เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2566- นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะเลขานุการประธานรัฐสภา ได้กล่าวถึงกรณีที่รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการพัฒนาภาคใต้ว่า
นายชวน หลีกภัย เป็นนักการเมืองที่ยึดมั่นในความถูกต้อง มีหลักการ ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ตลอดระยะเวลาที่มา คำพูดที่ได้ให้สัมภาษณ์เรื่องการเลือกปฎิบัติกับพี่น้องชาวปักษ์ใต้ คือความจริง ไม่มีข้อมูลใดที่เป็นเท็จหรือบิดเบือนแต่อย่างใด ที่สำคัญที่สุดมีหลักฐานการเลือกปฎิบัติต่อพี่น้องชาวปักษ์ใต้อย่างชัดเจน
รองโฆษกพรรคเพื่อไทยต้องย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์ในทางการเมืองว่า ในภาคปฎิบัติของนักการเมืองในช่วงนั้นได้ปฎิบัติตนอย่างไรกับประชาชน มีการเลือกปฎิบัติต่อประชาชนเพียงเพราะประชาชนจังหวัดนั้นไม่เลือกพรรคการเมืองของตนก็จะมีการกลั่นแกล้งเลือกปฏิบัติต่อจังหวัดนั้นโดยเฉพาะภาคใต้
เกิดเป็นนโยบายการเลือกปฏิบัติ จังหวัดไหนไม่เลือก ให้รอไปก่อน จะพัฒนาเฉพาะจังหวัดที่เลือก ส.ส.ของพรรคเท่านั้น เรื่องนี้มีหลักฐานชัดเจน และในภาคปฎิบัติก็มีการทำเช่นนั้นจริง การไม่ให้ความเป็นธรรม ในการจัดสรรงบประมาณเพื่อการซ่อมแซมถนนถนนเพชรเกษมที่ได้น้อยกว่าทุกภาค ศูนย์ประชุมนานาชาติภูเก็ตก็เป็นผลิตผลจากนโยบายเลือกปฏิบัติ ที่ให้ต้องรอก่อน เพราะถูกตัดงบประมาณเพียงเพราะคนภูเก็ตไม่เลือกพรรคเพื่อไทย
นายราเมศกล่าวว่า พี่น้องชาวภาคใต้รับรู้ข้อมูลการเลือกปฎิบัตินี้เป็นอย่างดี ชาวปักษ์ใต้มีความเจ็บปวดกับเรื่องนี้ตลอดมาความไม่เป็นธรรมที่ได้มอบให้ เชื่อว่าการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ก็จะเป็นตัวชี้วัดเช่นกัน ขณะนั้นตนเป็นคนเก็บหลักฐานการต่อสู้เพื่อช่วยเหลือคืนความเป็นธรรมให้กับชาวปักษ์ใต้ ที่นายชวน หลีกภัย ได้ทำหนังสือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คนที่ต่อสู้เรื่องนี้คือนายชวน หลีกภัย คนเดียวที่เป็นปากเสียงให้กับประชาชนในภาคใต้
ประชาชนในปักษ์ใต้ทราบดีว่า สิ่งที่นายชวน พูดคือความจริง และไม่จำเป็นว่าจะต้องกล่าวเวลาไหน ความจริงก็คือความจริงตลอดเวลา ประชาชนเลือกพรรคประชาธิปัตย์ เลือกนายชวน หลีกภัย เพราะนโยบายที่คิดทำเพื่อส่วนรวม ทำเพื่อประชาชนและประเทศชาติให้เกิดความยั่งยืน การวางโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคม รถไฟทางคู่ ถนนสี่ช่องจราจร พัฒนารายจังหวัดให้มีศักยภาพในด้านการท่องเที่ยว
ประชาชนยังจำผลงาน ต่างๆ ที่ทำสิ่งดีๆ ให้ประชาชนมากมาย ลูกหลานไปโรงเรียนได้ดื่มนม มีอาหารกลางวัน ได้กู้ยืมเงินกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เรื่องสาธารณะสุข เรื่องเบี้ยผู้สูงอายุ ที่ขณะนี้มีหลายพรรคการเมืองนำไปขยายผลหาเสียงเกทับเรื่องจำนวนเงิน เบี้ยผู้สูงอายุเกิดขึ้นในสมัยที่ นายชวน หลีกภัย เป็นรัฐบาลจาก 200 บาท เป็น 300 บาท และขึ้นอีกครั้งสมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เพิ่มเป็น 500 บาทต่อเดือน
ส่วนสมัยรัฐบาลทักษิณ 5 ปี ไม่ได้เพิ่มให้แต่อย่างใด ข้อมูลเหล่านี้ประชาชนจดจำได้ และไม่ต้องมากังวลในเรื่องพรรคการเมืองอื่น ว่าต้องเตรียมนโยบายเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์เรามีนโยบายครบถ้วน และเป็นนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมจริงๆ เพื่อให้เกิดความยั่งยืน แต่พรรคไม่มีนโยบายที่เลือกปฎิบัติ ไม่มีนโยบายที่คิดขึ้นมาเพื่อคดโกงงบประมาณแผ่นดิน ไม่มีความคิดเรื่องทุจริตเชิงนโยบาย ในภาคใต้ประชาธิปัตย์ไม่เคยกลัวพรรคการเมืองใด เพราะเมื่อเข้าสู่การเลือกตั้งก็ต้องต่อสู้กันเต็มที่อยู่แล้ว ประชาชนจะเป็นคนตัดสิน