กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะ 5 วิธี กินปิ้ง – ย่าง ให้ปลอดภัย จากการแชร์ในโลกออกไลน์กินหมูกะทะแล้วคาดว่าติดเชื้อโรค “สเตรปโตคอคคัส ซูอิส” หรือ “ไข้หูดับ” ย้ำ ทุกเมนูอาหารที่ปรุงด้วยเนื้อสัตว์ ควรผ่านการปรุงให้สุกอย่างทั่วถึง เลี่ยงเนื้อสัตว์ติดมันที่อาจทำให้เกิดสารก่อมะเร็งได้
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า หมูกระทะ หรือ อาหารปิ้ง-ย่างเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากช่วงหน้าหนาว แต่แฝงด้วยอันตรายหาก “กิน” แบบไม่ปลอดภัยเพราะอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค “สเตรปโตคอคคัส ซูอิส” หรือ “ไข้หูดับ” จากการกินเนื้อสัตว์สุกๆ ดิบๆ หรือใช้ตะเกียบคีบรวมกันระหว่างเนื้อที่ปรุงสุกแล้วกับที่เนื้อที่ยังดิบอยู่
รวมทั้งเสี่ยงต่อการได้รับสารพีเอเอชหรือสารกลุ่มโพลีไซคลิก อะโรมาติก ไฮโดรคาร์บอน(Polycyclic aromatic hydrocarbon) ซึ่งเป็นชนิดเดียวกับที่เกิดในควันไฟ ไอเสียของเครื่องยนต์ ควันบุหรี่ และเตาเผาเชื้อเพลิงในโรงงานอุตสาหกรรม
โดยสารนี้จะพบในบริเวณที่ไหม้เกรียมของอาหารที่ปรุงด้วยการปิ้ง ย่าง หรือรมควันของเนื้อสัตว์ที่มีไขมันหรือมันเปลวติดอยู่ เช่น หมูย่างติดมัน เนื้อย่างติดมัน ไก่ย่างส่วนติดมัน เนื่องจากขณะปิ้งย่าง ไขมันหรือน้ำมันจะหยดไปบนเตาไฟ ทำให้เกิดการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ ก่อให้เกิดสารพีเอเอชลอยขึ้นมาพร้อมเขม่าควันเกาะที่บริเวณผิวของอาหาร หากกินเข้าไปเป็นประจำจะมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า กรมอนามัยจึงแนะนำ 5 วิธี กินหมูกะทะ หรือ อาหารปิ้ง-ย่างอย่างปลอดภัย คือ
1) “สุกทั่วถึง” ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ประเภทใด ควรผ่านการปรุงให้สุกโดยใช้ความร้อน ให้สุกอย่างทั่วถึงด้วยอุณหภูมิตั้งแต่ 70 องศาเซลเซียสขึ้นไป เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 5 นาที การนำเนื้อสัตว์จุ่มลงไปเพียงไม่กี่วินาทีอาจจะทำให้เนื้อได้รับความร้อนไม่ทั่วถึง และเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อโรคได้
2) “แยกใช้อุปกรณ์” อุปกรณ์และภาชนะต้องเน้นย้ำเรื่องสุขอนามัย ควรแยกใช้ระหว่างเนื้อที่สุกแล้วกับเนื้อดิบ โดยเฉพาะ เขียง ที่คีบ และตะเกียบ เพราะการใช้อปุกรณ์ร่วมกันจะทำให้เชื้อโรคจากเนื้อดิบมาปนเปื้อนในเนื้อที่สุกได้ และระวังการนำตะเกียบที่ใช้คีบเนื้อดิบ คีบเนื้อสุกเข้าปาก
3) “เลือกเนื้อสัตว์” เลือกซื้อเนื้อสัตว์จากแหล่งที่น่าเชื่อถือได้ หรือมีการรับรองความปลอดภัยจากหน่วยงานราชการ และเมื่อนำมาปรุงประกอบอาหารเลือกเฉพาะส่วนหรือที่มีไขมันติดน้อยที่สุด หรือควรตัดส่วนที่เป็นไขมันออกไปก่อนนำไปย่าง เพื่อลดไขมันที่จะไปหยดลงบนถ่าน และหลังปิ้งย่างควรหั่นส่วนที่ไหม้เกรียมออกให้มากที่สุด ถ้าต้องปิ้งย่างบนเตาถ่านธรรมดา ควรใช้ถ่านที่อัดเป็นก้อน ไม่ควรใช้ถ่านป่นละเอียด หรืออาจใช้ฟืนที่เป็นไม้เนื้อแข็ง เพราะจะช่วยให้การเผาไหม้จะเกิดขึ้นอย่างช้า ๆ
4) “ใบตองช่วย” อาจจะใช้ใบตองห่ออาหารก่อนทำการปิ้งย่าง ซึ่งนอกจากจะลดปริมาณไขมัน จากอาหารที่หยดลงไปบนถ่านแล้วยังทำให้อาหารมีกลิ่นหอมใบตองด้วย
5) “เลือกร้านอาหาร”ควรเลือกร้านที่ใช้อุปกรณ์และภาชนะในการปิ้ง ย่างแยกกันอย่างชัดเจน และใช้เตาที่สามารถลดหรือป้องกันน้ำมันหยดลงบนเตาไฟได้ เช่น เตาไฟฟ้าหรือเตาไร้ควัน ซึ่งสามารถควบคุมระดับความร้อนได้มากกว่าการใช้เตาถ่าน
“ทั้งนี้ ควรเสริมผักและผลไม้เพื่อช่วยให้ร่างกายมีภูมิต้านทานโรค และควรกินอาหารให้มีความหลากหลายในปริมาณที่พอดีกับร่างกาย สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวสายแคมป์ปิ้งหรือกางเต้นท์ต้องระมัดระวังอันตรายจากเตาไฟที่ใช้หลังกินเสร็จต้องมั่นใจว่าดับถ่านในเตาไฟจนสนิท เพราะอาจทำให้เกิดไฟไหม้หรือการใช้เตาไฟฟ้าต้องมั่นใจว่าอุปกรณ์ที่ใช้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ สายไฟไม่ชำรุด เพราะอาจเสี่ยงทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้เช่นเดียวกัน” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว