ประตูสู่การส่งเสริมกิจการอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ

สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ หรือ สทป. เป็นหน่วยงานตามพระราชบัญญัติเทคโนโลยีป้องกันประเทศ พ.ศ. 2562 มีหน้าที่และอำนาจในการประกอบกิจการอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ รวมไปถึงสามารถจัดตั้งนิติบุคคล การเข้าร่วมทุน ถือหุ้น หรือเป็นหุ้นส่วนร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน โดยมีวัตถุประสงค์ที่สำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนกิจการอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของกระทรวงกลาโหม และหน่วยงานอื่นของรัฐ รวมถึงภาคเอกชนในการพัฒนาบุคลากรด้านเทคโนโลยีป้องกันประเทศและอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ

ด้วยเหตุนี้สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศจึงเล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพในการผลิตยุทโธปกรณ์ โดยสอดคล้องตามยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง และด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งออกอุตสาหกรรมความมั่นคงนั้น

สทป. เป็นองค์การมหาชนเพียงรายเดียวในประเทศที่สามารถดำเนินกิจการดังกล่าวได้ อีกทั้งรัฐบาลยังได้กำหนดให้เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษอันดับที่ 11 (S-Curve 11) และได้ออกนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ อาทิ การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี โดยไม่กำหนดวงเงิน การยกเว้นอากรนำเข้าเครื่องจักรและวัตถุดิบเพื่อการส่งออก เป็นต้น

นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรียังได้ให้ความเห็นชอบในหลักการให้สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ พิจารณาความเหมาะสมความเป็นไปได้ในการจัดเตรียมพื้นที่รองรับอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ เพื่อเป็นศูนย์รวมกำลังการผลิตเพื่อการแข่งขันในระดับนานาชาติ โดยคาดหมายว่าอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ (Defense Industry) จะเป็นตลาดที่มีศักยภาพขนาดใหญ่ในอนาคต


ดังนั้น สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศจะต้องเร่งยกระดับขับเคลื่อนอุตสาหกรรมป้องกันประเทศให้บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ด้วยการบูรณาการทุกภาคส่วนผลักดันให้เกิดต้นแบบยุทโธปกรณ์ที่เกิดจากการวิจัยและพัฒนาที่ตรงตามความต้องการของกองทัพ และมีมาตรฐานได้รับการยอมรับในระดับสากล พร้อมทั้งจะต้องสามารถนำเอาต้นแบบยุทโธปกรณ์ไปขยายผลเชิงพาณิชย์ในขั้นอุตสาหกรรมเพื่อเข้าสู่สายการผลิต

รวมทั้งมีการให้บริการหลังการขายเพื่อเป็นหลักประกันให้เกิดความมั่นใจและความต่อเนื่องในการใช้งาน หรือสามารถซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์เพื่อยืดอายุการใช้งานและต่อยอดเทคโนโลยีให้สอดคล้องกับภารกิจของกองทัพในห้วงเวลา อันจะส่งผลให้ประเทศไทยมีการพัฒนาอุตสาหกรรมด้านการป้องกันประเทศได้อย่างก้าวกระโดด ทำให้เกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง เกิดการจ้างงาน และการใช้วัตถุดิบภายในประเทศ อันจะช่วยทำให้มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งการขยายตัวทวีคูณทางเศรษฐกิจ (Multiplier) ซึ่งจะส่งผลทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อผลประโยชน์ของชาติในเชิงบวก

ปัจจุบันสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศได้ผลักดันให้เกิดโครงการร่วมทุนในกิจการอุตสาหกรรมป้องกันประเทศสำเร็จแล้วจำนวน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการอากาศยานไร้คนขับ (UAV) โครงการอาวุธและกระสุน และโครงการยานเกราะล้อยางแบบ 4X4 นอกจากนี้สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศกำลังเตรียมความพร้อมที่จะดำเนินโครงการต่าง ๆ ให้ครอบคลุมตามเทคโนโลยีเป้าหมายที่กำหนดไว้ต่อไป

Written By
More from pp
“รทสช” เชื่อมั่น 4 รัฐมนตรีในโควตาพรรค พร้อมเดินหน้าสร้างผลงาน ยึดมั่นในผลประโยชน์ของประเทศชาติ และพี่น้องประชาชน บนจุดยืนและอุดมการณ์ในการปกป้อง-รักษาสถาบันที่เป็นเสาหลักของประเทศ
ภายหลังจาก เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้ลงประกาศพระบรมราชโองการ แต่งตั้งรัฐมนตรีชุดใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น โดยพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีจำนวน 4 ท่าน ประกอบด้วย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ...
Read More
0 replies on “ประตูสู่การส่งเสริมกิจการอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ”