ระวัง “ฝุ่นควัน” ทำใจป่วย?

ผสมโรง

สันต์ สะตอแมน

แวะซื้อของ 15 นาที..ตาอักเสบ!

อืมมม..คนเมืองหลวงนี้ไม่ว่าจะยากดีมีจน เวลานี้ดูเหมือนจะขี้โรค-อ่อนแอกันได้ง่าย มีอะไรนิดอะไรหน่อยเข้ามากระทบ..ร่างกายจะ “ขาดภูมิต้านทาน” ทำให้ต้องเจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นฉับพลันทันด่วน!

อย่างอดีตนักร้อง “ลิเดีย-ศรัณย์รัชต์ ดีน” ที่โพสต์ข้อความ.. “เรามาถึงจุดนี้กันแล้วใช่ไหม ที่การไปออกกำลังกายข้างนอก คือการทำลายสุขภาพ การพาลูกออกไปเล่นข้างนอก คือการทำร้ายสุขภาพของเขา

ท้องฟ้าข้างนอกมืดมัวปกคลุมไปด้วยละอองฝุ่นทั้งเมือง คนไทยจะมีคุณภาพชีวิตแบบนี้จริงเหรอนี่แค่ออกไปข้างนอก (และใส่มาส์กปิด) เพื่อแวะซื้อของแป๊บเดียวประมาณ 15 นาที แต่ผลที่ได้รับคือตาอักเสบจากมลพิษและฝุ่น PM2.5 ได้ขนาดนี้เหมือนโดนคำสั่งให้ถูกกักบริเวณจับควบคุมตัวอยู่ในบ้าน”


(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});

ก็..แทบไม่อยากเชื่อ ว่าคุณลิเดีย ที่แม้จะมีลูกมีเต้า แต่อายุก็ไม่ได้มากมาย แถมเป็นคนออกกำลังกายอยู่สม่ำเสมอ อวดหุ่นโชว์ความฟิตร่างกายมาตลอด..

จะแพ้ฝุ่นถึงขั้น “ตาอักเสบ” ได้ง่ายเพียงนี้!

อีกคน..นักแสดง “โบวี่ อัฐมา ชีวนิชพันธ์” ก็ได้โพสต์ข้อความ.. “รู้สึกเหมือนตัวเองจะได้รับผลจากฝุ่น pm สังเกตว่าเวลาออกไปเจอจุดที่ฝุ่นเยอะ แล้วจะรู้สึกระคายเคืองคอ…วันต่อมาก็จะเป็นคออักเสบ ระคายเคืองมากทำให้นอนไม่ค่อยได้ ในช่วง 1-2 เดือนมีอาการแบบนี้มาประมาณ 4-5 ครั้งแล้ว”


(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});

ถ้าลองแบบนี้ เห็นทีขอแนะนำให้คนทั้งสองเก็บตัวเปิดแอร์อยู่ในบ้านไปก่อนแล้วล่ะ เพราะเรื่องฝุ่นพีเอ็ม 2.5 อะไรนี่ มันไม่ใช่จะแก้ได้ในชั่วข้ามวัน ซึ่งนั่นหมายถึงว่า..

อากาศในกรุงเทพฯ จะยังคงคละคลุ้งไปด้วยฝุ่นพีเอ็ม2.5 เกินมาตรฐานอยู่ต่อไป!

ผู้ที่ภูมิคุ้มกันบกพร่อง คนที่อ่อนแอก็จำเป็นต้องดูแลตัวเอง ส่วนจะบ่นจะโทษรัฐบาลนั่นก็เป็นสิทธิโดยชอบธรรมในฐานะประชาชน ซึ่งภาครัฐเองก็ควรจะเร่งแก้ปัญหานี้อย่างเป็นรูปธรรม..

อย่าเอาแต่บ่น หรือรำคาญเสียงประชาชน!

อย่างไรก็ตาม..คนกรุงเทพฯควรต้องโทษตัวเองด้วย เพราะทุกคนล้วนมีส่วนมากบ้าง-น้อยบ้างที่ทำให้เกิดมลพิษ!

และในขณะที่บ่น-ด่ารัฐบาล ถ้าหากจะช่วยกันโพสต์เตือนสติ แนะนำ ให้ความรู้กับคนกรุงเทพฯไปด้วย ก็น่าจะเป็นคุณทั้งสองทาง.. ว่าต้นเหตุที่ทำให้เมืองสวรรค์แห่งนี้เกิดฝุ่นควันขั้นวิกฤติ..

หนึ่ง..เกิดจากการใช้รถร้อยละ 72.5 สอง..มาจากภาคอุตสาหกรรม ร้อยละ 17 และสาม..ภาคการเผาในที่โล่งแจ้ง ร้อยละ 5

ทั้งนี้ทั้งนั้น เพื่อคนกรุงเทพฯจะได้เกิดจิตสำนึก ตื่นตัว และพร้อมใจช่วยกันลดปัญหานี้ เพราะหากมัวแต่ชี้หน้า ด่า-ตำหนิ หรือเอาแต่กระแนะกระแหนรัฐบาล สะใจไปวันๆ..

ไม่เพียงตาอักเสบ เจ็บคอ ดี-ไม่ดี..

 “ใจป่วย” เอาด้วยนะ!


(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});

Written By
More from pp
AirCaptif บริษัทสตาร์ทอัพในเครือมิชลินที่เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างพองลม รุกขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
AirCaptif บริษัทสตาร์ทอัพในเครือมิชลินที่เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างพองลม รุกขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ชูความสำเร็จทางเทคโนโลยีครั้งแรกของโลกภายใต้การผนึกพันธมิตรกับ Dassault [ดาโซ] ที่ทำให้กระบวนการทดสอบเพื่อยื่นขอเอกสารรับรองต่างๆ สำหรับเครื่องบิน FALCON 6X เป็นไปได้รวดเร็วขึ้น
Read More
0 replies on “ระวัง “ฝุ่นควัน” ทำใจป่วย?”