ผักกาดหอม
ไม่ธรรมดานะ
ถ้ามองว่า “ลุงตู่” เป็นนายกฯ เผด็จการทหารเบ็ดเสร็จ และบริหารประเทศนานถึง ๘ ปี
ประเทศไทยมันต้องมีอะไรบกพร่องสักอย่างแน่นอน
โลกยุคใหม่ ประชาชนสามารถแสดงออกผ่านโซเชียลแทบจะไร้ขีดจำกัด การมีผู้นำเผด็จการอยู่ในอำนาจ และใช้อำนาจอย่างเผด็จการนั้นต่อเนื่องยาวนาน เป็นอะไรที่ขัดแย้งอย่างสิ้นเชิง
เผด็จการแทบจะไม่มีที่ยืนในโลกเช่นกรณี รัฐบาลทหารเมียนมา เป็นต้น
นักวิชาการ น่าจะศึกษาทำวิจัยว่า รัฐบาลประยุทธ์สามารถอยู่ในโลกที่คนรุ่นใหม่บอกว่า เสรีภาพคือชีวิตมาได้อย่างไร
มีความผิดปกติในความเป็นเผด็จการ
หรือ เพราะประชาธิปไตยผิดพลาดกันแน่
ฝ่ายซ้ายอ่อนแอ
หรือฝ่ายขวามีพลังมากกว่า
มองในแง่ของสถานการณ์โลกถือว่า มีความผิดปกติที่ต้องค้นหา เพราะความจริงแล้ว ซ้าย ขวา เป็นเรื่องของความรู้สึกของคนบางกลุ่ม ที่เอาอดีตของตัวเองมาตัดสินเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
แม้กระทั่ง เผด็จการ และ ประชาธิปไตย ก็ยังผิดฝาผิดตัว
เผด็จการเทียม ประชาธิปไตยปลอม
นี่คือความจริงที่การเมืองไทยเป็นอยู่
ก็ตามที่รับรู้กัน ฝ่ายรัฐบาลถูกมองว่าเป็นพวกเผด็จการ สืบทอดอำนาจ
ส่วนฝ่ายค้าน ยกยอตัวเองเป็นฝ่ายประชาธิปไตย อ้างว่าทำเพื่อประชาชน แต่กลับมีพฤติกรรมฝักใฝ่เผด็จการ
เช่นกรณี พรรคเพื่อไทยเสนอแก้กฎหมายพรรคการเมืองให้ บุคคลภายนอกแทรกแซงพรรคได้
หลับตาก็อ่านออกว่ากฎหมายนี้เขียนเพื่อ “ทักษิณ”
แล้วมันเป็นประชาธิปไตยตรงไหน
ก็แค่เปิดทางให้เจ้าของพรรคเข้ามาคุมพรรคอย่างถูกกฎหมาย ไม่มีอะไรเป็นประโยชน์ต่อประชาชนเลย
มีประเด็นร้อนที่ต้องพูดถึง
วานนี้ (๒๒ กุมภาพันธ์) ช่อ-พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า เข้าร่วมงานเสวนา Thai Politics Update: Polls, Players, Prospects ของ สถาบันศึกษาความมั่นคงและนานาชาติ (ISIS) คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองไทยในปัจจุบัน
โดยเฉพาะการเลือกตั้งทั่วไป และการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่มีการคาดการณ์ว่าน่าจะเกิดขึ้นภายในปีนี้
“ช่อ” บอกว่า….
….พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อาจไม่ลอยลำเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีต่อได้ง่ายดายในการเลือกตั้งครั้งหน้านัก
ประยุทธ์บริหารประเทศมานานมาก และนานเกินไปแล้ว ประยุทธ์บริหารประเทศมา ๘ ปี แล้วเป็นการบริหารประเทศมาผิดทาง ทำให้มีการทุจริตคอร์รัปชันในส่วนต่างๆ มากมาย และมีการบิดกฎหมายต่างๆ เพื่อสนับสนุนรัฐบาลประยุทธ์
นี่เป็นเหตุผลให้คนเรียกร้องการเลือกตั้งกันมากขึ้น
การเลือกตั้งครั้งหน้า พล.อ.ประยุทธ์น่าจะจบไม่สวยนัก หากดูตามการแบ่งเขตใหม่ กรุงเทพมหานครมีถึง ๓๓ เขต
หมายความว่าใครสามารถครองพื้นที่ กทม.ได้ ก็จะได้เก้าอี้ ส.ส.ไปได้จำนวนมากพอสมควร ซึ่งพรรคพลังประชารัฐไม่น่าจะสามารถครองพื้นที่ กทม.ไปได้มาก หากมีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ใครชนะไปก็มีโอกาสสร้างโมเมนตัมส่งต่อให้ได้เก้าอี้ ส.ส.ใน กทม.ด้วย ซึ่งคราวนี้ก็เชื่อว่าผู้สมัครจากฟากประชาธิปไตยจะชนะการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม….
“ช่อ” พูดถูกว่ากันตามฟอร์มขณะนี้ “ชัชชาติ” มาแรง แต่เลือกตั้ง ส.ส.อาจไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
“ช่อ” น่าจะเกิดทันปี ๒๕๔๗ เป็นปีที่ อภิรักษ์ โกษะโยธิน จากประชาธิปัตย์ ชนะเลือกตั้งได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. ในขณะนั้นพื้นที่เลือกตั้งใน กทม.เป็นของพรรคไทยรักไทย
เพราะการเลือกตั้ง ส.ส.ปี ๒๕๔๔ ประชาธิปัตย์แทบจะสูญพันธุ์ไปจาก กทม.
ได้มา ๘ คน จาก ๓๗ เขต
ที่เหลือเป็นของไทยรักไทย
กลับกัน หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร ชนะการเลือกตั้ง ได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. ปี ๒๕๕๒
ในขณะที่การเลือกตั้ง ส.ส.ปี ๒๕๕๐ ประชาธิปัตย์กลับมาทวงความยิ่งใหญ่ใน กทม. กวาดเก้าอี้ ส.ส.ไป ๒๗ ที่นั่ง เหลือให้พรรคพลังประชาชน ๙ ที่นั่งเท่านั้น
ช่วงเวลานั้นประชาธิปัตย์ชนะทั้งสนามเล็กสนามใหญ่
ฉะนั้นยังสรุปอะไรไม่ได้ครับ
มันก็คล้ายกับกรณี คณะก้าวหน้า แพ้การเลือกตั้งท้องถิ่น ทั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) อย่างราบคาบ
ขณะเดียวกันก็แพ้เลือกตั้งซ่อม ส.ส.ทุกเขตในช่วง ๑-๒ ปีที่ผ่านมา
เรียกได้ว่าแพ้ทุกสนามเลือกตั้ง
แต่พรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้า ยังหลงตัว คุยโม้โอ้อวดอยู่ตลอด ว่าได้รับความนิยมจากประชาชนสูงกว่าใคร
หนำซ้ำยังพยายามยัดเยียดความเชื่อให้มวลชนว่า แพ้เพราะอำนาจรัฐ
ก็น่าเห็นใจครับ เรียกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตย แต่ดันปล่อยให้เผด็จการครองประเทศนานถึง ๘ ปี แถมยังทุจริตคอร์รัปชันมากมาย
หากพูดในแง่จิตสำนึกประชาธิปไตยจริงๆ น่าจะเอาปี๊บมาคลุมหัว
ประชาธิปไตยประสาอะไรกัน ถึงถูกเผด็จการขี่คอยาวนานขนาดนั้น
นี่มันโลกยุคไหนแล้ว
มันเป็นไปได้จริงๆ หรือ
เว้นเสียแต่ว่า เป็นอุปาทานหมู่ อวยพวกตัวเองเป็นฝ่ายประชาธิปไตย มองฝั่งตรงข้ามเป็นเผด็จการ แต่ความเป็นจริง มันมิได้เป็นเช่นนั้น
และประชาชนจำนวนมาก ก็ไม่ได้มองว่ารัฐบาลเป็นเผด็จการ แต่ฝ่ายค้านต่างหากที่ถูกมองว่าเป็นสมุนคนโกง ที่มีคำพิพากษาศาลหลายศาลยืนยัน
ไม่ได้มโนเอาเอง
อีกความเชื่อที่น่ากลัวของ “ช่อ” คือการบอกว่า “การยุบพรรคอนาคตใหม่เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ของฝ่ายสนับสนุนประยุทธ์”
ขอตั้งคำถามตัวโตๆ ฝ่ายสนับสนุนประยุทธ์ ไปเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้
พรรคการเมืองกู้เงินหัวหน้าพรรค ผิดกฎหมาย จะให้ศาลตัดสินว่า ถูกครับนาย ใช่ครับท่าน อย่างนั้นหรือ
ประเด็นนี้มีความเป็นสากลครับ
บทวิเคราะห์การตัดสินยุบพรรคอนาคตใหม่จากมุมมองทางรัฐศาสตร์ ? (ตอนสุดท้าย) ของ อาจารย์ไชยันต์ ไชยพร ตอนหนึ่งระบุไว้ว่า
“…ถ้ากฎหมายไทยมีช่องโหว่ทำให้ต้องตีความว่าพรรคการเมืองสามารถกู้เงินหัวหน้าพรรคได้เป็นจำนวนไม่จำกัด ก็ต้องมีการแก้ไขอุดช่องโหว่เหมือนในกรณีพรรคแรงงานในสหราชอาณาจักรกู้เงินจากปัจเจกบุคคลและเกิดกรณีฉาวโฉ่ว่า พรรคมีพันธะที่จะต้องเสนอชื่อบุคคลที่เป็นเจ้าหนี้ให้ได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาขุนนาง ซึ่งต่อมา รัฐสภาได้ออกกฎหมายมาควบคุมปิดช่องโหว่เกี่ยวกับการเงินของพรรคการเมือง…”
มันคือหายนะที่หลายๆ ประเทศกลัว และหาทางแก้ไข
แต่ฝ่ายประชาธิปไตยในประเทศไทยบอกว่า แค่ยืมเงิน เรื่องเล็ก ยืมแล้วก็คืน
มิน่า “ลุงตู่” ถึงอยู่มาได้ ๘ ปี