กลับมาทวงบัลลังค์รายการวาไรตี้ทอล์คอันดับ1ของประเทศไทย “คนดังนั่งเคลียร์” ทางช่อง 8 ออกอากาศวันแรกจะธรรมดาได้อย่างไร เพราะได้แขกรับเชิญสุดพิเศษ ท่าน “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มาเคลียร์ดรามาครั้งแรกกับปมพรรคภูมิใจไทย ดูดส.ส.ดังหลายท่านมาร่วมพรรค หรือเตรียมขึ้นแท่นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30
พร้อมถกประเด็นร้อนคิดไม่ตกของคนไทยกับนโยบายกัญชาเสรีดีจริง หรือมอมเมาคนกันแน่ ดำเนินรายการอาจารย์ “ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์” เคลียร์แรงสุด ชัดสุด การันตีรสชาติ โดยพิธีกรฝีปากกล้าคนเดิม
เขาลือกันว่าท่านกำลังจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ท่านรู้สึกอย่างไรบ้าง?
อาจารย์อย่าเพิ่งสาปแช่งผมเลยครับ ผมคิดว่าการมาทำงานให้กับพี่น้องประชาชน จากการที่เราเคยมีชีวิตที่ผ่านภาคเอกชนมาแล้วนะครับ การที่มาทำงานให้กับพี่น้องประชาชน เราก็สามารถทุ่มเททำได้อย่างเต็มที่ ส่วนจะเป็นอะไรนั้น ก็แล้วแต่ประชาชนเป็นคนตัดสินใจให้ เพราะว่าความเป็นนักการเมืองเนี่ย เราไม่สามารถกำหนดอะไรต่อตำแหน่งหน้าที่ หรือต่ออนาคตของเราได้ เพราะเราต้องมาจากการเลือกตั้งของพี่น้องประชาชน สิ่งที่เราควรจะทำก็คือว่า เราต้องทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด กับสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้มากที่สุดนะครับ ส่วนผู้ที่ จะตัดสินใจจะให้เราทำสิ่งใด ก็ต้องเป็นประชาชนเท่านั้นครับ
ในฐานะที่ท่านเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เขาลือกันพรรคท่านตอนนี้ ตั้งเครื่องสูบน้ำใหญ่โตดูดแต่ ส.ส.พรรคอื่นๆ เขามาเพราะความภาคภูมิใจในตัวพรรคท่าน หรือมาเพราะเงิน?
คือในสมัยก่อนอาจจะมีพรรคการเมืองที่มีลักษณะทุนหนา หรือมีนายทุนตั้งขึ้นมาโดยลักษณะเฉพาะกิจ อาจจะมีสิ่งล่อใจ เพื่อหาสมาชิกให้ได้มาที่สุด แต่พรรคภูมิใจไทย ต้องกราบเรียนท่านผู้ชม อ.ยิ่งศักดิ์ว่า เราอายุ 15 ปีแล้วนะครับ เราไม่ใช่พรรคที่ตั้งขึ้นมาเมื่อวานนี้ และจะต้องเร่งหาสมาชิกให้มากที่สุด ภายในระยะเวลาอันสั้น คิดว่าในอดีตที่ผ่านมาพรรคภูมิใจไทยก็ได้ทำหน้าที่รับใช้ประชาชนอย่างเต็มที่ ในเรื่องของการดูดอะไร คงเป็นการพูดในลักษณะที่ทำให้เกิดความปังของประเด็นมากกว่า เพราะในนักข่าวหรือทางสื่อเวลาใครในพรรคไปไหน มาไหนเนี่ย เขาจะใช้คำว่าดูด จริงๆแล้วแรงดูด มันอาจจะเกิดจากเราทำสิ่งที่ดี พลวัตใช่ไหม เช่นเราทำอะไรที่เป็นประโยชน์มากๆ มันก็จะมีพลังเยอะ หมุนด้วยความแรงเร่งต่างๆ มันก็จะเกิดแรงดึงดูดเข้ามา ถ้าเรามองแบบนี้ก็สบายใจหน่อย คนที่มาอยู่กับเรา แสดงว่าเขาก็เห็นว่าเราทำสิ่งที่ดี ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ เขาถึงยอมมาร่วมเป็นสมาชิกคนหนึ่งในหน่วยงานของเราครับ
ไม่กลัวลุงตู่ ลุงป้อม เขาจะโกรธ ที่เราไปตัดแข้ง ตัดขาเขามาหรือเปล่า?
