นายกฯ ติดตามการบริหารจัดการน้ำ การแก้ไขปัญหาอุทกภัยพื้นที่ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี

นายกฯ ติดตามการบริหารจัดการน้ำ การแก้ไขปัญหาอุทกภัยพื้นที่ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี และปัญหาที่ดินทำกิน ยืนยันรัฐบาลสร้างความเท่าเทียม สร้างโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงอย่างเป็นธรรม

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 16.00 น. ณ ศาลาประชาคม ที่ว่าการอำเภอไชยา เขตเทศาลตำบลตลาดไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำ การแก้ไขปัญหาอุทกภัยพื้นที่อำเภอไชยา และปัญหาที่ดินทำกิน โดยนายกรัฐมนตรีรับฟังรายงานสรุปโครงการบรรเทาอุทกภัยและบริหารจัดการน้ำพื้นที่อำเภอไชยา และเป็นประธานสักขีพยานการมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตที่ดิน (ส.ป.ก.4-01) ให้เกษตรกรรวม 77 ราย จำนวน 116 แปลง จำนวนเนื้อที่ 398-3-50 ไร่ ดังนี้

1. อำเภอไชยา เขตปฏิรูปที่ดินโครงการป่าชนะ จำนวน 17 ราย 20 แปลง จำนวนเนื้อที่ 301-2-10 ไร่ 2. อำเภอชัยบุรี เขตปฏิรูปที่ดินโครงการป่าใสท้อนและป่าคลองโซง จำนวน 60 ราย 96 แปลง จำนวนเนื้อที่ 397-1-40 ไร่

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวพบปะกับประชาชนว่า ยินดีที่ได้มาเยี่ยมเยียนอีกครั้งหนึ่ง ถือเป็นครั้งที่ 6 ที่ได้เดินทางมาลงพื้นที่ ได้เห็นถึงการพัฒนาและปัญหาอุปสรรคที่จำเป็นต้องแก้ไขเพื่อให้ประชาชนชาวสุราษฎร์ธานีมีความสุข ซึ่งสุราษฎร์ธานีเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการเกษตร การประมง รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวที่มีวัฒนธรรม ขอให้ชาวสุราษฎร์ธานีภูมิใจความเป็นสุราษฎร์ธานีและความเป็นไทย ดีใจที่เห็นรอยยิ้ม เห็นความหวังของพี่น้องประชาชน

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า ในอนาคตประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ต้องเตรียมรับมือสถานการณ์ รวมถึงการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ โดยเฉพาะปัญหายาเสพติด ทุกหน่วยงานต้องบูรณาการแก้ไขปัญหาร่วมกัน พร้อมกับฝากถึงเยาวชนคนรุ่นใหม่อย่าริเริ่มลองยาเสพติด เพราะเป็นสิ่งที่ไม่ดีทำร้ายอนาคต ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมารัฐบาลมีความตั้งใจแก้ไขปัญหา ปราบปราม รวมถึงบำบัดผู้เสพยาเสพติดอย่างจริงจังแต่ยังมีปัญหาอยู่ ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยและเป็นกังวลกับปัญหาเรื่องดังกล่าว จึงมอบหมายให้ส่วนท้องถิ่น ฝ่ายความมั่นคง ทำงานร่วมกับสาธารณสุขแบบบูรณาการ เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน

นายกรัฐมนตรีฝากให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนแปลงการทำเกษตรให้เป็นเกษตรสมัยใหม่ คำนึงถึงความต้องการของตลาดเป็นหลัก เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ เกิดการรวมกลุ่มเป็นเกษตรแปลงใหญ่ สร้างอำนาจในการต่อรองราคา รวมถึงแปรรูปผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่า ส่วนเรื่องปัญหาการขาดแคลนที่ดินทำกิน นายกรัฐมนตรีย้ำว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลให้ความสำคัญ แก้ไขปัญหามาตลอด เพื่อให้ประชาชนมีที่ดินทำกิน สร้างอาชีพสร้างรายได้เลี้ยงดูตัวเองและครอบครัว รวมถึงการแก้ไขปัญหาพื้นที่ทับซ้อนของที่ดินให้เกิดความชัดเจนอย่างเป็นรูปธรรม

ส่วนการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม จะต้องคำนึงถึงภาพรวม ไม่ว่าจะเป็นการระบายน้ำ การกักเก็บน้ำ การทำแก้มลิง ซึ่งการดำเนินการต่าง ๆ เหล่านี้จำเป็นต้องใช้งบประมาณ ที่ผ่านมารัฐบาลได้สนับสนุนงบประมาณดำเนินโครงการเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด หลายอย่างสามารถทำได้แล้ว อีกหลายอย่างยังเกิดปัญหาต้องแก้ไขต่อไป ทั้งนี้ ต้องปรับความคิดเห็นให้ตรงกัน เพื่อให้สามารถดำเนินการได้ต่อไปเพื่อประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ทั้งทางตรงและทางอ้อมทุกอย่าง

นายกรัฐมนตรียืนยันจะต้องสร้างความเท่าเทียมสร้างโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงอย่างเป็นธรรม คนไทยทุกคนต้องรักกัน แบ่งปันกัน เพราะทุกคนคือคนไทย มีชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์เป็นสถาบันหลัก สำหรับตัวนายกรัฐมนตรีเองมีประชาชนเป็นที่รัก ตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนและเพื่อประเทศชาติ ทุกคนต้องร่วมมือกัน อย่าทะเลาะ สร้างความขัดแย้งขึ้นมาในสังคม ทุกอย่างจะต้องเดินหน้าต่อไป


Written By
More from pp
จิตใจของคนผมบางและศีรษะล้าน
โดย นพ.ก้องเกียรติ ลออวงศ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผม โรคผมบางจากพันธุกรรมของฮอร์โมน เป็นโรคที่พบบ่อยมากในผู้ชายพบได้ประมาณ 75 เปอร์เซ็นต์และผู้หญิงพบได้ 50 เปอร์เซ็นต์ โรคนี้ส่งผลกระทบต่อจิตใจของคนผมบางและศีรษะล้าน ซึ่งมีข้อมูลบางอย่างถึง 21...
Read More
0 replies on “นายกฯ ติดตามการบริหารจัดการน้ำ การแก้ไขปัญหาอุทกภัยพื้นที่ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี”