลือกตนเข้าไปเป็นผู้แทนของพวกท่าน ไปนั่งในสภาผู้แทนราษฎรและยังได้รับความไว้วางใจให้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งตลอดช่วง 4 ปีที่ผ่านมา พ่อแม่พี่น้องชาวอำเภอแม่ใจ คงจะเห็นความเปลี่ยนแปลงของบ้านเมืองเรา ทั้ง 6 ตำบล 66 หมู่บ้าน ว่ามีความเปลี่ยนแปลงพัฒนาจากเดิมไปอย่างไรบ้าง
โดยเรื่องของการพัฒนาแหล่งน้ำคือหนองเล็งทราย นั้นแตกต่างจากเดิมเมื่อตนเองยังเป็นเด็ก เรียนอยู่โรงเรียนแม่ใจวิทยาคม จนกลับมาอีกครั้งก่อนเล่นการเมืองเป็นอย่างไรก็รู้กันอยู่ แต่พอตนเข้าไปเป็นผู้แทนช่วง 4 ปีที่ผ่านมา เราสามารถผลักดันงบประมาณมาพัฒนาแหล่งน้ำหนองเล็งทรายนี้ ที่เป็นหัวใจของชาวบ้าน ทุกหมู่บ้านทุกตำบล และยังส่งอานิสงส์ไปถึงตำบลอื่นๆ ของอำเภอพาน อีกด้วย”
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปริมาณน้ำในหนองเล็งทรายทุกวันนี้มีปริมาณมาก แต่จะต้องผลักดันและดูแลพัฒนาต่อไป เพราะต่อไปเพราะน้ำคือชีวิต ถ้าไม่มีน้ำก็จะมีปัญหาได้ ที่สำคัญคือระบบกระจายน้ำสู่พื้นที่เกษตร ที่จะต้องผลักดันให้ทั่วถึงต่อไป ซึ่งตนเองได้มอบหมาบให้ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น เสนอแผนงานเข้ามาให้พิจารณา และส่งต่อหน่วยงานเกี่ยวข้องดำเนินการต่อไปเพื่อให้ระบบน้ำ รวมถึงอ่างเก็บน้ำต่างๆ มีปริมาณเพียงพอใช้อย่างเต็มที่
นอกจากนี้ ยังมีสิ่งดีที่จำเป็นต้องผลักดันคือ ท่านที่มีสิทธิที่ดินเป็น ส.ป.ก. ก็มีนโยบายผลักดันสำคัญ และกำหนดจะทำทันทีหลังจากจัดตั้งรัฐบาลคือ การเปลี่ยน ส.ป.ก เป็นโฉนด ส่วนใครที่ทำกินอยู่ในที่ ที่ได้รับอนุญาตเช่นป่าหรืออุทยานแห่งชาติ ก็จะเปลี่ยนเป็น ส.ป.ก.4-01 ขอให้คอยติดตามความเป็นรูปธรรม ซึ่งจะทำทีนทีหลังเป็นรัฐบาล
“พ่อแม่พี่น้องครับ มีหลายสิ่งหลายอย่างและนโยบายสำคัญที่จะทำครับ ผมเติบโตมาจากอำเมืองพะเยา และอำเภอแม่ใจ มีความผูกพันในพื้นที่เขต 1 อย่างมาก พ่อแม่พี่น้องก็เห็นว่าผมรักบ้านเกิดของผมมาก และทำงานมาตลอดช่วงเป็นผู้แทน 4 ปี และจะทำเพื่อบ้านเมืองเราต่อไป เราจะมีสนามบินที่จังหวัดพะเยา ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในปี 2567 ด้วย
ดังนั้นในวันที่ 14 พฤษภา เดือนหน้านี้ ขอฝากพ่อแม่พี่น้องทุกท่านว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ก็ต้องออกไปใช้สิทธ์กัน แม้ไม่ชอบการเมือง แต่การเมืองเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ต้องอยู่กับมัน ฉะนั้นก็ต้องไปเลือกคนที่ได้ใช้ ได้เกิดประโยชน์กับบ้านกับเมืองเรา ดังนั้นวันที่ 14 พฤษภา บัตรสีม่วงกาเบอร์ 6 บัตรสีเขียวกาเบอร์ 37 เพื่อเข้าไปเป็นรัฐบาลครับ”
นอกจากนี้ ร.อ.ธรรมนัส ยังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ว่า เรื่องสำคัญที่ได้พูดคุยกับประชาชนในพื้นที่จังหวัดพะเยา คือการพัฒนาแหล่งน้ำ และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ต้องทำต่อเนื่องจากสี่ปีที่ผ่านมา รวมถึงโครงการสร้างสนามบินพะเยา และเรื่องสิทธิทำกิน การพัฒนาอาชีพต่างๆ ส่วนเรื่องเร่งด่วนที่ต้องแก้ปัญหาสำหรับภาพรวมภาคเหนือ 8 จังหวัดคือการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ซึ่งทวีความรุนแรงจากปีก่อนมาก ซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาติ ว่าเราจะต้องแก้ปัญหาอย่างไร
เมื่อถามว่ามีการตั้งความหวังผลการเลือกตั้งจังหวัดพะเยาอย่างไร ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ในส่วนเขต 1 ของตนเองมั่นใจไม่น่ามีปัญหา ส่วนเขต 2 และเขต 3 เมื่อวานก็ลงพื้นที่ไปพบปะปราศรัยหาเสียงกับพ่อแม่พี่น้อง ซึ่งวันนี้ก็จะไปต่อที่อำเภอดอกคำใต้ และภูกามยาว จึงมั่นใจว่าจะได้รับชัยชนะเช่นกัน ทั้งนี้ ในวันที่ 22 เมษายน ตนเองจะไปช่วยปราศรัยหาเสียงที่จังหวัดนครราชสีมา หลังจากนั้นจะกลับมาช่วยปราศรัยหาเสียงทางภาคเหนือ ทั้งเชียงใหม่ เชียงราย และพะเยา จึงขอฝากประชาชนทั้ง 77 จังหวัด ว่า วันที่ 14 พฤษภาคม นี้ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งเลือกผู้แทนของท่านไปเป็นปากเสียงแทนในสภาผู้แทนราษฎร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 เมษายน) พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 เบอร์ 6 จังหวัดพะเยา และในฐานะประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคเหนือ พร้อมด้วยนายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะกรรมการบริหารพรรค นายจีรเดช ศรีวิราช ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 เบอร์ 6 และนายอนุรัตน์ ตันบรรจง ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 เบอร์ 6 ได้ไปปราศรัยหาเสียงที่หอประชุมเทศบาลดอกคำใต้ ต.ดอนศรีชุม อำเภอดอกคำใต้ เวลา 09.00 น.-12.00 น. และปราศรัยหาเสียง ณ หอประชุมโรงเรียนดงเจนวิทยาคม อำเภอภูกามยาว จังหวัดพะเยา เวลา 13.00 น.- 16.00 น. ซึ่งมีประชาชนในพื้นที่มาให้กำลังใจและมารับฟังนโยบายของพรรคฯ เป็นจำนวนมาก