ผมยืนยันได้ครับว่า พรรคภูมิใจไทย ไม่ใช่ว่าเที่ยวจะไปเดินหาคนนั้นคนนี้ และชวนมาอยู่กับพรรคไหม สมาชิกพรรคไหม มาเป็นส.ส.ของพรรคไหม พรรคจะดูแลอย่างนั้นอย่างนี้เราไม่เคยทำเช่นนั้นครับ เราใช้นโยบายของเราขับเคลื่อนในการทำงานของเราครับ อย่างที่เรียนสิ่งที่พรรคภูมิใจไทยได้ปฏิบัติมาโดยตลอด เราจะไม่คิดนโยบายที่มันสลับซับซ้อน ยากที่จะประสบความสำเร็จ เราคิดนโยบายพื้นๆ แต่มีผลกระทบที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ต่อประเทศ ต่อประชาชน ซึ่งเราก็ทำให้เห็นแล้ว เราจะกำหนดนโยบายต่างๆที่เรากระทำได้ ในความเป็นพรรคภูมิใจไทย ก็ต้องยอมรับ เรามีเสียงขนาดนี้ การที่เราจะขอให้พรรคร่วมรัฐบาล ท่านนายกรัฐมนตรีได้สนับสนุน สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน โดยการนำเสนอของพรรค ท่านก็จะให้ความสำคัญ ขอให้ท่านนายกรัฐมนตรีให้ความสนับสนุน นี่ก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งแรงที่คนอยากจะมาร่วมกิจกรรมทางการเมืองกับเรา
ผลงานชิ้นโบว์แดงของท่านนโยบายกัญชาเสรี ถ้ามันดีจริง คนจะมาบ่นกันเหรอคะ?
คนที่มาบ่น คือคนที่เสียประโยชน์ จากการที่กัญชามาเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของวงการทางการแพทย์ สิ่งที่เราเคยนำเข้ามาในรูปแบบผลิตภัณฑ์ยาสมัยใหม่ ราคาต้องแพงมากกว่าสิ่งที่เราผลิตจากพืช ที่เราปลูกเองอยู่ในประเทศของเรานะครับ เรื่องของการตลาดที่ต้องทุ่มทุนอย่างมหาศาล ในการโฆษณาสินค้าของตัวเอง
ถ้ามันดีจริง ทำไมถึงมีคนออกต่อต้านท่าน?
อาจารย์ไม่ไปดูคนที่สนับสนุนล่ะครับ ผมคิดว่าคนที่สนับสนุน มีไม่น้อยกว่าคนต่อต้านนะครับ นโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์ ของพรรคภูมิใจไทย ทำให้พรรคภูมิใจไทยมีเสียงสนับสนุน ดูจากคะแนนเสียงที่เราได้มาจากการเลือกตั้งปี 2562 วันนั้นคนเรียกพรรคภูมิใจไทยว่าเป็นพรรคกัญชา ก็แสดงว่านโยบายนี้โดนใจของพี่น้องประชาชน คนที่ไม่ชอบก็จะไม่เลือกเรา แต่ว่าการที่ประชาชนส่วนใหญ่เลือกพรรคภูมิใจไทย เขาต้องรับทราบนโยบายของพรรคภูมิใจไทยอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าไม่ทราบแล้วมาค่อยลุ้นว่าพรรคภูมิใจไทยคอยทำอะไร นโยบายกัญชาในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว มันเรือธงอยู่แล้ว
ในสื่อทำไมหมอบางคนถึงมากระด่างกระเดืองกับนโยบายนี้ล่ะ?
ผมก็ต้องถือว่าหมอที่ให้การสนับสนุน นโยบายกัญชาทางการแพทย์ แต่ละท่านก็เป็นแพทย์ที่มีชื่อเสียง มีเกียรติยศ มีความรับผิดชอบ จรรยาบรรณสูงมาก อาจารย์คิดว่ากระทรวงสาธารณสุขเนี่ย รัฐมนตรีคนเดียวที่ไม่ใช่หมอด้วยเนี่ย จะสามารถบันดาลอะไร หรือบังคับให้คณะแพทย์ ตั้งแต่ปลัดกระทรวงยันรองปลัดอธิบดี นักวิชาการทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่บุคลากรทางสาธารณสุข เห็นพ้องต้องกันโดยส่วนใหญ่ และให้ความร่วมมือผลักดันนโยบายกัญชาทางการแพทย์ อาจารย์ยิ่งศักดิ์ว่าเขาทำไหม ต้นทุนเขาสูงจะตาย เขาไม่มีผมก็อยู่ได้ ผมจะไปมีปัญญาไปปลดเขาหรือครับ หรือจะไปให้เขาออกจากราชการไม่มีเลย อำนาจทางการเมืองของรัฐมนตรีมีนิดเดียวครับ ผมก็อยู่กับเขามา 4 ปีก็ได้รับความร่วมมือทุกสิ่ง ทุกวันนี้โรงพยาบาลทุกแห่งของกระทรวงสาธารณสุข 1,000 กว่าแห่ง มีคลินิกกัญชา ถามว่าต้องเอาใจรัฐมนตรีขนาดนี้ไหม โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐมนตรีคนนี้ซึ่งไม่ต้องการเอาใจ แต่ต้องการให้เขาทำงานที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน หรือคนที่เชียร์มากมากๆ เขาออกมาสู้กับคนที่มาด่ากัญชาทุกวันเนี่ย เปรียบเสมือนข่าวร้ายลงฟรี ข่าวดีเสียตังค์ มันก็หลักเดียวกันครับ คนที่เขามีความมั่นใจในสิ่งที่เขาทำอยู่แล้ว เขาจะนั่งเงียบถูกไหมครับ
ตกลงรัฐบาลไฟแดงหรือไฟเขียว นโยบายกัญชา?
ต้องไฟเขียวสิครับอาจารย์ คนที่ปลดกัญชาออกจากยาเสพติดประเภทที่ 5 หมายความว่า ณ ปัจจุบัน วินาทีนี้ กัญชาไม่ใช่ยาเสพติดอีกต่อไปแล้ว ยกเว้นส่วนที่มีสาร THC (Tetrahydrocannabinol) เกิน 0.2% ก็คือสารสกัด ต้องเป็นสารสกัดเท่านั้น ที่มี THC เกิน 0.2% ถึงจะเป็นยาเสพติด เพราะฉะนั้นช่อดอก ลำต้น ใบ ราก ก็ไม่ใช่สารเสพติด แต่ผู้ที่ปลดมาแล้วนั้นคือใคร คือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ ไม่ใช่กระทรวงสาธารณสุข ถามอาจารย์ว่าไฟเขียว หรือไฟแดง มันตอบด้วยมติการปลดกัญชาออกจากยาเสพติดครับ ถามว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขไปบังคับนายกรัฐมนตรีได้ไหม ผมมีหลายเรื่องไปขอท่านเยอะแยะ ท่านไม่ให้ตั้งเยอะแยะ ท่านบอกว่าอย่าเพิ่ง ยังไม่เห็นด้วย ยังไม่เห็นชอบ มันเป็นความเห็นชอบจากทุกๆฝ่าย มันมีขั้นตอนครับ
ตอนนี้การเมืองร้อนแรง ลุงตู่กับลุงป้อม เขาอยู่คนละพรรค ประชาชนอยากทราบว่าท่านอนุทินจะไปอยู่ฝั่งไหน?
ผมอยู่ฝั่งประชาชนครับ อาจารย์ไม่ต้องกังวลตรงนี้ เดี๋ยวอาจารย์ฟังแล้ว อุ้ยพูดเป็นนักการเมือง คนที่ทำการเมืองจะต้องแปลเจตนารมณ์ของประชาชนได้ครับ ดูเขาว่าเขาเลือกเรามาด้วยเหตุผลอะไร เราต้องแปลเจตนารมณ์ของเขาออกได้ทั้งหมด แล้วก็เดินไปทางนั้น ไม่มีคำว่าผิดพลาดครับ เราจะไปดูในเรื่องของปัจเจกบุคคล จะชอบคนนู้น คนนี่ เพราะสุดท้ายใครก็ตามไม่มีความสำคัญต่อผม หรือต่อพรรคภูมิใจไทยในความเป็นการเมือง เท่ากับประชาชนเท่านั้นเอง
หมอดูดังๆในประเทศดูกันว่าท่านจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ท่านจะว่าอย่างไร?
คนที่จะทำให้ผมเป็นอะไร จะเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นรัฐมนตรี เป็นฝ่ายค้าน เป็นผู้นำฝ่ายค้าน หรือให้เลิกเล่นการเมืองไปเลย มีอยู่กลุ่มเดียวคือ ประชาชน พอมาเล่นการเมืองแล้วทุกอย่าง อนาคต การทำงานอยู่ในคอนโทรลของเราแต่อนาคตของเรา บทบาทของเราอยู่ที่มือประชาชน
ถ้าท่านเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ชีวิตประชาชนคนไทยจะดีขึ้นอย่างไร?
ไม่ต้องเป็นนายกรัฐมนตรีหรอกครับ ทุกวันนี้เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นรัฐมนตรีในคณะรัฐบาล ทุกลมหายใจก็คือ ต้องทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนอยู่แล้ว เป็นไฟต์บังคับนะครับ ไม่ใช่ว่าไม่อยากทำหรืออยากทำ คิดตรงนั้นไม่ได้เลยเพราะมันเป็นภารกิจ ความรับผิดชอบ ผมเติบโตมาในทางการเมืองในช่วงที่มีความขัดแย้งรุนแรง ผมเคยอยู่ในการเมืองที่เถียงกันก็เถียงในสภา ออกจากห้องประชุมเป็นเพื่อนกัน และก็หาทางออกร่วมกัน ผมต้องการเห็นประเทศไทยกลับไปสู่จุดนั้น ทุกวันนี้มันขัดแย้ง ชาตินี้ไม่เผาผีกันล่ะ สิ่งที่แย่ที่สุดก็คือคนที่เคยเป็นเพื่อนกันสนิทกัน ซี้กัน กลายเป็นคนไม่ถูกกัน สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เสียหายมากนะครับ มนุษย์เราเกิดมาครั้งหนึ่งในชีวิตควรจะต้องรักกัน ไม่ใช่เกลียดกัน
สุดท้ายนี้ ท่าน อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ฝากถึงประชาชนที่ให้การสนับสนุนผ่านรายการว่า “ผมต้องกราบขอบพระคุณนะครับพี่น้องประชาชน ทุกท่านที่ให้กำลังใจผม และทีมงานของผมในการทำงานที่ได้รับใช้ทุกท่านมาโดยตลอด สิ่งที่ผมอยากจะให้คำมั่นสัญญากับพี่น้องประชาชนทุกท่านนั่นก็คือว่า พวกผมจะตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อประเทศของเรา เพื่อพี่น้องประชาชนทุกคน ก็อยากจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ สร้างประโยชน์ให้กับบ้านเมือง สร้างประโยชน์ให้กับประชาชนด้วยประสบการณ์ที่เรามี ก็ขอความกรุณาของทุกๆท่านได้ให้ความเมตตากับพวกเราต่อไป ในการที่จะทำงานได้รับใช้พวกทุกท่านอย่างเต็มกำลังความสามารถครับ” ส่วนใครที่อยากดูแบบจุใจ พร้อมอรรถรสเคลียร์ชัดแบบม้วนเดียวจบทุกประเด็นร้อนแรง สามารถติดตามชมรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.55 น. ทางช่อง 8 หรือดูย้อนหลังได้ที่ยูทูบของช่อง 8 https://www.youtube.com/watch?v=CZhf3CzI7Ug ห้ามพลาด!