เปลว สีเงิน
สถานการณ์ “วิกฤตสงคราม” อย่างนี้
ใครเป็นรัฐบาล “หนัก” ก็ไม่เท่า “เครียด”!
หนัก…
ไม่ใช่หนักที่ต้องไปรบกับใคร
หากแต่ทุกผลกระทบที่เกิดขึ้น มันไปกระแทกชีวิต, เศรษฐกิจ, สังคม จนเกิดภาวะ “ทุกข์ประชาชน” ถ้วนหน้า
และ “ทุกข์ประชาชน” นี่แหละ….
คือ “ทุกข์ท่วมใจ” คนเป็นนายกฯ ทำให้ต้องเครียด
เห็นนายกฯ ประยุทธ์แต่ละวัน งกๆ ในแต่ละเรื่อง ในแต่ละปัญหา ในแต่ละความต้องการแห่งตัณหามนุษย์
ไม่อยากบอกว่าสงสาร
แต่ขอบอกว่า “เห็นใจ” ด้วยเข้าใจ!
ในความรู้สึกลึกๆ ผมแอบดีใจ ว่าโชคดีของบ้านเมือง ที่สถานการณ์อย่างนี้ ได้คนอย่าง “พลเอกประยุทธ์” มาคัดท้ายประเทศ”
ลำพัง “ยูเครน-รัสเซีย” จะว่าไป เนื้อแท้ปัญหาอยู่ในวงจำกัด โลกไม่เดือดร้อนด้วยเท่าไหร่
ที่มันเดือดร้อนไปทั้งโลกรวมทั้งไทย ก็ตรงสหรัฐฯ และอียู วางตำแหน่ง “ยูเครน” เป็นร่างทรงของเขานี่แหละ
เมื่อรัสเซียตบหน้าสั่งสอนยูเครน
สหรัฐฯ และอียูจึงทึกทักว่า “ตบหน้า” เขาประมาณนั้น
อียู “คนบ้านใกล้” รัสเซียน่ะ ไม่เท่าไหร่หรอก
แต่สหรัฐ “คนบ้านไกล” ซึ่งเหล่รัสเซียอยู่แล้วนั่นแหละ อ้างเป็นผู้พิทักษ์โลก จะเช็คบิลรัสเซียให้ได้
ปัญหามันจึงบานปลาย………
จากสองคนทะเลาะกัน ลามเป็นปัญหาเศรษฐกิจ การค้า การเงิน การเมือง ระหว่างขั้วตะวันตก “สหรัฐ+พันธมิตรยุโรป กับขั้วตะวันออก” “รัสเซีย+จีน+อินเดีย” สะเทือนไปทั้้งโลก
“สงครามโลก ครั้งที่ ๓” ก็หวั่นกันไปถึงขั้นนั้นแล้ว!
สหรัฐพยายามให้ประเทศต่างๆ “แบ่งขั้ว-เลือกข้าง” กรณีอย่างนี้ สร้างความอิหลัก-อิเหลื่อให้บ้านเล็ก-เมืองน้อยมากทีเดียว
“รวมทั้งไทย”
รัสเซีย ก็ญาติสนิท สหรัฐก็มหามิตรประเทศ ทั้งสองล้วนเป็นญาติ เป็นมิตร ที่แสนดีต่อกันมายาวนาน
เมื่อ ๒ ฝ่ายทะเลาะกัน จะให้ไทยเรา ซึ่งสนิทสนมรักใครทั้งสองฝ่าย เลือก “เข้าข้าง” ไปอยู่กับฝ่ายใด-ฝ่ายหนึ่ง
มิใช่ “วิสัยไทย” จะทำกับญาติกับมิตร!
ไทยที่เป็นได้กับทุกฝ่าย คือ
“ศาลาพักใจ”
ใครทุกข์ ใครเจ็บ-ใครไข้ ใครมีปัญหาอะไร ขาดเหลือเฟือฟายอะไร ทุกฝ่ายออกปากได้ พึ่งพิงได้
นี่แหละคือ “ธรรมชาติที่ไทยเป็น”!
