วันที่ 21 พฤษภาคม 2565 ที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (บช.ภ.7) จากกรณี ที่ปรากฏข่าวทางโซเชียล (เพจ “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 2” ) โพสต์คลิปเหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้น พร้อมข้อความระบุว่า
“หนีเสือปะจระเข้จริงๆ ????ทำเกินไปมั้ย!” 3วัยรุ่น ขอความช่วยเหลือ “ตำรวจสามพราน” ถูกจับ “ใส่กุญแจมือ-กระทืบ-เหยียบหัว-เข็มขัดฟาด” ทำเกินไปมั้ย! “3วัยรุ่น” ขี่รถจักรยานยนต์มาขอความช่วยเหลือจาก “ตำรวจสามพราน” หลังถูกคู่อริไล่ทำร้าย กลับถูกจับใส่กุญแจมือ บังคับให้ถอดเสื้อ แถม “ใช้เท้ากระทืบหัว-เตะ-ถอดเข็มขัดฟาด” ทำเหมือนกับไม่ใช่คนเหียดหยามความเป็นมนุษย์ นั้น
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเหตุจาก สภ.สามพราน ถึงกรณีที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกกล่าวหาว่าทำร้ายร่างกายผู้ต้องหาขณะเข้าจับกุม เหตุเกิด เมื่อวันที่ 30 เม.ย.65 เวลาประมาณ 01.30 น.สถานที่เกิดเหตุ หน้าหมู่บ้าน พฤษาวิวล์ ถ.บรมราชชนนี ม.1 ต.บางเตย อ.สามพราน จ.นครปฐม
สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องหาว่าทำร้าย คือ ร.ต.อ.ไชยะพจน์ โคตรสำราญ ร้อยเวร 20 ส่วนผู้ถูกทำร้าย ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนเถื่อน) นายพัสวเรศ คำยอด อายุ 20 ปีของกลางที่พบ อาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืนเบอร์ 12 จำนวน 2 นัด
สำหรับพฤติการณ์ ตามวันเวลาและสถานที่เกิดเหติ ร.ต.อ.ไชยะพจน์ฯ ปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวร 20 ได้ออกตรวจพื้นที่พร้อมพลขับได้รับแจ้งจากศูนย์ 191 มีการรวมตัวกลุ่มวัยรุ่นและขับขี่รถย้อนศรไปมาบริเวณหน้าหมู่บ้านที่เกิดเหตุ จึงได้เดินทางไป แต่ไม่พบกลุ่มวัยรุ่นอยู่บริเวณดังกล่าว ร.ต.อ.ไชยะพจน์ฯ
จึงได้จอดรถเปิดสัญญาณไฟป้องกันเหตุ ระหว่างนั้นนายพัสวเรศฯ ได้ขี่รถจักรยานยนต์ย้อนศรมาตามถนนบรมราชชนนี พร้อมกับพวกอีก 2 คน จึงได้เรียกตรวจค้นพบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน จึงได้จับกุมตัวนายพัสวเรศฯ ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ต่อมาบิดาของนายพัสวเรศฯ ได้แจ้งว่านายพัศวเรศฯ ถูก ร.ต.อ.ไชยะพจน์ฯ ทำร้ายร่างกายโดยการเตะและกระทืบจนได้รับบาดเจ็บ
เวลาต่อมา ภ.จว.นครปฐม จะได้มีคำสั่งให้ ร.ต.อ.ไชยะพจน์ฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ และไปประจำ ศปก.ภ.จว.นครปฐม พร้อมทั้งออกคำสั่งตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ในขณะเดียวกัน สภ.สามพราน ติดตามผลการชันสูตรบาดแผล เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ท.ธนายุตม์ เปิดเผยอีกว่าในวันนี้ 16.00 ตนได้เรียก รอง ผบช.ภ.7 ที่รับผิดชอบพื้นที่ พร้อมทั้ง. ผบก ,รอง ผบก ภ.จว.นครปฐม,ผกก.สภ.สามพราน พร้อมตำรวจที่เกี่ยวข้อง มาประชุมสรุปหาข้อเท็จจริงเพื่อให้ประชาชนได้ทราบและให้เกิดความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย ขอยืนยันว่า หากผลการสอบสวนข้อจริงพบว่า การกระทำของตำรวจทั้งสองนายว่าผิด จะดำเนินการทั้งวินัย และอาญาอย่างเด็ดขาด ในเบื้องต้นอยากขอโทษ ต่อสังคมถึงกรณีดังกล่าวหากผู้ใต้บังคับบัญชาตนกระทำความผิด แต่อย่างไรเสียก็ต้องรอผลการสอบข้อเท็จจริงว่าได้กรทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ เพื่อจะได้เกิดความเป็นธรรมต่อทั้งสองฝ่าย” ผบช.ภ.7 กล่าว