5 มีนาคม 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวยอมรับถึงกระแสข่าวที่ได้พบกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เมื่อวันที่ 2 มีนาคม โดยนายอนุทิน ได้ย้อนถามกลับสื่อว่า ทราบได้อย่างไร พร้อมกับหัวเราะ ก่อนยอมรับว่า ไปเป็นเรื่องปกติเป็นประจำอยู่แล้ว ก่อนถามกลับอีกครั้งว่า รู้ได้อย่างไร
เมื่อถามย้ำว่า นายเนวินได้ร่วมเดินทางไปด้วยใช่หรือไม่ นายอนุทิน ยอมรับว่า ตป็นคนชวนไป นัดกันวันหยุด อยู่กันพอดี พร้อมยอมรับด้วยว่า มีการหารือกันหลายเรื่อง แต่ไม่มีอะไรมาก และเป็นการขอคำแนะนำเนื่องจากนายทักษิณเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ มันก็ไม่มีคนอื่น ก่อนย้อนถามกลับสื่อมวลชนอีกครั้งว่า “ใครหลุดออกมา”
เมื่อถามว่า ยอมรับใช่หรือไม่ว่าได้เดินทางไปบ้านจันทร์ส่องหล้าจริง นายอนุทิน ถึงกับอุทานว่า “โห่ ผมยืนอยู่ตรงนี้ก็พูดแล้วว่า ไปพบกันทุกเดือนเป็นเรื่องปกติ” พร้อมระบุว่า เมื่อถามอะไรนายทักษิณก็ให้คำแนะนำดีๆ เสมอ
เมื่อถามว่า มีประเด็นการหารือเรื่องร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และ เรื่อง พ.ร.บ.การพนันออนไลน์หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็คุยกันทุกเรื่อง ทั้งการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และนโยบายรัฐบาล เมื่อถามอีกว่า ได้มีการพูดคุยเรื่องการจัดแข่งขันโมโตจีพีด้วยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มี ไม่ได้คุยเรื่องนี้ เพราะเรื่องนี้อีกนาน
เมื่อถามย้ำว่า ถือเป็นการเคลียร์ใจหรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมา มีกระแสข่าวถึงรอยร้าวระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มี เพราะคุยกับนายทักษิณ เป็นประจำอยู่แล้ว ไม่คุยโทรศัพท์ก็คุยไลน์ ไม่เคยมีอะไรที่เป็นปัญหา
เมื่อถามว่า หลังจากนี้จะมีประเด็นออกมาอีกหรือไม่ว่าพรรคภูมิใจไทยขวางพรรคเพื่อไทย หรือประเด็นรอยร้าว นายอนุทิน ถึงกับกล่าวว่า “เดี๋ยวก่อนนะ ภูมิใจไทยเคยขวางอะไรเพื่อไทย หากผู้สื่อข่าวพูดแบบนี้ก็เอาอีกแล้ว เสี้ยมคนให้ชนกันอีกแล้ว ส่วนประเด็นที่ไม่เห็นด้วยก็ต้องหารือกัน และก็มีข้อสรุปทุกครั้ง อย่างร่างกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่ตอนแรกกระทรวงการคลังให้อำนาจนายกรัฐมนตรีรักษาการกฎหมายเพียงคนเดียว ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้ชี้แจงต่อนายกฯ ว่าเรื่องกฎหมายควบคุมอาคาร และอื่นๆ หากนายกฯรักษาการคนเดียวอาจหนักเกินไป นายกฯก็เห็นด้วย ในที่สุดร่างล่าสุดก็ให้กระทรวงมหาดไทยร่วมรักษาการ เราก็ทำงานด้วยกัน หากเราไม่ใช่ทีมเวิร์คไม่ห่วงกัน ให้เขารักษาการคนเดียว อย่างไรกระทรวงมหาดไทยก็มีบทบาทในเรื่องของกฎหมายการพนัน ไม่ต้องห่วงต่อให้รักษาการหรือไม่ สปิริตการอยู่ร่วมกันก็ต้องร่วมกับรับผิดชอบ มีอะไรก็ร่วมกันแบ่งเบาภาระ เพราะนายกฯมีภาระอื่นมากมาย จะรู้เรื่องรายละเอียดกฎหมายแต่ละฉบับได้อย่างไร นี่ถือเป็นบทพิสูจน์ว่าเราทำงานด้วยกันด้วยความห่วงใย ความร่วมมือ และการสนับสนุน”
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายทักษิณให้ความเห็นเรื่องร่าง พ.ร.บ.เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์อย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่าเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ร่างมาตั้งนานแล้ว และเป็นร่างของคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยมีเรื่องการกำหนดเงินในบัญชีขั้นต่ำ 50 ล้านบาทของผู้ที่จะเข้าเล่น หากร่างนี้เข้ามาที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อใด แล้วพอไปตัดออกก็จะแย้งต่อกฤษฎีกา จึงอาจจะให้มีการศึกษาอีกครั้งหนึ่ง ให้สภารับหลักการแล้วตั้งคณะกรรมาธิการ แล้วแปรญัตติกันไปเป็นกฎหมายของสภาในที่สุด ส่วนสัปดาห์หน้าร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีหรือไม่นั้น เรื่องนี้ขึ้นอยู่ที่นายกฯ ซึ่งกฎหมายที่รอเข้าอยู่ มีร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ การพนัน ร่าง พ.ร.บ.การพนันออนไลน์ ซึ่งได้แจ้งถึงนายกรัฐมนตรีแล้ว ว่าหากจะนำร่าง พ.ร.บ.ทั้งสองฉบับนี้เข้า ควรจะเร่งเอาร่างการเพิ่มโทษการพนันเถื่อนเข้าไปก่อนด้วย เพื่อที่จะรองรับกันหากจะทำให้การพนันถูกกฎหมาย ต้องทำให้ผู้ที่จะทำการพนันผิดกฎหมายมีโทษหนัก แต่ยังไม่รู้ว่านายกฯจะบรรจุเข้าเมื่อไหร่ ส่วนจะบรรจุพร้อมกันหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของนายกฯ ไม่สามารถก้าวล่วงได้ แต่ก็ได้ให้ข้อมูลกับนายกฯไป ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยดี
ที่มา https://www.thaipost.net/politics-news/750083/
