คลิกฟังบทความ..?
เปลว สีเงิน
“ลุงตู่” กับ “หมอหนู” นี่ เหมือน “หยิน-หยาง”
ลุงตู่เป็น “พลังหยาง” ตัวแทน “พลังสุริยัน” จะร้อน
หมอหนู หรือ “คุณอนุทิน ชาญวีระกูล” เป็น”พลังหยิน”
ตัวแทน “พลังจันทรา” จะเย็น
“ร้อน-เย็น” คือ “พลังจักรวาล” ที่ต้องอยู่ด้วยกันในเชิงกอบเกื้อ เมื่อพลังทั้งสองรวมกัน ใน “ลัทธิเต๋า” บอกว่า
จะทำให้ “จักรวาลเกิดความสมดุล”
และความสมดุลนั้น…..
จะทำให้เกิดพลานุภาพเป็น “พลังจักรวาล” เกินต้าน!
ผมดูปฎิกริยาสนองตอบเกม “ตีหัวเข้าบ้าน” ของฝ่ายค้านจากนายกฯ และรองนายกฯ สองท่านนี้ ให้ความรู้สึกอย่างนั้น
นายกฯ จะตอบโต้ฝ่ายค้านด้วยเพลงกระบี่เร่าร้อน-รุนแรง อย่างประเด็นฝ่ายค้านว่ารัฐบาลกุ๊กกิ๊กตู้ห่าว
แค่นายกฯ ตวัดกระบี่ในอากาศ…..
รัฐบาลนี้ ไม่มี “ขายบ้านแถมสัญชาติ”
แค่นั้นก็ “ทะลุหัวใจ” ใครก็ไม่รู้ จนร้องโอ้กอ้าก..อิ่มเอม..อุ๊งอิ๊ง แล้วหงายท้อง ล้มตึงไปตามๆ กัน!
ส่วนรองนายกฯอนุทิน…..
ใช้เพลง “กระบี่เย็น” เข้ารับความกร้านกร้าวฝ่ายค้าน นุ่มนวล แต่หยุ่นเหนียว ศัตรูตายทั้งอยู่ในรอยยิ้ม!
เพียงรองฯ อนุทิน นิ่มๆ เนิบๆ กับการอภิปรายฝ่ายค้านว่า “พูดมา ๒ วัน มีแต่ข้อกล่าวหา ด้วยใช้คำนำหน้า เข้าใจว่า…น่าจะเป็นว่า…”
“เวิร์บ ทู เดา” ทั้งนั้น ไม่มี “เวิร์บ ทู บี” เลย!
เย็น แต่ยะเยียบถึงไขกระดูก ผมว่านะ ความจริง “เวิร์บ ทู บี” ก็มี แต่รองฯ อนุทินคงเลี่ยงกล่าวถึง ด้วยยั้งกระบี่ไว้ไมตรี
เช่น my dad is โกง นั่นไง “เวิร์บ ทู บี” ชัดๆ!!!
ในรายการ “ด่าฟรี” รัฐบาลส่งท้ายสภา เท่าที่สังเกต ในร้อยประเด็นที่เพื่อไทยจกจากไหปลาร้าขึ้นมาสาดใส่นายกฯ
มีประเด็นเดียว-เรื่องเดียวที่ “เพื่อไทย” เงียบกริ๊บ!?
คือเรื่อง “ตู้ห่าว”
“ชูวิทย์” คงรู้ ว่า “เพื่อไทย” ไม่กล้าอภิปรายลากไส้ตัวเอง
จึงเอาข้อมูลไปให้ “สส.โรม-ก้าวไกล” ฉายเป็นซีรีย์เป็นที่ซี๊ดซ๊าดกันทั้งเมือง
ผมเงี๊ยะ…ลุ้นตัวโก่ง
ลุ้นด้วยกลัว “เพื่อไทย” จะเจ็บร้อนแทนรัฐบาลว่า “เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง กลับถูกสส.โรมเอากระดูกมาแขวนคอให้”
แล้วยกมือประท้วง ให้สส.โรม “หยุดป้ายขี้” ใส่นายกฯ
แต่ขอชม “ทั้งคอก”……..
พะอืด-พะอมฟัง ชนิด “กลืนไม่เข้า-คายไม่ออก” ได้ดี ปล่อยให้สส.โรม “เพื่อนเรา-เผาเรือนกู” จัดหนัก-จัดเต็ม (กบาลพรรคกู) ไปจนจบครบทุกตอน
รุ่งขึ้น คือเมื่อวาน (๑๖ กพ.) นายกฯ ในมาดกระดูกแขวนเต็มคอ ก็มาตอบ ประกอบสไลด์ ไฮเทค ๓ ชิ้น
ชิ้นแรกเป็นอิโมจิเรียงกัน ๒ ตัว…..
แทน ๒ นายกฯ ในอดีตและรูปนายกฯ ประยุทธ์ เป็นรูปที่ ๓ มีคำสั้นๆอยู่ใต้แต่ละรูป
ตัวแรกมีคำว่า “รัฐมนตรี ติดคุก ๕ คน” ตัวที่สอง “ติดคุก ๓ คน” และใต้รูปนายกฯ ตู่ มีคำว่า “ติดคุก 0 คน”
อีกสไลด์แสนจะเจ็บจี๊ด……..
พรรคเพื่อไทย
“เรื่องคอร์รัปชัน”
ยังจะกล้าพูดอีกเหรอ?
รัฐมนตรีก็มีปัญหาเรื่องคอร์รัปชัน มีรัฐมนตรีติดคุกตั้งหลายคน บางคนไปต่างประเทศ
อีกสไลด์ สั้นแต่แสบ…เพื่อไทยเห็นแล้ว ถ้าด่าได้ คงด่าในใจ
“ไอ้โรมนะ..ไอ้โรม มึงจวกเขา แต่มาเข้าหน้าแงหัวหน้าครอบครัวใหญ่พรรคกูเต็มตีนเลยนะโว้ย”
ข้อความในสไลด์ที่ “สุดติ่งกระดิ่งแมว” ….ก็นี่ไง
รัฐบาลนี้ไม่มี
“ขายบ้านแถมสัญชาติ”
แล้วนายกฯ ก็สวด “ฝังกลบ” ส่งท้าย
“กรณีตู้ห่าว พฤติกรรมเกิดขึ้นมาก่อนปี ๕๗ โดยเข้ามาในประเทศปี ๕๔ และมีการอนุญาตเรื่องสัญชาติ
พฤติกรรมเหล่านี้ ทราบในวันนี้หรือ ผมไม่แน่ใจ ว่าที่ผ่านมาไม่มีใครทราบเลยหรือไม่
ผมได้ให้ตรวจสอบย้อนหลังว่า เงินเหล่านี้ใช้กันอย่างไร เมื่อไหร่
“ทราบว่าใช้ซื้อกิจการอสังหาริมทรัพย์ยกหมู่บ้าน ไม่ทราบว่าบริษัทของใคร
สำหรับรัฐบาลนี้ ไม่มีแน่นอน “ขายบ้านแล้วแถมสัญชาติ”
ถ้าตรวจสอบให้ดีจะทราบว่าภรรยานายตู้ห่าวมีความเกี่ยวข้องกับอดีตรัฐมนตรีของบางพรรคการเมือง”….ฯลฯ…
“พลเอกอนุพงศ์ เผ่าจินดา” รมว.มหาดไทย มาขยายเชิงอรรถ กรณีให้ “สัญชาติไทย” แก่นายตู้ห่าว ต่อว่า….
“นายตู้ห่าวได้ร้องขอแปลงสัญชาติในกรณีเป็นสามีของ “พ.ต.อ.หญิง วันทนารีย์” ซึ่งเป็นคนไทย
โดยยื่นคำขอเมื่อ ๓ ส.ค.๕๔ ต่อกองบัญชาการตำรวจสันติบาล ต่อมา ๑๘ มิย.๕๖ คณะกรรมการกลั่นกรองฯได้ตรวจสอบ
และ “นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ” รมว.มหาดไทย (ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์) ได้อนุญาต
จึงเหลือเพียงขั้นตอนรัฐมนตรีลงนามในประกาศกระทรวง เพื่อลงประกาศในราชกิอจจานุเบกษาเท่านั้น ที่พลเอกอนุพงษ์ลงนามเมื่อ ๖ พย.๕๗
ก็ถึงบางอ้อ….