“ชาติมหาอำนาจ” ทั้งหลาย ไม่ว่า สหรัฐ รัสเซีย จีน เขาก็เข้าใจธรรมชาติที่เป็นเช่นนี้มาตลอดของไทย เขาจึงไม่คาดคั้นมั่นตายเอากับไทย “ตามต้องการเขา” ไปทุกเรื่อง
อย่างที่ประชุมสหประชาชาติ มีข้อเรียกร้องให้รัสเซียยุติการสู้รบและถอนทหารออกจากยูเครน เรียกว่าประณามรัสเซียที่บุกยูเครนประมาณนั้น
เรื่อง “สิทธิในอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน” มันเป็นหลักการสากลของสหประชาชาติอยู่แล้ว
เมื่อให้ประเทศสมาชิกโหวต ในฐานะไทยเป็นประเทศสมาชิก จึงเป็นความชอบธรรมที่ “โหวตเห็นชอบ” เป็น ๑ ใน ๑๔๑ ชาติ อันเป็นส่วนใหญ่
ทั้งรัสเซียทั้งสหรัฐก็เข้าใจ เรื่องยูเอ็น เป็นเรื่องของหลักการร่วม ไม่สะท้อนทางปฏิบัติ “เฉพาะตัว-เฉพาะประเทศ”
และทราบข่าวกันแล้วใช่ไหม?
๒๘-๒๙ มีนา.นี้ นายกฯ ประยุทธ์และรัฐมนตรีต่างประเทศ “ดอน ปรมัตถ์วินัย”
เดินทางไปประชุมสุดยอดพิเศษของสหรัฐอเมริกากับสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ที่ “กรุงวอชิงตัน”
ตามคำเชิญของประธานาธิบดี “โจ ไบเดน”!
ไม่ใช่มีเรื่อง “ยูเครน-รัสเซีย” แล้วปุบปับเชิญกลุ่มประเทศอาเซียน ทำนองเชิญไป “บีบให้เลือกข้าง” อย่างที่มีบางคนพูด
“ทำเนียบขาว” เขาแถลงเรื่องเชิญนี้มาก่อนแล้ว ตั้งแต่เดือนกุมภา.โน่น
ในวาระ “เฉลิมฉลองครบรอบ ๔๕ ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสหรัฐและอาเซียน”
แล้วไทย ทั้งในฐานะกลุ่มประเทศอาเซียน ทั้งในฐานะมหามิตร ครั้งหนึ่ง ตอนสงครามมหาเอเชียบูรพา ……..
ไทยเคยประกาศสงครามกับสหรัฐฯ ด้วยซ้ำ
แต่เมื่อญี่ปุ้นแพ้ ไทยกลับชนะสงคราม นั่นก็เพราะ “มหามิตรสหรัฐฯ” ช่วยเหลือ
และนี่ เมื่อมหามิตรให้เกียรติ เชิญผู้นำประเทศไทยในฐานะอาเซียน ไปร่วมประชุม เฉลิมฉลองความสัมพันธ์ ๔๕ ปี “สหรัฐ-อาเซียน”
นับเป็นเรื่องน่ายินดี และควรกระตือรือร้นอย่างยิ่ง ที่จะเดินทางไปร่วมตามคำเชิญที่วอชิงตัน
พวกคิดหยุดหยิม พวกมองยาวไม่เลยหนวดมด รู้จักรักชาติแบบ “วางเฉย” เสียบ้างก็ได้
การรู้จักมรรยาทสังคม การรู้ว่า “การอยู่ร่วมบนฐานอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน” ควรจะประพฤติ-ปฎิบัติและวางตนแบบไหน
ผู้มี “คุณสมบัติผู้ดี” น่าจะเข้าใจมิใช่หรือ?
น่าเกลียดมาก ที่ใครจะยกเรื่อง “ยูเครน-รัสเซีย” ไปสรุปรวมกับที่สหรัฐฯเชิญกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งมีไทยด้วยไปประชุมที่วอชอิงตัน ว่า “เรียกบริวารไปรับคำสั่ง”
และนี่ สมมติว่า รัสเซียเชิญผู้นำไทยไปประชุม ในวาระเฉลิมฉลองสัมพันธ์ระหว่าง “รัสเซีย-ไทย” อะไรสักอย่าง
แน่นอน……
นายกฯ ต้องยินดีไปร่วมประชุมตามคำเชิญ คนไทยต้องรู้ ว่าที่ไทยไม่ตกเป็นเมืองขึ้นนักล่าอาณานิคมอย่างฝรั่งเศส-อังกฤษ
ส่วนหนึ่ง นั่นไม่เพราะ “พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ ๒ แห่งรัสเซีย” ดอกหรือ?
“……….พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ เสด็จฯ โดยรถไฟจากกรุงเบอร์ลินถึงกรุงเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก เมื่อวันที่ ๓ กรกฎาคม ๒๔๔๐ เวลา ๒๑.๓๐ น. พระเจ้าซาร์เสด็จฯ มารับที่สถานีรถไฟ
ทั้งสองพระองค์ประทับรถพระที่นั่งไปสู่พระราชวังปีเตอร์ฮอฟซึ่งจัดเป็นที่ประทับ
ในการเสวยพระกระยาการค่ำในวันที่ ๔ กรกฎาคม สมเด็จพระปิยะมหาราช ทรงถือโอกาสปรับทุกข์ถึงการรุกรานของมหาอำนาจจากยุโรป
ในเช้าวันรุ่งขึ้น “พระเจ้าซาร์” จึงจัดให้มีการฉายพระรูปร่วมกันที่พระราชวังปีเตอร์ฮอฟ
อีกทั้งยังทรงรับสั่งให้ราชสำนักรัสเซีย นำภาพที่ “คิงจุฬาลงกรณ์” จากสยามประทับคู่กับพระเจ้าซาร์แห่งรัสเซีย ส่งไปยังหนังสือพิมพ์ที่ออกในเมืองหลวงของทุกประเทศในยุโรปทุกฉบับ
ทั้งยังทรงเขียนคำอธิบายภาพด้วยพระองค์เองว่า
“สยามเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา หาใช่ประเทศล้าหลังซึ่งมหาประเทศจะอาศัยเป็นมูลเหตุเข้ายึดครองมิได้” (โรม บุนนาค)
นี่……..
ส่วนหนึ่งแห่งรากเหง้า “ดำรงชาติไทย” ในส่วนสัมพันธ์ดุจญาติ-ดุจมิตร ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ และรัสเซีย มีห่วงสร้อยร้อยรัดประหวัดถึงรู้คลายประมาณนี้
ฉะนั้น จะรุ่นใหม่-รุ่นเก่า หรือไม่มีรุ่น ก็ตาม ควรศึกษาหารู้ในการมองโลก-ประมวลความ เพื่อการอยู่ร่วมโลก-ร่วมสังคม แบบอารยชาติที่รู้จักแยกแยะ แล้วบริหารการวางตัว-วางตนให้ถูกต้อง เหมาะสม
จะเป็นคุณ “ทั้งเขา-ทั้งเรา” สถานเดียว!
การเป็นรัฐบาล เป็นนายกฯ น่ะ เป็นไม่ยากหรอก
ที่ยากคือ “เป็นแล้ว” ทำประโยชน์อะไรให้สังคมชาติและประชาชน “อยู่รอด-อยู่สุข” ตามกาล ตามฐานานรูปอันควรตะหาก
ปลายมีนา.นายกฯ “นิราศร้างห่างเคหา” ถือว่าถูกโฉลก เหมือนฟ้า-ดินจัดสรร
ไปจากประเทศ…..
มีคนอื่น “รักษาการแทนในตำแหน่งนายกฯ” ชั่วคราว นั่นเท่ากับ “พ้นจากเก้าอี้นายกฯ” ไปแล้ว
แล้วกลับมารับ “เมษา.เยือน”
เป็น “นิวประยุทธ์” พฤหัสบดีแห่งความเป็นใหญ่ประทับ ทุกอย่างจะปรับเปลี่ยน “ร้ายเวียนเป็นดี” ทีนี้ละ…เมิ้ง!
เมื่อ ๑ พฤศจิกา.๖๔ นายกฯ ไปร่วมประชุม World Leaders Summit ที่เมืองกลาสโกว์ สกอตแลนด์ สหราชอาณาจักร
ในการสนทนากับประธานาธิบดี “โจ ไบเดน” นายกฯ ได้เชิญ “โจ ไบเดน” มางาน APEC ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ พฤศจิกา. นี้ มิใช่หรือ?
ท่านไปคราวนี้ อย่าลืม “คอนเฟิร์ม”ละกัน!