ผักกาดหอม
ชูแคมเปญเลือกตั้งใหม่ “หยุดระบอบประยุทธ์”
เดิมทีใช้คำว่า “หยุด ๓ ป.”
ถึงตอนนี้ หยุด ป.เดียว คือ “ป.ประยุทธ์”
ทิศทางพรรคเพื่อไทย จะเดินไปทางไหน ต้องตามดูให้ถูกคนครับ
เพราะโครงสร้างพรรคเพื่อไทย ไม่เหมือนพรรคการเมืองอื่น ลำดับชั้นค่อนข้างซับซ้อน คนที่มีอำนาจจริงๆ คือใคร จึงต้องคลี่ออกมาให้เห็นก่อน
ไม่งั้นเข้ารกเข้าพง
หมอชลน่าน ศรีแก้ว เป็นหัวหน้าพรรคก็จริง แต่ตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็คล้ายๆ ตำแหน่ง ผู้พิมพ์โฆษณา ของหนังสือพิมพ์แต่ละฉบับ
เป็นตำแหน่งติดคุกครับ
หัวหน้าพรรคการเมือง กรรมการบริหารพรรคการเมือง มีความรับผิดชอบต่อการกระทำของพรรค ฉะนั้น เวลาศาลสั่งยุบพรรค คนเหล่านี้จะถูกตัดสิทธิทางการเมืองไปด้วย
เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับพรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน
ทำไม หมอชลน่าน ถึงได้เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
ก็เพราะเหตุผลข้างต้นนี่แหละครับ
ฉะนั้น หมอชลน่าน ไม่ใช่ผู้กำหนดทิศทางพรรคเพื่อไทย
แล้วใครกำหนด?
กลุ่มคนใกล้ชิด “ทักษิณ ชินวัตร” คือผู้กำหนด
เห็น หมอชลน่าน ณัฐวุฒิ ปราศรัย ถล่ม ๓ ป. ไม่เผาผีเผด็จการ อย่าไปเชื่อว่านั่นคือทิศทางที่แท้จริงของพรรคเพื่อไทย
พูดเอามันบนเวทีปราศรัย เรียกเสียงกรี๊ดจากแม่ยก ก็เท่านั้น
ต้องดูคนแบบ “ภูมิธรรม เวชยชัย”
กลุ่มนี้ใกล้ชิด “ทักษิณ” มากที่สุด
ทิศทางพรรคเพื่อไทยต้องเริ่มจากตรงนี้
วานนี้ (๑๗ มีนาคม) เสี่ยอ้วน ภูมิธรรม โพสต์เฟซบุ๊ก ตั้งชื่อเรื่องว่า “การเลือกตั้งเชิงยุทธศาสตร์เพื่อไม่ให้คะแนนสูญเปล่า : ‘หยุดระบอบประยุทธ์’ “
คือการพุ่งเป้าไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่นเอง
เกมเปลี่ยน!
เนื้อหาในโพสต์ของภูมิธรรม ตามนี้ครับ…
….มีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออนาคตของพี่น้องประชาชนที่ต้องการหลีกให้พ้นจากความบอบช้ำในการบริหารประเทศของระบอบประยุทธ์
เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการใช้อำนาจของประชาชนเพื่อทำการเปลี่ยนแปลงหยุดระบอบประยุทธ์ซึ่งกัดเซาะ บั่นทำลาย ความหวังของประชาชน ด้วยการเลือกพรรคการเมือง อย่างพรรคเพื่อไทยให้เกิน ๓๑๐ เสียง
ทำไมต้องเลือกพรรคเพื่อไทย เพื่อหยุดระบอบประยุทธ์
เพราะพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนมาเป็นอันดับ ๑ ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งนับตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พลังประชาชน และเพื่อไทย เป็นเวลาเกือบ ๒๐ ปี
เพราะพรรคเพื่อไทยมีความพร้อมของบุคลากรทางการเมืองทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีซึ่งมีความพร้อมที่จะเข้ามาบริหารจัดการปัญหาทุกข์ร้อนของพี่น้องประชาชน และเชื่อมประสานได้กับทุกภาคส่วน
มีผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งมีทั้งผู้มีประสบการณ์ในด้านต่างๆ และคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีตัวแทนผู้สมัคร ส.ส.เขต ที่ถือเป็นด่านหน้าที่สำคัญในการเป็นสะพานเชื่อมประสานระหว่างพรรคกับพี่น้องประชาชนในแต่ละเขตพื้นที่ ซึ่งพรรคให้ความสำคัญและพิถีพิถันในการคัดเลือกคนที่ใช่ที่สุดในการเป็นผู้แทนเข้าไปทำงานรับใช้พี่น้องประชาชน…
ทำไมไม่หยุด “ระบอบ ๓ ป.”
ทำไมหยุดแค่ “ระบอบประยุทธ์”
ป.ประวิตร หายไปไหน
พรรคเพื่อไทยมีคนพร้อมแล้วอย่างนั้นหรือ
ถ้าพร้อมทำไมถึงยังลับลวงพราง รายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอยู่
มีคำถามมากมาย
เพราะพรรคเพื่อไทยอยู่ในความควบคุมของ “ทักษิณ” อย่างเบ็ดเสร็จนั่นเอง
การประกาศหยุดระบอบประยุทธ์ พรรคเพื่อไทยไม่ได้มีเป้าหมายที่การเลือกตั้ง แต่อยู่ที่การจัดตั้งรัฐบาลมากกว่า
สามารถนำไปอ้างกับประชาชนได้ว่า ไม่เอา “ประยุทธ์” ตามที่หาเสียงไว้จริงๆ
แต่ “ประวิตร” ไม่เกี่ยว เป็นแบบนั้นใช่หรือไม่
รู้หรือไม่ว่าการ หยุดระบอบทักษิณ ในปัจจุบันยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง
ทำไมถึงต้องหยุด
ก็เพราะประเทศฉิบหาย ล่าสุดอย่างที่เราเห็นกันแล้ว ทุจริตจำนำข้าวกันมโหฬาร ติดคุกกันระนาว หนีไปก็หลายคน
๘ ปี ระบอบประยุทธ์ ฉิบหายมากอย่างนั้นหรือ
เทียบกับ ๑๐ กว่าปี ระบอบทักษิณ ประเทศเข้าสู่ความขัดแย้ง เพราะคนโกงทั้งโคตร
มาวันนี้ระบอบทักษิณบอกว่า จะต้องล้มระบอบประยุทธ์
แล้วประเทศได้อะไร?
พรรคเพื่อไทยไปเปิดนโยบายพรรคที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต มีคำถามน่าสนใจจากผู้สื่อข่าวต่างประเทศ
ถาม “แพทองธาร ชินวัตร” ว่ามาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย กังวลหรือไม่ว่าจะเป็นการตอกย้ำภาพความเป็นพรรคของครอบครัวชินวัตร
แทนที่จะตอบคำถาม “อุ๊งอิ๊ง” ส่งไมโครโฟนให้ “เศรษฐา ทวีสิน” เป็นผู้ตอบคำถามแทน
“พรรคเพื่อไทยไม่ใช่ธุรกิจครอบครัว บุคลากรของพรรคเพื่อไทยล้วนแล้วเป็นผู้ที่ยอดเยี่ยมมีความรู้ความสามารถ”
ใช่หรือ?
การมาของ “อุ๊งอิ๊ง” สามารถหาเหตุผลอื่นมาอธิบายได้สมเหตุสมผลหรือเปล่า นอกจากเป็นลูกสาวของ “ทักษิณ”
มีนักการเมืองหญิงในพรรคเพื่อไทยมากมาย ที่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำพรรคได้ แต่ทำไมถึงไม่ได้ขึ้นมา
ระบบพรรคเพื่อไทย อย่างที่เห็น แทบจะไม่มีความเป็นประชาธิปไตยอยู่เลย เพราะอำนาจสั่งการสูงสุด ไม่ได้อยู่ที่หัวหน้าพรรค หรือกรรมการบริหารพรรค
แต่อยู่ที่ “ทักษิณ” และบุคคลใกล้ชิดเพียงไม่กี่คน
นั่นคือโครงสร้างของระบอบทักษิณ
ฉะนั้นก่อนจะหยุดระบอบประยุทธ์ ต้องไปดูว่าทำไมต้องล้มระบอบทักษิณ
“อุ๊งอิ๊ง” คือหนึ่งในกระบวนการสืบทอดอำนาจของระบอบทักษิณ
และการไปสู่จุดนั้น พรรคเพื่อไทยทำด้วยตัวเองไม่ได้
ถึงต้องแยก “ป.ป้อม” ออกจาก “ป.ประยุทธ์”
ไว้รอดูหลังเลือกตั้งครับ คนที่บอกกับประชาชนว่าต้องปิดสวิตช์ ส.ว. จะล็อบบี้ ส.ว.อย่างหนัก
ให้ ส.ว.เปิดสวิตช์ ลงคะแนนให้ตัวเอง