เหตุที่พรรคเพื่อไทยไม่แตะเรื่องตู้ห่าว เพราะตู้ห่าวมันเป็นไข่ที่ฟักเป็นตัวโดยรัฐมนตรี “พรรคเพื่อไทย” ตั้งแต่สมัยยิ่งลักษณ์นั่นเอง
ผมความจำเลอะเลือน ขออาศัยข้อมูลจากเพจ The METTAD ที่โพสต์ไว้เมื่อปลายปี ๖๕ ละกัน
-2551 “ตู้ห่าว” ได้เวิร์กเพอร์มิต เข้ามาทำงานในไทย
– 3 สค.54 ตู้ห่าว เดิมสัญชาติจีน ชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านพื้นที่แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร ยื่นขอแปลงสัญชาติเป็นไทยกับสันติบาลตามกฎหมายว่าด้วยสัญชาติ กรณีเป็นสามีของบุคคลสัญชาติไทย (พ.ต.อ.วัทนารีย์)
-2555 ตู้ห่าวกับภรรยาถูกคนร้าย “คดีเผาสวนงู” จ.ภูเก็ต ซัดทอดว่า เป็นผู้จ้างวาน-พยายามฆ่า
– 18 มิย.56 นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดฯ มหาดไทย ระหว่าง 1 ต.ค.55-30 ก.ย.58 เป็นประธาน เสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองเกี่ยวกับสัญชาติ
– นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย เป็นผู้พิจารณาอนุญาตให้แปลงสัญชาติเป็นไทย
-เมียตู้ห่าวเป็นหลาน “พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก” ดังนั้น “ตู้ห่าว” จึงมีศักดิ์เป็นหลานเขย
– พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เป็นอดีตรองนายกฯ และ อดีตรมว.ยุติธรรม ในสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
– พบแกนนำเพื่อไทย รมต., บิ๊กตำรวจ ร่วมงานกับตู้ห่าว แน่นแฟ้น รวมถึง “ธรรมนัส” ที่ตอนนั้นยังอยู่กับเพื่อไทย
– บริษัท เอฟเวอร์ ยูเนียน ธุรกิจให้เช่าอสังหาฯ ร้านค้าปลอดอากร ใน จ.ภูเก็ต ปรากฏชื่อ “นางนุดีพร เพชรพนมพร”(บุตรสาวพล.ต.อ.ประชาเป็นภรรยานายศาวุธ เพชรพนมพร ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย) ถือหุ้นลำดับ 2 ตั้งแต่ปี 57
– ตู้ห่าว เปลี่ยนชื่อเป็น “ชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์”
– ธ.ค.60 อัยการมีหนังสือชี้แจงสั่งไม่ฟ้อง 2 สามีภรรยา ในคดีเผาสวนงู และถือว่าคดีถึงที่สุด
– 2563 ตระกูลชินวัตร ขาย “มหาวิทยาลัยชินวัตร” ให้ทุนจีน ส่วนตึกมหาวิทยาลัยเดิม ปล่อยเช่าให้แก๊งมังกรจีนของ “เส้า เสี่ยวปอ”
ตัดเอาเฉพาะส่วน “กำเนิดตู้ห่าว” เป็นไทย ให้รู้ว่ามาจากคนพรรคไหนพอเป็นสังเขป
แต่ประเด็นเด็ด รัฐบาลนี้ไม่มี “ขายบ้านแถมสัญชาติ” อันสุดแสบนี่ซี มันมายังไงกัน จากข่าวนี้ มีคำตอบ…
“29 พ.ย.65 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร.และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล สนธิกำลังตำรวจ บช.สอท.,ตำรวจคอมมานโด,ตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง
เข้าปิดล้อมตรวจค้นหมู่บ้านหรูย่านซอยลาซาล หลังสืบพบ ว่า “กลุ่มทุนจีน” ใช้หมู่บ้านดังกล่าวเป็นที่พักอาศัย
หมู่บ้านที่กำลังตำรวจนำหมายศาลเข้าตรวจค้น คือ หมู่บ้าน “แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด” สุขุมวิท ซอยแบริ่ง-ลาซาล เป็นโครงการบ้านหรู ราคาหลังละกว่า 50 ล้านบาท ทั้งหมู่บ้าน มีบ้านทั้งหมด 66 หลัง เฉลี่ยราคาหลังละ 35-60 ล้านบาท
ตำรวจพบว่า คนจีนใช้เงินสดซื้อบ้านหรูถึง 50 หลัง ที่เหลือ 16 หลัง มีเจ้าของเป็นคนไทย
แต่ทยอยขายบ้านที่อยู่ติดกับชาวจีนเหล่านี้ เพราะทนพฤติกรรมของเจ้าของบ้านชาวจีนที่ดำเนินมาตั้งแต่ปี 2563 ไม่ไหว
“สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ระบุ….
เจ้าของบ้านชาวไทยบอก กลุ่มคนจีนซึ่งพบว่ามีความเชื่อมโยงกับผับ “จินหลิง” ชอบเข้ามามั่วสุมเล่นไพ่ จัดงานเลี้ยงสังสรรค์เสียงดังในเวลากลางคืน
น่าอิจฉา จนอยากรู้ ใครนะเจ้าของ “แกรนด์ บางกอก บลูเลอวาร์ด” ที่จีนเทาใช้เงินสด ๓,๐๐๐-๕,๐๐๐ ล้านบาทซื้อชนิด “ยกโครงการ”
ข้อมูลสาธารณะมีว่า…….
“แกรนด์ บางกอก บลูเลอวาร์ด” สุขุมวิท เจ้าของโครงการ คือ SC Asset
รายชื่อผู้ถือหุ้น SC Asset อันดับ ๑ คือ “นางสาวแพทองธาร ชินวัตร” นั่นเอง!
ฉะนั้น ก็…..
เอาอีก..เอาอีก ท่านโรมขา แฉอีก หนูชอบ!
เปลว สีเงิน
๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