เพิ่มกรอบเงินหาเสียงเลือกตั้งเอื้อใคร? “ก้าวไกล” จับพิรุธ กกต. เพิ่มกรอบวงเงินหาเสียงรับใช้ผู้มีอำนาจ จี้แก้กฎให้เสมอภาค-เป็นธรรม

ต่อกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ส่งหนังสือถามพรรคการเมืองถึงกรอบวงเงินค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งของผู้สมัคร ส.ส. และพรรคการเมือง ที่เพิ่มกรอบวงเงินหาเสียงเลือกตั้งสูงสุดกรณีสภาอยู่ครบวาระมากกว่า 4 เท่า
– สำหรับพรรคการเมืองเป็นพรรคละ 152.33 ล้านบาท จากพรรคละ 35 ล้านบาท
– สำหรับผู้สมัคร ส.ส. เพิ่มขึ้นเป็นคนละ 6.5 ล้านบาท จากคนละ 1.5 ล้านบาท

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส. พิษณุโลก เขต 1 พรรคก้าวไกล ได้ออกมาตั้งคำถามว่ากรอบวงเงินที่ กกต. ออกมามีความย้อนแย้งกับกฎการคำนวนค่าใช้จ่ายเลือกตั้ง 180 วัน ที่ออกมาก่อนหน้านี้หรือไม่ และแสดงให้เห็นว่า กกต. ได้สัญญาณจากผู้มีอำนาจเหนือ กกต. มาว่าอาจอยู่ครบอายุสภา

นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ กกต. กำหนดออกกฎ 180 วัน เจตนาเพื่อป้องปรามไม่ให้นักการเมืองใช้จ่ายเงินในการหาเสียงมาก โดยอ้างเหตุผลเรื่องความเสมอภาคและเป็นธรรม แต่การกำหนดกรอบวงเงินของ กกต. ใหม่ที่ออกมานี้ ย้อนแย้งกับสิ่งที่ กกต. เคยอ้างหรือไม่ เพราะการกำหนดกรอบวงเงินในการหาเสียงของ ส.ส. เพิ่มขึ้นจาก 1.5 ล้านบาท เป็น 6.5 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นมากกว่า 4 เท่านั้น ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่มากกว่าเงินเดือน ส.ส. 4 ปีรวมกันเสียอีก

“กฎแบบนี้แปลว่า กกต. กำลังส่งเสริมให้คนที่จะเข้ามาเป็น ส.ส. ผู้แทนราษฎร จะต้องออกไปหาผลประโยชน์ทางอื่นนอกจากเงินเดือนใช่หรือไม่” ปดิพัทธ์ ตั้งคำถาม

และการที่ปล่อยให้พรรคการเมืองมีกรอบวงเงินหาเสียงจากเดิมที่กำหนดพรรคละ 35 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 152 ล้านบาท ปดิพัทธ์ตั้งคำถามถึงการกลับลำของ กกต. ว่า ไม่รู้ว่าหลักการนี้ลอยมาจากไหน หรือเป็นเพราะใบสั่งจากรัฐบาลที่มีอำนาจเหนือ กกต.

ในตอนแรกยังไม่ชัดเจนเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่มีพรรคสังกัดจึงต้องสกัดการรณรงค์หาเสียงของนักการเมืองพรรคอื่น แต่เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์มีพรรคที่สิงอยู่ชัดเจนแล้ว จึงส่งสัญญาณกลับลำกฎ กกต. เพื่อเปิดโอกาสให้ใช้เงินเต็มที่ทุ่มงบประมาณหาเสียงในโค้งสุดท้าย ซึ่งพรรคที่จะได้ประโยชน์ คือพรรครัฐบาลที่มีทุนใหญ่และแหล่งผลประโยชน์อื่นใดหนุนหลัง

“แต่สำหรับพวกเราพรรคก้าวไกล พวกเราเชื่อมั่นในพลังสนับสนุนของประชาชน เราเชื่อว่าประชาชนเห็นว่าพรรคใดและนักการเมืองคนไหนทำงานอย่างตรงไปตรงมา ตั้งใจทำงานขับเคลื่อนนโยบายที่จะเกิดประโยชน์กับพวกเขามากกว่าเงินเพียงหลักร้อยหรือหลักพันที่จะได้ในช่วงเลือกตั้ง แต่ กกต. ในฐานะองค์กรอิสระก็ต้องทำงานเพื่อสร้างบรรยากาศทางการเมืองที่เสมอภาคและเป็นธรรม เพื่อให้ประชาธิปไตยของประเทศมีความเข้มแข็ง อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชนจริงๆ” ปดิพัทธ์กล่าวทิ้งท้าย

Written By
More from pp
ASF เปลี่ยนวิถีหมูไทยสู่มาตรฐานฟาร์ม
การประเมินผลกระทบของสุกรไทยจาก ASF ของ Krungthai COMPASS พบว่า 4 จังหวัดที่มีความเสี่ยงสูงมาก คือ เชียงใหม่ ชัยภูมิ บุรีรัมย์...
Read More
0 replies on “เพิ่มกรอบเงินหาเสียงเลือกตั้งเอื้อใคร? “ก้าวไกล” จับพิรุธ กกต. เพิ่มกรอบวงเงินหาเสียงรับใช้ผู้มีอำนาจ จี้แก้กฎให้เสมอภาค-เป็นธรรม”