เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2566 พรรคไทยภักดี นำโดย นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรค และ นายถาวร เสนเนียม ประธานพรรคไทยภักดี, พล.ต.ท. ชาญเทพ เสสะเวช เลขาธิการพรรคฯ, นายทินกร ปลอดภัย ผู้อำนวยการพรรค ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ คณาจารย์สถาบันทิศทางไทยพร้อมกรรมการบริหารพรรคฯ
เปิดเวทีปราศรัย “เมล็ดพันธุ์ใหม่ พรรคไทยภักดี” ซึ่งเป็นการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพมหานคร เพื่อลงรับเลือกตั้ง 2566 ภายใต้ชื่องาน “เสียงกรุงเทพฯ ปกป้องราชธานี” ซึ่งในครั้งนี้ได้เปิดตัวนายปราปต์ปฎล สุวรรณบาง นักแสดงชื่อดัง ที่เข้าร่วมกับพรรคไทยภักดีด้วย ท่ามกลางมวลชนมาร่วมแสดงความยินดี ที่ลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกรุงเทพฯ (เสาชิงช้า)
โดย นพ.วรงค์ ขึ้นเวทีปราศรัยแนวนโยบายต่างๆ อาทิ ราคาก๊าซหุงต้มปัจจุบันราคาถังละกว่า 400 บาท เหลือ 225 บาท, อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ราคาถูก เดือนละ 100 บาท รวมถึงนำนักโทษหนีคดีไปต่างประเทศกลับมาติดคุก ซึ่งรัฐบาลหลายชุดไม่จัดการปัญหา หลักการดูแลบ้านเมืองที่ดีคือยึดหลักกฎหมาย ถูกเป็นถูก ผิดเป็นผิด
“ไทยภักดีประกาศชัดว่ายึดมั่นนิติรัฐ นิติธรรม ความถูกต้อง เราจะเอานักโทษหนีคดีกลับมาดำเนินคดีในไทย ขอย้ำดังๆ ว่าจะเอาทักษิณ ยิ่งลักษณ์ที่หนีคดี เข้ามาติดคุกในไทย ผมได้คุยฝ่ายกฎหมายแล้ว ศึกษาแล้ว ไม่ยาก ไทยภักดีไม่กลัว ไม่โง่ ไม่โกง ฝากบอกยิ่งลักษณ์ ทักษิณว่าคนอย่างหมอวรงค์ไม่เคยกลัว เพราะมีสี จิ้นผิง เป็นไอดอล ขอให้ช่วยกันหักปากกาโพลที่ดูถูกไทยภักดี เชื่อว่าจะยึดกรุงเทพฯได้แน่นอน” นพ.วรงค์กล่าว
ด้านนายถาวร กล่าวว่า การทุจริตคอร์รัปชั่นที่เกิดขึ้นจากวงการการเมืองไทยตั้งแต่ปี 2549 เรื่อยมาจนกระทั่งโครงการรับจำนำ ตนต่อสู้กับคอรัปชั่นเหล่านี้มาทุกรูปแบบ สูญเสียเพื่อนร่วมอุดมการณ์ ทั้งเจ็บทั้งตายและถูกดำเนินคดีจนต้องไปนอนคุก ตนเข้าไปนอนอยู่ในนั้นเป็น 10 คืน ที่เขาบอกจะมีเอกสิทธิ์พิเศษ ตนขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เพราะพื้นที่ตนนอนก็คือพื้นคอนกรีต มีผ้าอยู่ 3 ผืนไม่แตกต่างกับนักโทษคนอื่น แต่ตนก็พร้อม เดินเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย ไม่เหมือนนักโทษหนีคดีบางคน ในวันที่ 21 มี.ค.ที่จะถึงนี้ ตนและพวกพ้องจะเดินยืดอกไปศาลอุทธรณ์ เพื่อฟังคำพิพากษา ไม่หนีแน่นอน
นายถาวร กล่าวต่อว่า การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่พี่น้องประชาชนคนไทยทั่วประเทศ สิ่งที่ตนปราศรัยมาตั้งแต่ต้นถึงการทุจริตคอรัปชั่นของนักการเมือง รวมไปถึงนักการเมืองทุกวันนี้มีนักธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้องหรือที่เรียกว่าทุนสามานย์ ทุนผูกขาดที่มองนักการเมืองเป็นหมาที่เลี้ยงไว้ ที่เชื่องและซื่อสัตย์กับพวกมัน
“ผมอาจจะเปรียบเทียบรุนแรงเกินไปหน่อย แต่ขอถามเลยว่ามีพรรคการเมืองไหนบ้างที่ไม่รับเงินจากทุนสามานย์ ทุนผูกขาด ผมเชื่อว่ามีน้อยมาก แต่ที่พิสูจน์ได้ก็คือพรรคไทยภักดี ที่ไม่รับทุนจากใคร ไม่ว่าจะเป็นทุนชั่วหรือทุนทุจริต
ด้านนายปราปต์ปฎล ที่ขึ้นเวทีปราศรัยเป็นครั้งแรก ระบุว่า ตนทำงานจิตอาสามาโดยตลอด ซึ่งครั้งนี้เป็นการเมืองเป็นงานจิตอาสาเพื่อประเทศชาติที่ใหญ่ขึ้นมาก ถึงแม้จะต้องสู้กับข้าราชการที่มีอำนาจในมือ แต่ตนก็ไม่หวั่น เพราะต้องการบรรเทาความทุกข์ร้อนของพี่น้องประชาชนที่ถูกเหยียบย่ำจากข้าราชการขี้โกง ในวันข้างหน้าถ้าท่านเจอใครมาฉ้อโกงท่านเมื่อไหร่ขอให้บอกตนและพรรคไทยภักดี การปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นคือ วาทกรรมที่อยู่ในสังคมไทยมายาวนาน แต่ไม่เคยมีใครทำได้จริง แต่สำหรับครั้งนี้ ตนขอประกาศว่า จะขุดคุ้ยพวกที่โกงชาติ เพราะตนมั่นใจในความขาวสะอาดและบริสุทธิ์ของตัวเอง
“เมื่อผมเสนอตัวเข้ามาทำงานตรงนี้ ต้องการที่จะถูกขุดคุ้ย การต่อสู้ของตนที่ผ่านมาไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อต้องการให้กำลังใจกับทุกคนที่ถูกข้าราลการเอาเปรียบ ต้องอย่ายอมก้มหน้ารับกรรมที่ตัวเองไม่ได้ก่อ หลายคนบอกว่า ผมกล้าหาญผิดที่ แต่ผมถือว่าตายเป็นตาย แต่จากนี้ไปผมจะไม่สู้อย่างโดดเดี่ยวอีกแล้ว เพราะมีพี่น้องพรรคไทยภักดีที่จะร่วมปราบคนโกงไปด้วยกัน”