นาย สามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ได้อัดคลิปวิดีโอ สื่อสารกับพ่อแม่พี่น้องประชาชน ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวใจความว่า
สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศครับ วันนี้ผม นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ก็จะออกมาสื่อสารกับพวกเราในรายการ สามารถ 5 นาทีผ่านช่องทางเฟซบุ๊กของ สามารถ เจนชัยจิตรวนิช
ต้องขอบคุณพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่ติดตาม และ กดไลท์ผมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บางคลิปนี่แชร์เป็นล้านวิว สิ่งที่จะมาสื่อสารวันนี้เพราะผมก็คิดอยู่หลายวันครับว่าจะพูดดีไหม เพราะว่ามีคนอินบ็อกมาหาผมจำนวนมากบอกว่าอยากให้ผมพูดเรื่องนี้หน่อย
ในเรื่องของน้องแบม กับน้องตะวัน ในเรื่องของการประท้วงและก็ไม่ทานอาหารไม่ทานน้ำนะครับ ซึ่งก็ต้องยอมรับหัวใจครับ น้องทั้งสองคนนั้นหัวใจที่เข้มแข็ง น้องอาจจะสื่อสารหรือได้รับข้อมูลในสิ่งที่ไม่ถูก น้องถึงมีความเชื่อแบบนั้น
อย่างแรกต้องยอมรับหัวใจน้องที่กล้าหาญ แต่เหนือสิ่งอื่นใดที่ผมอยากจะพูดก็คือ เราปล่อยให้ข้อมูลเท็จนั้นเข้ามามากมายจนทำให้เกิดความเชื่อผิดๆนี่มันเกิดขึ้น สาระสำคัญที่สุดที่วันนี้สื่อสารกับออกไปมันมีคนหวังผลทางการเมืองเรื่องนี้ครับ มีคนหวังผลให้เกิดหารเปลี่ยนแปลงในเรื่องนี้ครับ
เราในฐานะประชาชนคนไทยทั้งประเทศซึ่งเป็นคนหมู่มาก และมีความรักสถาบันพระมหากษัตริย์มีความรักบ้านรักเมือง ผมคิดว่าควรจะต้องออกมาสื่อสาร การที่น้องทั้งสองคนนั้นมีการประท้วงอดอาหารเนื่องจากนะครับ มีเพื่อนร่วมอุดมการณ์ในการที่โดนข้อหาคดี ม.112 นั้นยังติดอยู่ในเรือนจำจำนวนมาก
แต่สิ่งสำคัญที่สุดผมอยากจะพูดก็คือการกระทำความผิดหมายในเรื่องของ ม.112 นั้นไม่ใช่ว่าใครก็อยู่ฟ้อง ม.112 ได้ครับไม่ใช่ใครก็อยู่ๆจะแจ้งความ ม.112 ได้ครับมันต้องมีข้อเท็จจริงว่ามีการดูหมิ่นพระองค์ท่าน มีการอาฆาตมาตร้ายหรือไม่นะครับ เพราะว่าใน ม.112 มันจะไปลิ้งค์กับรัฐธรรมนูญซึ่งรัฐธรรมนูญนั้นเป็นกฎหมายสูงสุดประเทศ
ในรัฐธรรมนูญฉับบล่าสุดคือฉบับปี2560 นี่ก็วางหลักไว้ใน ม.6 ว่าองค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ทางใดๆก็ไม่ได้ครับ
ฉะนั้นในรัฐธรรมนูญวางหลักไว้ชัดเจนว่าใครจะฟ้องพระมหากษัตริย์ไม่ได้ คราวนี้ถ้ามีการยกเลิก ม.112 จะเป็นการขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ขัดแน่นอนครับ สาระสำคัญที่สุดผมพูดว่าถ้าตราบใดว่ากฎหมายบัญญัติว่าเป็นความผิด ก็เกิดความผิดเกิดขึ้น คราวนี้ก็เกิดแนวความคิดว่าแล้วศาลหล่ะต้องอธิบายให้เห็นอย่างงี้ว่า
พระมหากษัตริย์ทรงอยู่เหนือการเมืองพระองค์ท่านไม่ได้เล่นการเมืองเรามีรัฐธรรมนูญฉบับแรกในวันที่ 10 ธ.ค. 2475 ก็วางหลักไว้ชัดเจนครับ ว่าผู้ใดจะฟ้องร้องพระมหากษัตริย์มิได้ เฉกเช่นเดียวกับครับตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงก่รปกครองมาจนเป็นระบบประชาธิปไตยนั้น
จากสมบูรณาญาสิทธิ์ราชเป็นประชาธิปไตยก็วางหลักไว้ชัดเจนว่าใครจะฟ้องร้องพระมหากษัตริย์มิได้ อำนาจการบริหารราชการแผ่นดินนั้นพระมหากษัตริย์ทรงให้อำนาจเป็น 3 อำนาจ ซึ่งเป็น 3 อำนาจที่แยกอิสระจากกันก็คือ อำนาจบริหาร นิติบัญญัติ และ ตุลาการ อำนาจบริหารก็คือผ่านทางนายกรัฐมนตรี ผ่านทางข้าราชการ กลไกกระทรวง กรมต่างๆ
ไม่เกิน 7 พ.ค. ปีนี้เราก็จะมีการเลือกตั้งอยู่แล้วนะครับ ฉะนั้นการเลือกตั้งก็คือการเลือกผู้นำ เพื่อฝ่ายบริหาร อำนาจนิติบัญญัติก็คือ ส.ส. และ ส.ว. ในการออกกฎหมาย และอำนาจตุลาการซึ่งเป็นการตัดสินคดีความต่างๆ การประกันตัวทุกคนมีสิทธิประกันตัวตามรัฐธรรมนูญครับ ทุกคนมีสิทธิประกันตัว ถือว่าเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน แต่การจะให้ประกันตัวหรือไม่นั้นอยู่ที่ศาลครับ
ศาลเป็นองค์กรอิสระศาลก็จะมองว่าพฤติกรรมของเหตุความร้ายแรงมันสมควรให้ประกันหรือไม่ กรณีของน้องสองคนนั้นเป็นการขอร้องให้เพิกถอนตัวเองนะครับ ศาลก็ไตร่สวนเพิกถอนตามคำร้องของน้องทั้งสองคน
ซึ่งวันนี้เองมีคนที่หวังผลทางการเมือง พยายามจะเอาเรื่องนี้มามาหยิบยกเป็นประเด็นทำให้เกิดความสั่นคลอน ซึ่งผมเองไม่เห็นด้วยครับในการที่จะแก้ ม.112 เพราะพระมหากษัตริย์ทรงอยู่เหนือการเมืองใครจะมาหมิ่นพระองค์ท่านทำไม ถ้าไม่หมิ่นก็ไม่มีความผิด ถ้าไม่พูดถึงพระองค์ท่านก็ไม่ทมีความผิด อย่าดึงฟ้าลงต่ำครับ
สิ่งสำคัญที่สุดผมบอกว่า พระมหากษัตริย์ทรงเป็นที่เคารพสักการะของคนไทยทั้งประเทศ ฉะนั้นเราอย่าปล่อยให้ใครมาดูหมิ่น หรือว่าโจมตีให้ร้ายได้ ถ้ามีการแก้ ม.112 ผมว่าสุดท้ายสถาบันก็จะต้องถูกฟ้องร้องขี้นโรงขึ้นศาล ผมคิดว่ามันไม่สมควรครับ เรื่องนี้อยากฝากพ่อแม่พี่น้องคนไทยทั้งประเทศช่วยกันสื่อสารข้อมูลออกไปด้วยครับขอบคุณครับ
