สันต์ สะตอแมน
ชังชาติเรื่องของเขา..
เรื่องของเรา..ต้องรัก-สนับสนุนส่งเสริมบ้านเกิดตัวเองในทุกช่องทางเท่าที่ความรู้-ความสามารถและโอกาสจะพอมี
อย่างวันนี้ ก็ให้รู้สึกดีใจเป็นปลื้มกับข่าว (หลายวันแล้ว) ที่นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้แทนพิเศษรัฐบาลในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ ได้เผย
จึงเลยขออนุญาตนำมาให้ท่านผู้อ่านได้อ่านบางช่วงบางตอน จะว่าอวดบ้านเกิดเมืองนอนตัวเองก็ได้ ตามนี้..
“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มีความยินดีต่อความก้าวหน้าของนโยบาย “ปัตตานีเมืองปูทะเลโลก”
ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ จ.ปัตตานี เป็นศูนย์กลางการผลิตปูทะเล เนื่องด้วยพื้นที่อ่าวปัตตานีและบริเวณใกล้เคียงเป็นพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมอุดมสมบูรณ์อย่างมาก
เกษตรกรมีความสนใจ และที่สำคัญกำลังผลิตปัจจุบันยังมีไม่เพียงพอต่อความต้องการบริโภคของตลาดทั้งในและต่างประเทศ
ขณะนี้ ทางศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ (ศอ.บต.) ได้เป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนร่วมกับกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
โดยสนับสนุนให้มีการจัดตั้ง “โรงเพาะฟักสัตว์น้ำ” ณ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
ซึ่งทางคณะฯ ได้นำเทคโนโลยีการเกษตรมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาแม่พันธุ์ปูทะเล การอนุบาลลูกปู รวมถึงจะมีการบูรณาการกับหลายภาคส่วนในเรื่องการปล่อยพันธุ์ปูทะเลลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ
การส่งเสริมการประกอบอาชีพเลี้ยงปูทะเลในพื้นที่นากุ้งร้างและนาเกลือร้าง การส่งเสริมการเลี้ยงปูคอนโด (ขุนปู)
ทั้งนี้ พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. ได้รายงานต่อนายกรัฐมนตรีว่า ขณะนี้โรงเพาะฟักสัตว์น้ำ มีความพร้อมที่จะเปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการในวันที่ 19 ธันวาคม 2565
และพร้อมที่จะกระจายลูกปูจำนวนหนึ่งแสนตัวแก่เกษตรกรในเดือนมกราคม ในระยะต่อไปจะสามารถผลิตได้ในปริมาณที่เพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว
มากไปกว่านั้น ยังได้ขยายเป้าหมายการจัดตั้งโรงเพาะฟักสัตว์น้ำครอบคลุมทั้งพื้นที่ฝั่งอ่าวไทย ทั้งที่ปัตตานี และสงขลา ขณะที่ฝั่งอันดามัน อยู่ที่ กระบี่ และสตูล
อีกทั้งจะมีการเชื่อมโยงกับภาคการท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันมีการกำหนดเส้นทางการท่องเที่ยวของชาวมาเลเซีย ที่ต้องมาเยือนเพื่อรับประทานอาหารทะเลที่ปัตตานี
โดยร้านอาหารในพื้นที่จะรับซื้อปูโดยตรงจากเกษตรกร ทำให้เมนูปูเป็นจานเด่นของจังหวัด “กินปูปัตตานี”
ครับ..ดี๊ใจ ดีใจที่ปัตตานีจะได้ชื่อ “เมืองปูทะเลโลก” และหลบ (กลับ) ไปบ้านคราวหน้า ผมเห็นจะไม่พลาดโซ้ย “ปูปัตตานี” แน่ เห็นคุณรัชดา-รองโฆษกฯโพสต์แนะนำไว้ด้วยว่า..
“ปูดำ#ปัตตานี ที่นี่ทำคอนโดปู เนื้อแน่นมาก มาปัตตานีต้องมาทานปู ไปเลยย่านแหลมนก บรรยากาศดี อาหารอร่อยมาก”
ต่อไป..ไปจ.ปัตตานี นอกจากกราบหลวงปู่ทวด ไหว้เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว กินโรตี-ชาชักที่โรงแรมซีเอส และเพิ่มเติม “กินปูทะเล” แล้ว ถ้าเป็นหน้าทุเรียนก็อย่าลืม..
แวะชิม “ทุเรียนทรายขาว” ด้วยล่ะ..หรอยแรงอกนิ!