‘ทิพานัน’ ย้ำความสำเร็จนายกฯ นโยบาย SOFT POWER ติดอันดับ 35 ของโลก ดันมรดกทางวัฒนธรรมประเทศไทยติดอันดับ 1 ของอาเซียน เผยยูเนสโกกำลังพิจารณาขึ้นทะเบียน’ต้มยำกุ้ง’และ’สงกรานต์’เป็นมรดกโลก ยินดีเพื่อไทยหนุน หวังความร่วมมือไม่ใช่สักแต่ค้านเหมือนในอดีต เพื่อความเจริญของประเทศ
21 เมษายน 2565-น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตผู้สมัครส.ส.กทม. เขตจอมทอง-ธนบุรี กล่าวถึงประเด็น soft power ว่า รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ส่งเสริมนโยบาย soft power มาโดยตลอด เพราะประเทศไทยมีความพร้อมทางต้นทุนและมีศักยภาพสูงที่จะถูกผลักดันให้อยู่ในระดับแนวหน้าของโลก โดยเฉพาะเรื่องอาหาร ธรรมชาติ สุขภาพ เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากนโยบาย soft power ทั้งในเรื่องสถานะและอิทธิพลของประเทศไทยในเวทีสากล รวมถึงยังเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานราก ยกระดับคุณภาพชีวิตโดยการเพิ่มและกระจายรายได้ให้ชุมชนที่เป็นเจ้าของต้นทุนทรัพยากรดังกล่าว
“ปัจจุบันรัฐบาลได้เดินหน้า soft power เพื่อการส่งเสริม การสร้างพลังทางวัฒนธรรมที่ส่งผลต่อพฤติกรรมต่างๆของกลุ่มเป้าหมาย ต่อความชอบ มุมมองหรือแนวคิด เพื่อดึงดูดให้สนใจในประเทศไทยมากขึ้น ทันสมัยมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยได้คะแนนจาก Global Soft Power Index 2022 อยู่ที่ 40.2.คะแนน บวกขึ้นมา 1.5 คะแนนจากปีก่อน ซึ่งตรงนี้เป็นแนวโน้มที่ดี ถึงแม้อันดับเปลี่ยนจาก 33 มาเป็น 35 เนื่องจากมีประเทศอื่นที่เข้ามาพิจารณาอื่นๆเพิ่มเติม แต่เมื่อพิจารณาจาก 120 ทั่วโลก ถือได้ว่าอยู่ในอันดับที่สูง ซึ่งตรงนี้คือความสำเร็จของรัฐบาล และรัฐบาลยังคงเดินหน้าส่งเสริมให้ไทยมีศักยภาพในการนำ Soft Power มาส่งเสริมเศรษฐกิจในเวทีโลกให้ดียิ่งขึ้น” น.ส.ทิพานัน กล่าว
“ที่ผ่านมารัฐบาลมีความสำเร็จ ในการผลักดันเอกลักษณ์วัฒนธรรมไทยที่เป็นรากฐานทุนทางวัฒนธรรมที่จะส่งเสริม soft power ให้ติดระดับโลก เช่น ล่าสุดจากการจัดอันดับประเทศที่มีมรดกวัฒนธรรมที่ดีที่สุดประจำปี 2564 (Best Countries Heritage 2021) โดย the BAV Group และ the Wharton School of the University of Pennsylvania ประเทศไทยได้อันดับ 7 ของโลก และในการจัดอันดับด้านมรดกทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจ ประเทศไทยได้อันดับ 1 ของอาเซียน ซึ่งประเมินจาก 5 ปัจจัย คือ การเข้าถึงวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ความดีเลิศด้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวด้านวัฒนธรรม และสถานที่ท่องเที่ยวด้านภูมิศาสตร์ ซึ่งเป็นปัจจัยส่วนหนึ่งจากความสำเร็จที่ประเทศไทยดำเนินการขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมกับองค์การ UNESCO มาอย่างต่อเนื่องทุกปี ตั้งแต่ปี 2561 มาโดยตลอด ซึ่งปัจจุบัน UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนโขน นวดแผนไทย โนรา เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมแห่งมนุษยชาติไปแล้ว และกำลังพิจารณา “ต้มยำกุ้ง” สำหรับปี 2565 และ “ประเพณีสงกรานต์” สำหรับปี 2566” น.ส.ทิพานัน กล่าว
น.ส.ทิพานัน กล่าวต่อว่า ในส่วนการส่งเสริม soft power ที่เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของไทยปัจจุบัน รัฐบาลได้ให้ความสำคัญ แบ่งเป็น 6 ด้าน ขึ้นทะเบียนแล้ว 305 รายการ ได้แก่ ศิลปะการแสดง 149 รายการ งานช่างฝีมือดั้งเดิม 43 รายการ วรรณกรรมพื้นบ้านและภาษา 56 รายการ กีฬาภูมิปัญญาไทย 14 รายการ แนวปฏิบัติทางสังคม พิธีกรรมและงานเทศกาล 21 รายการ ความรู้และแนวปฏิบัติเกี่ยวกับธรรมชาติและจักรวาล 22 รายการ ซึ่งประกอบด้วยอาหาร 14 รายการ ได้แก่ แกงเขียวหวาน กระยาสารท ขนมเบื้อง ข้าวยำ ข้าวหลาม ต้มยำกุ้ง น้ำปลาไทย น้ำพริก ปลาร้าปลาแดก ผัดไทย สำรับอาหารไทย ส้มตำ อาหารบาบ๋า แกงเผ็ด
ทั้งนี้รัฐบาลยังได้มองลงรายละเอียดไปถึง มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมระดับจังหวัด ที่รัฐบาลให้การส่งเสริมตามแนวทาง soft power นั้น ปัจจุบันมี 76 จังหวัด รวม 338 รายการ โดยมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมระดับจังหวัด เช่นของกรุงเทพมหานคร ที่รู้จักกันดี 4 รายการ คือ ขนมฝรั่งกุฎีจีน ละครชาตรีบางกอกถิ่นสนามควาย บาตรบ้านบาตร และประเพณีอัฏฐมีบูชา ซึ่งปัจจุบันก็ยังมีการขยายภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมในแต่ละเขตกรุงเทพมหานครอย่างต่อเนื่อง
“ดังนั้นสิ่งที่รัฐบาลได้วางรากฐานไว้ พรรคเพื่อไทยหยิบไปขยายผล “ผลักดันนโยบาย ‘50 เขต 50 ซอฟต์พาวเวอร์’ เช่น ผัดไทย ต้มยำกุ้ง บ้านบาตร ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่พรรคเพื่อไทยเห็นด้วยกับนโยบายและผลงานที่ท่านนายกฯ ได้ดำเนินการสำเร็จมาแล้ว และนำไปเผยแพร่ผลต่อ ดังนั้น หลังจากนี้หวังว่าในนโยบายด้านดังกล่าวหรือนโยบายดีๆ ของรัฐบาลจะได้รับความร่วมมือและนำไปใช้อย่างต่อเนื่อง ไม่ค้านทุกเรื่องเหมือนในอดีต ทั้งหมดนี้ก็เพื่อประโยชน์และความเจริญของประชาชนและประเทศชาติต่อไป” น.ส.ทิพานัน กล่าว
