เปลว สีเงิน
หน้านี้…..
นอกจากเป็น “หน้ามะม่วง” กับ “หน้าทุเรียน” ออกตลาดแล้ว
ยังเป็นหน้า “พรรคการเมือง” ออกดอกด้วย!
ฉะนั้น จะเห็นหลายๆ พรรค ต่างทะยอยเปิดประชุมใหญ่ประจำปี ตามกฎหมายกำหนด
ไม่แค่นั้น
ยังมีพรรค “เปิดตัวใหม่” อีกเรื่อยๆ อย่างเช่นพรรค “สร้างอนาคตไทย” ของคุณอุตตม-สนธิรัตน์ ที่มี “คุณสมคิด จาตุศรีพิทักษ์” เป็นว่าที่นายกฯ ของพรรค
ความจริงก็ไม่ได้ตั้งใจจะคุยเรื่องพรรคการเมืองหรอก เผอิญเห็นมุมขำๆ ก็เอามาคุยซะเลย ในวันที่ไม่รู้จะคุยอะไร!
คือเมื่อวาน (๒๔ เมย.๖๕) “พรรครวมพลังประชาชาติไทย” เขาประชุมใหญ่ประจำปีกันที่ ม.กรุงเทพธนบุรี
“ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์” รมว.กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว) เป็นหัวหน้าพรรค และประธานที่ประชุม
ดร.เอนกนี่ ไม่ต้องแนะนำหรือต้องอธิบายสรรพคุณนะครับ
เพราะทั้งตอนเป็นอาจารย์มหา’ลัย และตอนมาเป็นรัฐมนตรีอว. ด้วยวิสัยทัศน์และผลงานท่าน
ตอบโจทย์อนาคตประเทศเห็นชัดขณะนี้ ผ่านการ “ยกระดับ” คุณภาพการศึกษามหา’ลัย ทำให้ทั้งอาจารย์และนักศึกษาที่สนสาระ มีชีวิต-ชีวา มุ่งมั่นในการพัฒนาชาติมาก
เมื่อวาน ดร.เอนกกล่าวเปิดประชุมตอนหนึ่งว่า…..
“…..ถ้าไปถามอธิการบดีทุกมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ทั้งมหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชน
ทุกคนล้วนพอใจและชื่นชมกับผลงานของ รมว.อว. หรือหากไปถามอาจารย์มหาวิทยาลัย และนักศึกษา ต่างก็พอใจกับผลงานของกระทรวงฯ
นอกจากนั้น ผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง อาทิ นายเกษม วัฒนชัย องคมนตรี ก็พอใจ ที่เราปฏิรูปได้เร็วขนาดนี้
ซึ่งวงการอุดมศึกษา ๕ ปีที่แล้ว เราพูดว่าอุดมศึกษาไทยจะไม่ทันโลก แต่เราเข้ามาเพียงแค่ ๒ ปี เราสามารถเปลี่ยนสภาพดังกล่าวได้ทั้งหมด
ตอนนี้ “อุดมศึกษาไทย” วิ่งฉิวแล้ว!
………..เรายึดมั่นแผนยุทธศาสตร์ ๒๐ ปี ซึ่งภายใน ๑๕ ปีข้างหน้า ๒๕๘๐ อว.ต้องเป็น “กระทรวงแห่งการพัฒนา” ที่ทำให้ประเทศไทยกลายเป็น “ประเทศที่พัฒนาแล้ว”
ส่วนแนวคิดในการส่ง “ยานอวกาศ” ไปสู่ดวงจันทร์นั้น ก็จะเป็นการส่งสัญญาณว่าเราเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว”
เมื่อพรรคของดร.เอนก ประกาศ go to the moon เสร็จ ก็ประกาศ “เปลี่ยนชื่อพรรค” และ “โลโก้พรรค” ใหม่ จากรวมพลังประชาชาติไทย
เป็น “พรรครวมพลัง” (Action Coalition Party)
โลโก้พรรคใช้รูป “พญานาคสีเหลือง” มีลายเส้นสีม่วง ตัวอักษร “พ” สีเหลือง อยู่กึ่งกลางเหนือลำตัวพญานาค พื้นหลังพญานาคเป็นวงกลมสีม่วง ล้มรอบด้วยวงกลมสีขาว
มีตัวอักษรชื่อ “พรรครวมพลัง” ด้านบน ชื่อภาษาอังกฤษ Action Coalition Party อยู่ด้านล่าง และมีขอบสีม่วงล้อมรอบวงสีขาวอีกชั้น
ดร.เอนกบอกว่า….
“การเปลี่ยนชื่อพรรค เป็นพรรครวมพลัง เพราะชื่อพรรครวมพลังประชาชาติไทยตอนต้นเป็นการทำให้ครบเนื้อหาสาระที่สุด
“แต่คนจำยาก”
เราก็เลยตัดเหลือพรรครวมพลัง ส่วนสัญลักษณ์หรือตราพรรคของเดิม ก็สวยงาม แต่ตอนนี้ เราต้องเลือกตั้งครั้งหน้า น่าจะมีพรรคการเมืองเพิ่มขึ้นอีก
ก็จำเป็นที่จะต้องมีวิธีบอกประชาชนว่า “ไปเลือกพรรคที่มีสัญลักษณ์ที่ประชาชนเห็นได้ชัด”
จึงจะทำสัญลักษณ์เป็น “พญานาค” เพราะมีพลังและปกป้องพระพุทธเจ้าได้
จึงเป็นสัญลักษณ์ว่า “พรรคเราจะพิทักษ์ธรรม พิทักษ์สิ่งที่ถูกต้อง” ส่วนตัวย่อ จะใช้คำว่า “ร.พ.” ซึ่งจะทำให้ประชาชนจำง่ายขึ้น”
ผมฟังแล้วก็อมยิ้ม หัวเราะชอบใจอยู่คนเดียว!
ดร.เอนก คล้าย “ดูยาก-เข้าใจยาก” แถมขัดแย้งกันเองในตัวอีกตะหาก
คุยจะสร้างยานอวกาศไปดวงจันทร์ แล้ววันนี้ บอกเหตุผลที่เปลี่ยนชื่อพรรคและโลโก้พรรคว่า
“จะเป็นพรรคพิทักษ์ธรรม” ใช้พญานาคเป็นโลโก้เพราะ “พญานาคมีพลังและปกป้องพระพุทธเจ้าได้”
ทำเอาคนชื่อ “สมชัย ศรีสุทธิยากร” อดีต กกต. “หีบแตก” รีบหยิบที่คนอื่นโพสต์ถึงเรื่องนี้มาแชร์ต่อทันที ว่า
“ผู้ใช้ชื่อ Tanakorn Wongpanya ที่โพสต์ภาพโลโก้พรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่เปลี่ยนโลโก้และชื่อพรรคเป็นพรรครวมพลัง
พร้อมระบุข้อความว่า นึกถึง 2-3 อย่าง 1. ยาสตรีเพ็ญภาค 2. ไม้ขีดไฟ 3. งูตัวพ่อ”
ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้วเนี่ย คุณสมชัย?
สงสัยมียาดี เห็นหน้าตาอ่อนกว่าวัยลงทุกวัน เอาแต่เพียงหน้าตาเถอะนะ ส่วนสติปัญญา ความคิด ไม่ต้องก็ได้!
ที่ดร.เอนกบอกเหตุผลในการเปลี่ยนชื่อพรรคนั้น
ผมชอบแฮะ
ชอบในความเป็นคนซื่อตรงต่อ “การคิด-การทำ” ของตัวเอง บนความเป็นนักวิชาการหัวรุ่นใหม่ แต่ใจรุ่น “นวัตกรรมสังคมชาติ” ด้วยปฏิบัติการเป็นจริง
บนฐานกระทำ เอา “อนาคตชาติ-อนาคตประชาชน” เป็นตัวตั้ง ยึด “ชาติ-พระศาสนา-พระมหากษัตริย์” เป็นเสาเข็มค้ำ
นักปฏิบัติการทางการเมืองมันต้องแบบนี้!
“เรียนสูง รู้สูง” ทางทฤษฏี มีเยอะแยะไป
แต่ที่เรียนสูง-รู้สูง เอาที่สูงนั้น มาคลุกคลีกับคนที่รู้เรียนน้อย-รู้น้อย พูดให้ชาวบ้านฟังง่ายๆ เข้าใจง่ายๆ เห็นง่ายๆ อย่างที่ดร.เป็นอยู่-ทำอยู่
มันมีน้อยและหายาก ที่เห็นก็ดร.เอนกนี่แหละคนหนึ่ง!
นายสมชัย ก็เรียนสูง รู้สูงนะ
แต่ทำไมมองว่า ที่ดร.เอนกบอก “พญานาค” มีพลังปกป้องพระพุทธเจ้าได้ จึงนำมาเป็นโลโก้พรรค ว่านั้นเป็นเรื่องตลก
ล้อเลียนไปถึงขั้นเปรียบเทียบกับยาสตรีเพ็ญภาคบ้างไม้ขีดไฟตราพญานาคบ้าง งูตัวพ่อบ้าง?
รู้มั้ย ทัศนคตินั้น ต่ำต้อย-ต่ำทราม มาก!
ก็จะบอกเป็นเกร็ดความรู้ให้ติดตัวนายสมชัยไว้นิด
พญานาคที่เกี่ยวพันทางพุทธศาสนานั้น แบ่งออกเป็น ๔ ตระกูลใหญ่ คือ
- ตระกูลวิรูปักษ์ พญานาคสีทอง
- ตระกูลเอราปถ พญานาคสีเขียว
- ตระกูลฉัพพยาปุตตะ พญานาคสีรุ้ง
- ตระกูลกัณหาโคตมะ พญานาคสีดำ
๗ พญานาค ที่ “พิทักษ์พระพุทธเจ้า” ที่เป็นที่รู้จักกันดี นั้้น ก็มี
- กาฬนาคราช
- มุจลินท์นาคราช
- นันนโทปนันทนาคราช
- นาคะนาคราช
- เอรกปัตตนาคราช
- ศรีสุทโธนาคราช และ
- ศรีสัตตนาคราช
ในบทสวดมนต์ ในพุทธประวัติ และตามพระสูตรต่างๆ มีอยู่มากมาย เรื่องพญานาคราชเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา คนพอมีการศึกษาบ้าง น่าจะรู้นะ
ไม่ใช่ว่า เห็นใครพูด-ใครอ้าง ถึงพระพุทธเจ้า ถึงคำสอนทางพระพุทธศาสนก็หัวเราะเยาะ
ว่าเป็นคนเชย เป็นพวกโบราณ
แต่ถ้าอ้าง ซิเซโร, อริสโตเติล, เพลโต, แอคไกวนัส, โบแดง, โธมัส ฮอบส์ แม้กระทั่ง แซง ฌุสต์ ขวัญใจปิยบุตรนั่นก็เถอะ โห…ทรงภูมิ เป็นคนรุ่นใหม่ เท่เป็นบ้า!
เอ้า….
ลองอ่านนี่ซิ ว่าคนพูดด้วยข้อความเหล่านี้ รุ่นใหม่หรือรุ่นเก่า คุณสมชัยด้วย ลองทายดู
“ศาสนาในอนาคตจะต้องเป็นศาสนาสากล ศาสนานั้นควรอยู่เหนือพระเจ้าที่มีตัวตน และควรจะเว้นคำสอนแบบสำเร็จรูป ที่ให้เชื่อตามเพียงอย่างเดียว และแบบเทววิทยา คือแบบพึ่งเทวดาเป็นหลักใหญ่
ศาสนานั้น เมื่อครอบคลุมทั้งธรรมชาติและจิตใจ จึงควรมีรากฐานอยู่บนสามัญสำนึกทางศาสนาที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ต่อสิ่งทั้งปวง คือทั้งธรรมชาติและจิตใจ อย่างเป็นหน่วยรวมที่มีความหมาย
“พระพุทธศาสนา ตอบข้อกำหนดนี้ได้”
ถ้าจะมีศาสนาใดที่รับมือได้กับความต้องการทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่
ศาสนานั้น ก็ควรเป็นพระพุทธศาสนา”
รู้มั้ยครับ ใครคือผู้พูดข้อความนี้?
“อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์” ศาสดาวิทยาศาสตร์ของมนุษย์ในศตวรรษที่ ๒๐ นั่นไงล่ะครับ!
สูงสุดทางวิทยาศาสตร์ของไอน์สไตน์ คืนสู่สามัญด้วยศึกษาและยอมรับคำสอนของพระพุทธองค์ในที่สุด!
